เป็นบทสัมภาษณ์จากช่อง Colin and Samir ที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องราวของ Instagram จากปากสุดยอดซีอีโออย่าง Adam Mosseri ที่ได้พูดคุยเกี่ยวกับวิวัฒนาการของแพลตฟอร์ม การแข่งขันกับ TikTok ความท้าทายในการแบ่งรายได้ให้กับครีเอเตอร์ ความสำคัญของตัวชี้วัดด้านการมีส่วนร่วม และการโฟกัสในการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้
Highlights
📸 Instagram ได้พัฒนาจากแพลตฟอร์มที่เน้นรูปภาพสี่เหลี่ยมจัตุรัสไปสู่เนื้อหาที่หลากหลาย โดยวิดีโอกลายเป็นสิ่งที่ผู้ใช้มีส่วนร่วมมากที่สุดในปัจจุบัน
🤝 Instagram โฟกัสในเรื่องการเชื่อมต่อผู้คนกับเพื่อนๆ ผ่านเนื้อหาวิดีโอแบบมีส่วนร่วม โดยเน้นความสำคัญของอัตราส่วนของการแชร์ต่อการเข้าถึงเพื่อเป็นข้อมูลให้อัลกอริธึมสำหรับการจัดอันดับเนื้อหา
🤩 แพลตฟอร์มให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์และกระตุ้นให้ผู้ใช้แชร์กับเพื่อน ส่งผลให้เกิดการมีส่วนร่วมและการเข้าถึงที่สูงขึ้น
💰 แม้ว่าการแบ่งปันรายได้จะมีความสำคัญ แต่ Instagram กำลังศึกษาแรงจูงใจตามผลงานที่แท้จริงของครีเอเตอร์ โดยโฟกัสไปที่โปรแกรมการแบ่งรายได้ที่มีความยั่งยืน
💡 โมเดลการแบ่งปันรายได้ของ YouTube shorts ถือเป็นก้าวที่ดี แม้ว่าผลกระทบต่อธุรกิจโดยรวมของแพลตฟอร์มยังไม่ชัดเจน
🚀 จุดแข็งของ TikTok คือการเปิดโอกาสให้กับครีเอเตอร์รายเล็ก ๆ และช่วยให้พวกเขาได้รับความนิยม แม้ว่ารูปแบบการแบ่งปันรายได้อาจไม่แข็งแกร่งเท่า YouTube
Key Insights
📹 การโฟกัสเนื้อหาวิดีโอสั้นของ Instagram เช่น Reels ได้เปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์มอย่างมีนัยสำคัญ โดยมากกว่าครึ่งของเวลาที่ user ใช้งาน Instagram เป็นการเสพเนื้อหาวิดีโอ การเปลี่ยนแปลงไปสู่วิดีโอนี้ช่วยให้เกิดประสบการณ์ที่มีส่วนร่วมมากขึ้นสำหรับผู้ใช้ โดยเน้นการแชร์และการมีส่วนร่วมมากกว่าการโพสต์เพียงแค่รูปภาพเพียงอย่างเดียวแบบดั้งเดิมของแพลตฟอร์ม
🔍 อัลกอริทึมบน Instagram ให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่สร้างการมีส่วนร่วมในระดับสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการแชร์ ตัวชี้วัดที่เรียกว่า “sends per reach” มีความสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดความสำเร็จของโพสต์ เนื่องจากมันแสดงถึงเนื้อหาที่กระตุ้นให้ผู้ใช้แชร์กับเพื่อนๆ ซึ่งนำไปสู่การมีส่วนร่วมและการสนทนามากยิ่งขึ้น
💡 แนวทางของ Instagram ในการสร้างรายได้ให้กับครีเอเตอร์โฟกัสไปที่ครีเอเตอร์แบบรายบุคคลมากกว่าสื่อหรือสำนักพิมพ์ โดย Instagram มีความตระหนักถึงความสำคัญของการเชื่อมต่อระหว่างเพื่อน ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มที่มีการเปลี่ยนถ่ายอำนาจจากสถาบันหรือองค์กรธุรกิจไปสู่บุคคลทั่วไปในอุตสาหกรรมต่างๆ เพิ่มมากขึ้น
💰 แม้ว่าการแบ่งปันรายได้จะเป็นความกังวลที่สำคัญสำหรับครีเอเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครีเอเตอร์ระดับท็อป แต่ Instagram มองในเรื่องความยั่งยืน เนื่องจากธรรมชาติที่ผันผวนของเนื้อหาวิดีโอสั้น แพลตฟอร์มกำลังศึกษาโปรแกรมสร้างแรงจูงใจแบบใหม่ ๆ เพื่อสนับสนุนครีเอเตอร์ แต่ด้วยความซับซ้อนของการให้เครดิตของวีดีโอที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาและเรื่องของ ROI ทำให้เกิดความท้าทายในการสร้างสมดุลระหว่างค่าตอบแทนของครีเอเตอร์และความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจ
📊 Mosseri ได้เน้นย้ำมาก ๆ เกี่ยวกับความสำคัญของการสร้างกระแสรายได้ที่สม่ำเสมอสำหรับเหล่าครีเอเตอร์ แม้ว่าโมเดลการแบ่งปันรายได้สามารถสร้างมูลค่าได้ แต่ธรรมชาติที่ผันผวนของรายได้จากการโฆษณาทำให้เกิดความท้าทายในการรักษารายได้ที่สม่ำเสมอสำหรับครีเอเตอร์ในระยะยาว
🎥 การนำรูปแบบการแบ่งปันรายได้มาใช้สำหรับเนื้อหา shorts ของ YouTube สะท้อนให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์เพื่อแข่งขันในตลาดวิดีโอสั้น ซึ่งอาจมีต้นทุนในการอัดเม็ดเงินให้กับเหล่าครีเตอร์เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด การโฟกัสไปที่การสนับสนุนครีเอเตอร์รายเล็ก ๆ และส่งเสริมการเติบโตในเนื้อหาแบบวีดีโอสั้นแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ YouTube ในการปรับตัวให้เข้ากับแนวโน้มที่เปลี่ยนแปลงของการผลิตและบริโภคคอนเทนต์
🌐 วิวัฒนาการของโมเดลการสร้างรายได้ของครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Instagram และ YouTube เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างสมดุลระหว่างการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ คุณภาพของเนื้อหา และความยั่งยืนทางการเงินของธุรกิจ เมื่อรูปแบบของการสร้างเนื้อหายังคงพัฒนาต่อไป แพลตฟอร์มต่างๆ ก็ต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับความซับซ้อนของการแบ่งปันรายได้ เสถียรภาพ และการเติบโตของธุรกิจเพื่อสนับสนุนความหลากหลายของครีเอเตอร์โดยรวม
Opinion
ต้องบอกว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้กับแพลตฟอร์มต่าง ๆ มันชัดเจนแล้วว่ากำลังดำเนินไปในทิศทางรูปแบบวีดีโอสั้นแบบหนีไม่ได้ ซึ่งผมว่าหลายๆ คนก็ไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ ส่วนตัวผมเองคนนึงก็ไม่เคยอินเลยกับพวกรูปแบบวีดีโอสั้นเหล่านี้ เพราะดูเหมือนทำให้เราโฟกัสกับสิ่งต่าง ๆ น้อยลงไปทุกที
Instagram เป็นแพลตฟอร์มใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ กับยุคใหม่ที่นำโดย Adam Mosseri นั้น ผมมองว่าคือหนึ่งในผู้บริหารระดับท็อปคนหนึ่งที่สามารถพลิกสถานการณ์จากที่เคยจะเพลี่ยงพล้ำให้กับ TikTok แต่สุดท้าย Instagram ก็สามารถกลับมาครองบัลลังก์ความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง ดูได้จากเทรนด์ยอดดาวน์โหลดที่กลับมาแซง TikTok เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Mosseri เน้นย้ำหลายครั้งในเรื่องความยั่งยืน ซึ่งผมว่านี่คือคีย์หลักของแพลตฟอร์มของพวกเขา ที่ต้องการให้ครีเอเตอร์อยู่ได้ในระยะยาวและสร้างกระแสเงินสดเลี้ยงตัวเองอยู่ได้ ไม่ใช่ไปรับเงินแบบฉาบฉวยที่ถูกอัดเงินโปรโมทมาซึ่งแน่นอนว่ามันกอบโกยได้เพียงระยะสั้นเพียงเท่านั้น
โลกของสื่อสังคมออนไลน์กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่าเราทุกคนล้วนมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตของมัน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ทั่วไปหรือครีเอเตอร์ ทุกการแชร์ ทุกการมีส่วนร่วมของเราทุกคน ล้วนแล้วแต่มีผลต่อวิวัฒนาการของแพลตฟอร์มเหล่านี้แทบจะทั้งสิ้น ถ้าเราอยากเห็นแพลตฟอร์มเหล่านี้เป็นอย่างไร ก็อยู่ที่ตัวพวกเรานี่แหละครับที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงให้กับพวกมัน
แล้วคุณล่ะ คิดว่าอนาคตของ Instagram และสื่อสังคมออนไลน์จะเป็นอย่างไร? อย่าลืมแชร์ความคิดเห็นของคุณกันได้นะครับผม