สรุปเนื้อหา เมื่อ BYD ยานยนต์ไฟฟ้าจากจีนกำลังลุกขึ้นมาท้าทายอำนาจผู้บุกเบิกอย่าง Tesla

เรียกว่าสอดรับกับข่าวลดสะบั้นหั่นแหลกอีกครั้งของแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนอย่าง BYD ที่ได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนชื่อดัง Warren Buffett ที่สถานการณ์ในตอนนี้ได้แซงหน้า Tesla ขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลกตั้งแต่ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2023

BYD ก่อตั้งโดย Wang Chuanfu เริ่มต้นจากการผลิตแบตเตอรี่สำหรับโทรศัพท์มือถือในช่วงทศวรรษ 1990 ต่อมาในปี 2003 บริษัทได้ปรับเปลี่ยนมาสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ และปัจจุบันได้กลายเป็นแบรนด์รถยนต์อันดับหนึ่งในประเทศจีน รวมถึงเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ขณะนี้ BYD กำลังขยายธุรกิจอย่างรุกในตลาดโลก

Elon Musk ได้กล่าวในการประชุมรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 ของ Tesla ว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากจีนจะ “ทำลายล้างบริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่ในโลก” หากไม่มีการแทรกแซงจากหน่วยงานกำกับดูแล โดย BYD มีเป้าหมายที่จะเข้าสู่ตลาดอเมริกาเหนือ แต่ก็ต้องเผชิญกับการต่อต้านจากรัฐบาล แล้ว BYD จะสามารถรักษาการเติบโตอย่างรวดเร็วนี้ต่อไปได้หรือไม่ และอะไรคือก้าวต่อไปของยักษ์ใหญ่ในวงการยานยนต์ไฟฟ้ารายนี้

Highlights

🚗 BYD กำลังแซงหน้า Tesla ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีน

🚀 การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ BYD ในช่วงระยะเวลาอันสั้น

💰 การลงทุนของ Warren Buffett ใน BYD และผลกระทบที่เกิดขึ้น

💲 กลยุทธ์การตั้งราคาที่แข่งขันได้ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จของ BYD

🌍 การมุ่งเน้นด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่และการขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกของ BYD

🌟 ศักยภาพของ BYD ในการคุกคามแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลก

Key Insights

💻 BYD ก่อนปี 2019 แทบจะมองไม่เห็นอนาคตเลยว่าจะกลายมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลก จุดเปลี่ยนคือการได้นักออกแบบจากเยอรมันมาช่วยเหลือ และในปี 2022 บริษัทก็เริ่มหยุดการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปและมุ่งหน้าสู่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มตัว

🚗 Warren Buffett ได้เข้าซื้อหุ้น 10% ของ BYD ในปี 2008 และใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีผลักดันตัวเองก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ Tesla ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของจีน โดยมียอดจดทะเบียนรถใหม่และตัวเลขการผลิตที่สูงกว่า Tesla ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ไตรมาสที่สี่ของปี 2023

💡สงครามราคาที่เรียกได้ว่าแดงเดือดในจีนทำให้ Tesla ต้องหั่นราคาสู้ถึง 20-30% ทำให้สามารถที่จะคงยอดขายไม่ให้เสียหายไปมากกว่านี้

🔋 ความสำเร็จของ BYD มาจากการโฟกัสไปที่ความสามารถในการแข่งขันด้านราคา ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ และการขยายธุรกิจเชิงกลยุทธ์สู่ตลาดโลก

🌍 การปรับเปลี่ยนของบริษัทสู่การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่และรถยนต์ไฮบริดปลั๊กอิน รวมถึงการลงทุนในแบรนด์ย่อยระดับหรู สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างนวัตกรรมและความหลากหลายในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของ BYD

💥 การเติบโตอย่างรวดเร็วและการครองตลาดของ BYD ในประเทศจีน ประกอบกับแผนการขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกอย่างทะเยอทะยาน ถือเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อผู้ผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิมและแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับท็อปของตลาดอย่าง Tesla

🌎 แม้จะเผชิญความท้าทาย เช่น ภาษีนำเข้าและอุปสรรคทางการค้าในตลาดสำคัญอย่างสหรัฐอเมริกา แต่ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ความสามารถในการผลิต และกลยุทธ์การตั้งราคาที่แข่งขันได้ของ BYD ทำให้บริษัทมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในตลาดระดับโลกหรือแม้กระทั่งในอเมริกาเหนือเองก็ตาม

🚀 การเติบโตของผู้ผลิตรถยนต์จากจีน นำโดย BYD เป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก โดยบริษัทจากจีนมีศักยภาพที่จะ disrupt ตลาดแบบดั้งเดิมและกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมขนส่งที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแบบเบ็ดเสร็จได้ในอนาคต

🌟 ในขณะที่จีนกำลังสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้เล่นสำคัญในภาคยานยนต์ ผลกระทบของผู้ผลิตรถยนต์จากจีนอย่าง BYD ต่อตลาดโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ ซึ่งจะสร้างทั้งโอกาสและความท้าทายให้กับผู้เล่นที่มีชื่อเสียงดั้งเดิมในอุตสาหกรรมนี้

Opinion

เรียกได้ว่าแบรนด์รถยนต์ทั่วโลกต่างกำลังอยู่ในภาวะหนาว ๆ ร้อน ๆ กันเลยทีเดียวนะครับกับการพุ่งทะยานของแบรนด์รถยนต์จากจีนโดยเฉพาะหัวหอกอย่าง BYD

ซึ่งก็ต้องบอกว่าพวกเขาใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีเพียงเท่านั้น ที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์รถยนต์ไฟฟ้าอันดับหนึ่งของโลกได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มันเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจในการพัฒนาอุตสาหกรรมภายในประเทศให้ก้าวขึ้นสู่ระดับโลก ซึ่งล้วนแล้วแต่พัฒนามาด้วยรูปแบบแพทเทิร์นเดียวกันเด๊ะ ๆ

ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน ที่พยายามดึงแบรนด์ใหญ่ ๆ อย่าง Apple หรือ Samsung เข้าไปผลิตในประเทศของพวกเขาแล้วคอยเรียนรู้ สร้างซัพพลายเชน และเริ่ม R&D ผลิตภัณฑ์ของตนเองขึ้นมาอย่าง Huawei หรือ Xiaomi หรืออีกหลากหลายอุตสาหกรรมก็จะใช้รูปแบบเดียวกันนี้เป็นกลยุทธ์หลัก

ซึ่งจะเห็นได้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าก็เฉกเช่นเดียวกัน การได้ Tesla เข้าไปสร้างฐานการผลิตในจีนที่ GigaFactory ในเมืองเซี่ยงไฮ้นั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์จากจีน เพราะพวกเขาได้เรียนรู้ถึงการพัฒนารถระดับท็อป ซัพพลายเชนในระบบทั้งหมดก็ต้องยกระดับเพื่อสร้างส่วนประกอบต่างๆ ให้ทัดเทียมมาตรฐานที่ Tesla ต้องการ

สุดท้ายด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐที่ผสานร่วมกันกับเอกชนอย่างได้ลงตัว เราก็ได้เห็นแบรนด์ของพวกเขาอย่าง BYD ที่ตอนนี้กำลังขึ้นมาเฉิดฉายในเวทีโลก และแซงหน้าผู้บุกเบิกวงการอย่าง Tesla ได้สำเร็จไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเองครับผม