Geek Monday EP231 : กรณีศึกษา จุดจบของ Daily Deal สู่การล่มสลายของ Groupon

Groupon ซึ่งเคยได้รับการขนานนามจาก Forbes ว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ของยุคอินเทอร์เน็ต แต่หุ้นของบริษัทตกต่ำลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ IPO สูงสุดที่ 28 ดอลลาร์เศษในปี 2011 จนมาซื้อขายที่จุดต่ำสุดราว ๆ 4 ดอลลาร์ต่อหุ้น และนักวิเคราะห์มองว่าโมเดลธุรกิจนี้ไม่น่ารอด

Eric Clemons ศาสตราจารย์ด้าน Operations, information and decisions จาก Wharton กล่าวว่า “Groupon เป็นเรื่องไร้สาระตั้งแต่ต้น คุณต้องจำไว้ว่าโมเดลธุรกิจดั้งเดิมของพวกเขาคือการนำการซื้อแบบกลุ่มมาใช้ เพื่อให้เราทุกคนมีอำนาจการซื้อเหมือนกับ Amazon หรือ Walmart เราแค่ต้องรอจนกว่าจะมีพวกเรามากพอสมควรที่ต้องการซื้อของชิ้นเดียวกัน และ Groupon จะช่วยให้เราได้ราคาดี ซึ่งแค่คิดก็รู้ว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ โมเดลธุรกิจ group buying เดิมนั้นไม่มีความถูกต้องเลย”

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://tinyurl.com/39m5un5b

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://tinyurl.com/f922p29z

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://tinyurl.com/553pshu3

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/2kxHtQ3

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/0s5EKLjXdjA

สรุปเนื้อหา เมื่อกำแพงภาษีจากสหรัฐฯ ไม่สามารถหยุดยั้งความร้อนแรงของรถยนต์ EV จากจีน

ในทุกวันนี้ ต้องบอกว่าจีนมีกำลังการผลิตรถยนต์ได้ครึ่งหนึ่งของโลก และกำลังมองไปที่ตลาดสหรัฐอเมริกาที่เรียกได้ว่าจ้องตาเป็นมัน แม้ว่าจะมีแบรนด์รถยนต์ที่เป็นของบริษัทจีนวางจำหน่ายในสหรัฐฯบ้างแล้ว รวมถึง Volvo, Polestar และ Lotus แต่ยังไม่มีแบรนด์รถจีนแท้ๆ ที่เข้ามาทำตลาดในสหรัฐอเมริกาอย่างจริงจัง

นักวิเคราะห์ในวงการคาดว่าเหลือเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้น แม้ประธานาธิบดี Joe Biden จะเรียกเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนในอัตราสูงจนทำให้ราคารถนำเข้าเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในเดือนพฤษภาคม 2024 แต่นักวิเคราะห์ยังเชื่อว่านโยบายการเรียกเก็บภาษีจะไม่ส่งผลใด ๆ กับความร้อนแรงของจีนในระยะยาว และสุดท้ายอาจก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี

อุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้กลายเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดโลก แม้ต้องเผชิญกับภาษีนำเข้า แต่รถยนต์จีนก็มีแนวโน้มเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ เนื่องจากมีราคาที่แข่งขันได้และคุณภาพสูง

Highlights

🚗 อุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนขยายตัวอย่างรวดเร็ว กลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของโลก

🏭 ผู้ผลิตรถยนต์จีนมีศักยภาพในการเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯ โดยได้รับแรงผลักดันจากกำลังการผลิตส่วนเกินและเป้าหมายในการส่งออกของพวกเขา

💰 ภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนอาจไม่สามารถขัดขวางการเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯได้ เนื่องจากรถจีนมีราคาที่แข่งขันได้

🛠 สหรัฐฯจำเป็นต้องปรับนโยบายเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมยานยนต์จีน

🌏 ความพยายามไปสู่ระดับโลกของบริษัทจีนสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ในการผลิต

⚖ จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเพื่อนำประโยชน์จากความก้าวหน้าด้านยานยนต์ของจีนมาใช้

🚀 บริษัทยานยนต์ที่เป็นของจีนได้ตั้งรกรากในสหรัฐฯแล้ว เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ตลาด

Key Insights

🌐 การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของอุตสาหกรรมยานยนต์จีนเป็นความท้าทายที่สำคัญต่อการครองความเป็นผู้นำในตลาดของผู้ผลิตรถยนต์แบบดั้งเดิมจากโลกตะวันตก บริษัทจีนได้พัฒนาขีดความสามารถในด้านคุณภาพและราคาอย่างรวดเร็วจนทำให้ดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคทั่วโลก

💡 แม้ภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากจีนจะถูกเรียกเก็บในอัตราสูง แต่อาจไม่สามารถขัดขวางการเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯได้อย่างแท้จริง เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์จากจีนยังคงมีแรงจูงใจในการส่งออกสินค้าเพราะมีกำลังการผลิตส่วนเกินและเรื่องของสภาวะตลาดภายในประเทศ

💰 สหรัฐฯจำเป็นต้องมีนโยบายที่เปิดทางให้กับการหลั่งไหลเข้ามาของของยานยนต์จากประเทศจีน ซึ่งจะได้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมยานยนต์จีน โดยเป็นการเปิดกว้างสู่ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ บริษัทอเมริกันจะสามารถนำจุดแข็งของบริษัทจีนมาเสริมความสามารถของตนเองในการแข่งขันได้ในอนาคต

🏗 ความพยายามไปสู่ระดับโลกของบริษัทจีน ซึ่งรวมถึงการสร้างโรงงานผลิตในหลายประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การผลิตแบบดั้งเดิม วิธีการนี้ช่วยให้บริษัทจีนสามารถหลีกเลี่ยงอุปสรรคทางการค้าและขยายส่วนแบ่งการตลาดไปทั่วทุกมุมโลกได้

🔄 การพลิกมุมมองใหม่ในนโยบายด้านการค้าที่ต้องเลิกกีดกันได้แล้ว อาจเป็นประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ตะวันตก โดยเปิดทางให้มีการบูรณาการเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากจีน ผ่านกระบวนการและนโยบายที่มีการกำกับดูแลอย่างเหมาะสม ประเทศตะวันตกจะสามารถเข้าถึงประโยชน์จากการผสานความร่วมมือกันและนวัตกรรมที่บริษัทจีนนำมาสู่ตลาดได้

🚗 แม้จะยังไม่มีรถยนต์แบรนด์จีนวิ่งอยู่บนท้องถนนของสหรัฐอเมริกา แต่การมีบริษัทยานยนต์ที่เป็นของจีนกว่า 100 แห่งในสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าพวกเขากำลังเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ตลาดในอนาคต ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์จากจีนได้ตั้งรกรากในหลายรัฐของสหรัฐฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการช่วยเตรียมพื้นที่สำหรับการขยายฐานการผลิตเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯของจีนในอนาคต

Opinion

สรุปได้ว่า นี่คือการวิเคราะห์จากสื่อตะวันตกอย่าง CNBC หรือแม้กระทั่งข่าวก่อนหน้านี้ที่สื่อจากญี่ปุ่นเองอย่าง Nikkei ก็พูดคล้าย ๆ กัน ในสภาพจำยอม ยานยนต์ EV จากจีนจะบุกเข้าไปตีตลาดโลกได้อย่างแบบสมบูรณ์ แม้กระทั่งสหรัฐอเมริกาหรือยุโรปก็ไม่น่ารอด และแน่นอนสภาพท้องถนนคงไม่ต่างจากเมืองไทยที่จะมีรถยนต์แบรนด์จีนวิ่งกันเกลื่อนเมือง

แม้ปัจจุบันยังไม่มีรถยนต์แบรนด์จีนในสหรัฐฯ แต่อุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนก้าวหน้าไปมากแล้ว ทั้งในด้านศักยภาพการผลิต คุณภาพและการแข่งขันราคา รวมถึงกลยุทธ์การขยายฐานการผลิตไปยังต่างประเทศ จึงน่าจะเป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นที่รถจากจีนจะเข้ามาแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ แม้ต้องเผชิญกับอุปสรรคด้านภาษีศุลกากรมากมายขนาดไหนก็ตามที