อีโก้, ความกลัว และผลประโยชน์ : กับจุดกำเนิดของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (A.I.)

ในเดือนกรกฎาคมปี 2015 Elon Musk ฉลองวันเกิดครบรอบ 44 ปี ด้วยงานปาร์ตี้ที่จัดขึ้นสามวันสามคืน ซึ่งภรรยาของเขาจัดให้ในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนีย บรรยากาศเต็มไปด้วยครอบครัวและเพื่อนสนิท โดยมีเด็ก ๆ วิ่งเล่นไปทั่วรีสอร์ทสุดหรูแห่งนี้

คืนแรกหลังอาหารมื้อค่ำ Elon Musk และ Larry Page นั่งคุยกันใกล้กองไฟริมสระว่ายน้ำ หัวข้อสำคัญของการสนทนาในครั้งนั้นคือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (A.I.)

ต้องบอกว่าทั้งสองเป็นเพื่อนกันมานานกว่าทศวรรษซึ่ง Page ถือเป็นหนึ่งในคนกลุ่มน้อยมาก ๆ ที่สนิทสนมกับ Musk แบบมองตาก็รู้ใจ

Musk เคยพูดติดตลกว่าเขามักจะแอบไปนอนบนโซฟาของ Larry Page หลังจากที่ได้เล่นวีดีเกมทั้งคืน

แต่บรรยากาศในคืนนั้นมันต่างไป เพราะเต็มไปด้วยความตึงเครียด เจ้าพ่อแห่งโลกเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลต่อโลกกำลังถกเถียงกันว่าปัญญาประดิษฐ์จะช่วยยกระดับมนุษยชาติหรือจะทำลายล้างพวกเรากันแน่?

การสนทนาที่ดำเนินไปจนถึงเวลาดึกดื่นยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนมากกว่า 30 คนที่มาร่วมงานต่างเข้ามาล้อมวงฟังด้วยความตั้งใจ

Larry Page ที่มีปัญหาในเรื่องเส้นเสียงมานานกว่าทศวรรษ พูดกระซิบบอกถึงวิสัยทัศน์ของเขาเกี่ยวกับยุคทองของดิจิทัลที่มนุษย์จะผสานเข้ากับเครื่องจักรปัญญาประดิษฐ์และในวันหนึ่งจะเกิดรูปแบบของปัญญาที่หลากหลายแข่งขันกันเพื่อแย่งชิงทรัพยากร

Elon Musk ได้โต้แย้งว่าหากสิ่งนั้นเกิดขึ้น มนุษยชาติจะถึงคราวล่มสลาย เครื่องจักรจะทำลายล้างมนุษย์อย่างแน่นอน

ด้วยความผิดหวังในตัวเพื่อน Page ยืนยันว่าควรที่จะสร้างโลกยูโทเปียตามที่เขาคาดการณ์ไว้ ซึ่งท้ายที่สุดในคืนนั้นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็เริ่มสั่นคลอน

Page ได้เรียก Elon Musk ว่า “พวกสายพันธุ์นิยม (specieist)” ซึ่งคือพวกที่ให้ความสำคัญกับมนุษย์มากกว่าสิ่งมีชีวิตดิจิทัลในอนาคต

Elon Musk ได้กล่าวว่า คำดูถูกนั้นเป็น “ฟางเส้นสุดท้าย” ของความสัมพันธ์ระหว่างเขาและ Page

หลายคนที่ได้ยินต่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็อดขำกับมันไม่ได้ พวกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่อีกหนึ่งการโต้เถียงทางวิชาการแบบที่มักจะเกิดขึ้นในงานปาร์ตี้ของพวกเนิร์ด ๆ ใน Silicon Valley

แต่แปดปีต่อมา บทสนทนาอันดุเดือดของพวกเขาทั้งสองเหมือนจะกลายเป็นเรื่องจริง คำถามที่ว่าปัญญาประดิษฐ์จะยกระดับให้กับโลกหรือทำลายล้างโลกเรากันแน่ ได้กลายมาเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างต่อเนื่องในหมู่นักเทคโนโลยีชั้นนำใน Silicon Valley

เหล่าผู้ใช้งาน ChatBot นักวิชาการ บรรดานักการเมืองที่ได้กลิ่นของผลประโยชน์อันมหาศาล และหน่วยงานกำกับดูแล ต่างถกเถียงกันอย่างถึงพริกถึงขิงว่าเทคโนโลยีดังกล่าวนี้ควรจะถูกควบคุมหรือปล่อยให้มันดำเนินไป

การถกเถียงในครั้งนี้ทำให้เหล่ามหาเศรษฐีระดับโลกบางคนต้องปะทะคารมกัน อาทิเช่น Elon Musk , Larry Page , Mark Zuckerberg แห่ง Meta , นักลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่าง Peter Thiel, Satya Nadella จาก Microsoft และ Sam Altman จาก OpenAI ทุกคนต่างต่อสู้เพื่อแย่งชิงขุมทรัพย์ทางธุรกิจอันมหาศาลนี้

ความสำเร็จของ OpenAI กับ ChatGPT แสดงให้เห็นว่าบริษัทสามารถพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ที่ก้าวล้ำหน้าได้อย่างรวดเร็ว และนั่นทำให้บริษัทอื่น ๆ ต้องเร่งเครื่องเพื่อตามให้ทัน

ในปี 2023 การแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์ได้เข้าสู่ยุคใหม่ มหาเศรษฐีระดับโลกต่างทุ่มเงินมหาศาลเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีนี้ หวังที่จะได้เปรียบคู่แข่งและเข้าครอบครองส่วนแบ่งการตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว

บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Google , Microsoft , Amazon และ Meta ต่างก็มีทีมวิจัยปัญญาประดิษฐ์ที่แข็งแกร่ง พวกเขากำลังพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เช่น เครื่องจักร AI ที่สามารถคิดได้อย่างอิสระ เข้าใจภาษามนุษย์ และควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างอิสระ

นอกจากนี้ ยังมีบริษัทสตาร์ทอัพจำนวนมากที่เข้ามาแข่งขันในตลาดนี้เช่นกัน พวกเขาได้รับเงินทุนสนับสนุนจากนักลงทุนชั้นนำ และกำลังพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ปัญญาประดิษฐ์สำหรับรถยนต์ไร้คนขับ ปัญญาประดิษฐ์สำหรับการรักษาโรค และปัญญาประดิษฐ์สำหรับการศึกษา

การแข่งขันด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และยังไม่ชัดเจนว่าบริษัทใดจะได้เปรียบในระยะยาว สิ่งสำคัญคือต้องตระหนักถึงความเสี่ยงของเทคโนโลยีนี้ และหาวิธีควบคุมเทคโนโลยีนี้อย่างปลอดภัย

ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งคือความเป็นไปได้ที่ปัญญาประดิษฐ์จะกลายเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ

หากปัญญาประดิษฐ์พัฒนาจนมีสติปัญญาและความสามารถเทียบเท่ามนุษย์หรือเหนือกว่า มันจะสร้างภัยอันตรายต่อมวลมนุษยชาติได้ เช่น พวกมันอาจใช้อาวุธเพื่อโจมตีมนุษย์ หรืออาจใช้เทคโนโลยีควบคุมจิตใจเพื่อล้างสมองมนุษย์

เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญญาประดิษฐ์กลายเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ จำเป็นต้องมีการควบคุมและกำกับดูแลเทคโนโลยีนี้อย่างเข้มงวด รัฐบาลและหน่วยงานกำกับดูแลจำเป็นต้องกำหนดกฎระเบียบและแนวทางปฏิบัติสำหรับการพัฒนาและการใช้ปัญญาประดิษฐ์

นอกจากนี้สิ่งที่สำคัญคือต้องพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ให้มีจริยธรรม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

เพราะปัญญาประดิษฐ์มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงโลกไปอย่างสิ้นเชิง มันสามารถช่วยให้เราแก้ปัญหาที่มีความซับซ้อน เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความยากจน และโรคภัยไข้เจ็บ

แต่ปัญญาประดิษฐ์มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน จำเป็นต้องมีการศึกษาและถกเถียงอย่างรอบคอบเกี่ยวกับอนาคตของปัญญาประดิษฐ์ เพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ

หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาก็คือบทบาทของมนุษย์ในยุคปัญญาประดิษฐ์

หากปัญญาประดิษฐ์พัฒนาจนมีสติปัญญาและความสามารถเทียบเท่าหรือเหนือกว่า นั่นก็จะทำให้มนุษย์อาจสูญเสียการควบคุมโลกให้กับเครื่องจักร

บางคนเชื่อว่ามนุษย์ควรพยายามควบคุมปัญญาประดิษฐ์ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เครื่องจักรจะควบคุมมนุษย์

แต่บางคนก็เชื่อว่ามนุษย์ควรร่วมมือกับปัญญาประดิษฐ์อย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถทำงานร่วมกันเพื่อพัฒนาโลกที่ดีขึ้น

อีกประเด็นที่สำคัญที่ต้องพิจารณาคือความเท่าเทียมทางเทคโนโลยี

ปัญญาประดิษฐ์มีศักยภาพที่จะสร้างความแตกต่างทางเศรษฐกิจและสังคมที่รุนแรง หากเทคโนโลยีนี้ถูกควบคุมโดยกลุ่มคนหรือประเทศเพียงไม่กี่กลุ่ม

สิ่งสำคัญคือต้องพัฒนาปัญญาประดิษฐ์อย่างทั่วถึง เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีนี้และได้รับประโยชน์จากมัน

อนาคตของปัญญาประดิษฐ์นั้นยังไม่แน่นอน

เทคโนโลยีนี้อาจเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการพัฒนาโลก แต่ก็มีศักยภาพที่จะสร้างอันตรายเช่นกัน

จำเป็นต้องมีการศึกษาและถกเถียงอย่างรอบคอบเกี่ยวกับอนาคตของปัญญาประดิษฐ์ เพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ

บทสรุป

การแข่งขันด้านปัญญาประดิษฐ์กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และยังไม่ชัดเจนว่าบริษัทใดจะได้เปรียบในระยะยาว ยังมีคำถามที่ค้างคาใจเช่น เรื่องความเท่าเทียม ความสามารถหรือศักยภาพที่แท้จริงของมัน หรือการถูกควบคุมโดยกลุ่มคนเพียงบางกลุ่ม

คำถามเหล่านี้ยังคาใจพวกเรามาเป็นเวลานาน และยังไม่ชัดเจนว่าจะมีคำตอบที่ชัดเจนเมื่อใด

แต่มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจน

อนาคตของปัญญาประดิษฐ์สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของมนุษย์ในตอนนี้ ที่ต้องตัดสินใจว่าจะใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อสร้างประโยชน์หรือเพื่อสร้างความเสียหาย มนุษย์ต้องตัดสินใจว่าโลกในอนาคตจะเป็นโลกที่มนุษย์และเครื่องจักรอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข หรือโลกที่มนุษย์ถูกควบคุมโดยเครื่องจักร

อนาคตของปัญญาประดิษฐ์อยู่ในมือของมนุษย์

การตัดสินใจของมนุษย์ในวันนี้ จะกำหนดโลกในอนาคต

References :
https://www.nytimes.com/2023/12/03/technology/ai-openai-musk-page-altman.html
https://www.businessinsider.com/larry-page-elon-musk-specieist-ai-dangers-2023-12
https://fortune.com/2023/09/12/elon-musk-larry-page-friendship-over-ai/

HPE รุกสร้างรากฐานจัดการข้อมูลยุคใหม่ ด้วยพื้นที่จัดเก็บข้อมูลโดยซอฟต์แวร์และระบบอัตโนมัติขับเคลื่อนด้วย AI

บริษัท ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอนเตอร์ไพรส์ [Hewlett Packard Enterprise (NYSE: HPE)] ได้ประกาศเปิดตัวโซลูชั่นใหม่สำหรับคลาวด์ HPE GreenLake ทั้งระบบ เพื่อช่วยองค์กรลดความยุ่งยากในการจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่พื้นที่จัดเก็บข้อมูล ข้อมูล และเวิร์กโหลดทั้งระบบที่ติดตั้งภายในองค์กรและบนคลาวด์ ข้อเสนอใหม่หรือข้อเสนอที่ขยายเพิ่มเติม ได้แก่:

  • HPE GreenLake Block Storage for Amazon Web Services (AWS) ซึ่งเป็นบริการจัดเก็บข้อมูลที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์แบบใหม่เพื่อจัดการการจัดเก็บข้อมูล Block Storage ได้อย่างราบรื่นในสภาพแวดล้อมคลาวด์แบบไฮบริด
  • HPE GreenLake ใหม่สำหรับ Block Storage ที่สร้างขึ้นบน HPE Alletra Storage MP ขณะนี้รองรับความจุเป็นสองเท่า สูงสุดถึง 5.6PB และ HPE Infosight AIOps ที่มีการวิเคราะห์แบบ cross-stack เพื่อเพิ่ม Visibility ให้เวิร์กโหลด เพิ่มความพร้อมใช้งานที่มากขึ้น และช่วยให้การใช้และการวางแผนทรัพยากรนั้นมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • โปรแกรม HPE Timeless เปลี่ยนประสบการณ์การเป็นเจ้าของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลด้วยการคุ้มครองการลงทุนแบบใหม่ที่ให้ความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน (Operational Agility) และความยืดหยุ่นทางการเงิน ซึ่งช่วยลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ (TCO) สำหรับลูกค้า HPE GreenLake for Block Storage
  • HPE GreenLake for Private Cloud Business Edition รองรับ HPE Alletra Storage MP และ HPE SimpliVity Gen 11 ได้แล้ว

ในปี 2566 HPE ได้ปฏิวัติการจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลด้วยการนำเสนอระบบจัดเก็บข้อมูล Block Storage ขยายขนาด1 แบบแยกส่วนระบบแรกของอุตสาหกรรมบนการบริหารจัดการระบบเดียว รองรับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางและลูกค้าองค์กรที่รันเวิร์กโหลดที่มีความสำคัญทางธุรกิจ (Business-critical workloads) และภารกิจที่สำคัญทางธุรกิจขั้นสูงสุด (Mission-critical workloads)

HPE ยังคงสร้างโมเมนตัมอย่างต่อเนื่องให้แก่ HPE GreenLake for Block Storage ที่สร้างบน HPE Alletra Storage MP และได้ส่งมอบบริการนี้กว่า 1,000 ยูนิต ให้กับลูกค้า ทั้งนี้ HPE ยังคงขยายกลยุทธ์ที่เน้นแพลตฟอร์มเพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถเปลี่ยนจากการบริหารจัดการข้อมูลรายวันกับอุปกรณ์ในแต่ละตัว ไปเป็นประสบการณ์การจัดเก็บข้อมูลแบบครบวงจรที่เสนอโมเดลการดำเนินงานบนคลาวด์ ระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการเคลื่อนย้ายข้อมูลแบบไร้รอยต่อ

นายพลาศิลป์ วิชิวานิเวศน์ กรรมการผู้จัดการ ฮิวเลตต์ แพคการ์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ ประเทศไทย และเวียดนาม กล่าวว่า “ในขณะที่คู่แข่งของเรายังคงจำหน่ายพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในรูปแบบของบริการ แต่เรากำลังนำเสนอแนวทางบนแพลตฟอร์มที่ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงให้กับการจัดการคลาวด์ และการจัดเก็บข้อมูลแบบไฮบริด เรายังคงสร้างมาตรฐานให้กับการจัดการด้าน IT และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่ใช้งานง่ายและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้นต่อไป ด้วยนวัตกรรมของเราที่มีใน HPE Alletra และ HPE GreenLake” 

การเคลื่อนย้ายข้อมูลและแอปพลิเคชันที่ราบรื่นพร้อมพื้นที่จัดเก็บที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์สำหรับ AWS

ด้วยการเปิดตัว HPE GreenLake Block Storage for AWS นี้ HPE จะทำให้การจัดการข้อมูลและการจัดวางเวิร์กโหลดบนคลาวด์นั้นง่ายขึ้นผ่านพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ HPE GreenLake Block Storage for AWS ได้รับ การออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์การจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบรวมศูนย์กลางที่ไร้รอยต่อทั่วไฮบริดคลาวด์ รวมถึงระยะคุ้มทุน (Time-to-value) ที่เร็วขึ้น และความยืดหยุ่นระดับองค์กร

องค์กรต่างๆ สามารถจัดการและปกป้องสภาพแวดล้อมการจัดเก็บข้อมูลส่วนกลางได้อย่างสม่ำเสมอ รวมถึงย้ายข้อมูล เวิร์กโหลด และการสำรองข้อมูลเพื่อประสิทธิภาพและความคุ้มค่าสูงสุด HPE GreenLake Block Storage for AWS เหมาะอย่างยิ่งสำหรับองค์กรที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการข้อมูล รวมถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันและการใช้สภาพแวดล้อมคลาวด์ภายในองค์กรและคลาวด์สาธารณะ ข้อเสนอบริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์  ยังให้การคุ้มครองข้อมูลไฮบริดคลาวด์ที่คุ้มค่าและไม่ซับซ้อน รวมถึงการกู้คืนข้อมูลหลังภัยพิบัติอีกด้วย

HPE Timeless Program ช่วยให้องค์กรพร้อมที่จะสร้างนวัตกรรมแห่งอนาคตอย่างต่อเนื่อง

ด้วย HPE Timeless Program ใหม่นี้ HPE จะปฏิวัติประสบการณ์การเป็นเจ้าของพื้นที่จัดเก็บข้อมูลด้วยการคุ้มครอง  การลงทุนใหม่ และรีเฟรชประสิทธิภาพแบบเจเนอเรชั่นใหม่ได้อย่างไร้รอยต่อ ลูกค้าที่เลือก HPE GreenLake for Block Storage ที่สร้างบน HPE Alletra Storage MP และเข้าร่วมในโปรแกรมจะมีสิทธิ์ได้รับการอัพเกรดเป็นคอนโทรลเลอร์รุ่นถัดไป ซึ่งจะให้บริการแบบต่อเนื่องเมื่อต่ออายุการใช้งาน

ลูกค้าสามารถประหยัดต้นทุนการเป็นเจ้าของ (TCO) สำหรับการจัดเก็บข้อมูลได้เฉลี่ย 30% โดยไม่ต้องอัพเกรดแบบยกเครื่องทั้งระบบโปรแกรมนี้ยังมีการรับประกันความพร้อมใช้งานของข้อมูล (Data Availability Guarantee) แบบ 100% ของ HPE และการรับประกันประสิทธิภาพของข้อมูล HPE StoreMore3 ด้วย HPE Timeless Program ช่วยให้ลูกค้าคาดการณ์งบประมาณได้หลายปีและระดับบริการที่รับประกันความพร้อมใช้งานรวมถึงประสิทธิภาพของข้อมูล

 “ศูนย์ข้อมูลที่มีผู้ให้บริการหลายรายนั้น มีความซับซ้อนที่จะจัดการและปรับขนาดได้ยาก เมื่อเราต้องการจะรวมศูนย์ข้อมูลของเราไว้ที่ผู้ให้บริการรายเดียว เราต้องทั้งเพิ่มและขยายขนาดการประมวลผลและพื้นที่จัดเก็บ และการจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบรวมศูนย์กลาง ตอนนี้เรามี HPE GreenLake for Block Storage ที่มี ที่มาพร้อม Alletra MP ที่เป็นโซลูชันที่เรานำเสนอสำหรับลูกค้าของเรา เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราสามารถส่งมอบนวัตกรรมแห่งอนาคตให้ลูกค้าได้อย่างไร” นายพลาศิลป์ กล่าวเสริม

Alletra MP ช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการระบบอัจฉริยะและการวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่เพิ่มมากขึ้น

HPE ถึอเป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับในการจัดการเวิร์กโหลดและความสามารถในการสังเกตที่ใช้งาน AIOps ด้วย HPE Infosight และ OpsRamp ซึ่งตอนนี้ได้ผสานรวมเข้ากับคลาวด์ HPE GreenLake อย่างสมบูรณ์แล้ว การวิเคราะห์แบบ Cross-stack ใหม่ช่วยปรับปรุงการจัดการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องประสบกับปัญหาความล่าช้าที่ลดประสิทธิภาพเวิร์กโหลด ความสัมพันธ์แบบทุกส่วน (Full stack) ของทรัพยากรรวมกับกลไก AIOps ช่วยให้ลูกค้าสามารถสังเกต คาดการณ์ และลดการหยุดชะงักในโครงสร้างพื้นฐานของเครื่องคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual machine) พื้นที่จัดเก็บข้อมูล เครือข่าย การประมวลผล และคลาวด์ นอกจากนี้ ลูกค้า HPE Alletra MP ยังสามารถติดตามการใช้พลังงานไฟฟ้าและแนวโน้มการปล่อยก๊าซคาร์บอนผ่านทางศูนย์ข้อมูล HPE Sustainability Insight Center ได้อีกด้วย

ปัจจุบัน HPE Alletra MP ให้ความยืดหยุ่นที่มีความสำคัญต่อภารกิจขององค์กรด้วยงบประมาณในระดับกลาง ซึ่งขยายได้สูงสุดถึง 5.6PB พร้อมรองรับชั้นวางขยาย JBOF สูงสุด 16 ชั้น ซึ่งมากขึ้นเป็นสองเท่าของความจุที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ การป้องกันโดยรวมแบบบิลด์อินขั้นสูงใหม่นี้ทำการสำเนาข้อมูลพร้อมกันได้ถึง 3 Siteเพื่อให้การปกป้องข้อมูลที่ดียิ่งขึ้น 

โดยขณะนี้ Zerto Cyber Resilience Vault ได้ถูกรวมเข้ากับ HPE Alletra MP เพื่อให้ลูกค้าได้รับสำเนาข้อมูลที่ปลอดภัยและไม่เปลี่ยนแปลง และช่วยให้สามารถกู้คืนข้อมูลในช่วงที่ไม่มีการไม่เชื่อมต่อ (Air-Gap) ได้อย่างรวดเร็วหลังการโจมตีทาง ไซเบอร์ ลูกค้าสามารถปกป้อง ตรวจสอบ และรักษาความปลอดภัยแอปพลิเคชันที่สำคัญที่สุดของตนได้อย่างปลอดภัย ในขณะที่จัดให้มีความพร้อมใช้งานในการกู้คืนบริการอย่างรวดเร็วในกรณีที่บริการหยุดชะงักหรือมีการละเมิดเกิดขึ้น

HPE GreenLake มีความสอดคล้องกับกลยุทธ์คลาวด์ไฮบริดของเราอย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้เราเป็นระบบ ‘Cloud-sensible’ แทนที่จะเป็น ‘Cloud-first’ HPE GreenLake for Block Storage เป็นโซลูชันที่เหมาะสมในการใช้แทนอาร์เรย์ HPE 3PAR ของเรา เนื่องจากทำให้เรามีความพร้อมใช้งานข้อมูลแบบ 100% สำหรับเวิร์กโหลดที่เป็นภารกิจสำคัญขององค์กร และความยืดหยุ่นของประสิทธิภาพในการปรับขยายและความจุเมื่อข้อมูลของเรามีความต้องการเพิ่มขึ้น

โซลูชัน Private Cloud ใหม่ ช่วยเพิ่มประสิทธิสูงสุดให้กับเวิร์กโหลด Edge และลดความยุ่งยากในการเคลื่อนย้าย VM

ทั้งนี้ HPE Alletra MP และ HPE SimpliVity Gen11 พร้อมใช้งานแล้วบน HPE GreenLake สำหรับบริการ HPE GreenLake for Private Cloud Business Edition หรือคลาวด์ส่วนตัวแบบบริการตนเองที่ยืดหยุ่นนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการเครื่องคอมพิวเตอร์เสมือน (Virtual Machines/ VM) และการเคลื่อนย้ายข้อมูลในสภาพแวดล้อมคลาวด์ภายในองค์กร และคลาวด์ สาธารณะ

  • HPE GreenLake for Private Cloud Business Edition นำเสนอสถาปัตยกรรมไฮเปอร์คอนเวอร์จแบบแยกส่วนที่ทันสมัย การรองรับใหม่สำหรับ HPE Alletra MP ให้เวิร์กโหลด VM ที่เป็นภารกิจที่สำคัญขององค์กรในงบประมาณระดับกลาง และการรับประกันความพร้อมใช้งานของข้อมูล (Data Availability Guarantee) แบบ 100%
  • การรองรับ HPE SimpliVity Gen11 แบบใหม่ ซึ่งใช้เซิร์ฟเวอร์ HPE ProLiant Gen11 ช่วยให้ลูกค้าสามารถรัน Edge และ VM เพื่อการใช้งานทั่วไปที่มีความพร้อมใช้งานของข้อมูลถึง 99.999% พร้อมการปกป้องข้อมูลในระบบ

การวางจำหน่าย

สามารถสั่งซื้อ HPE GreenLake Block Storage for AWS ได้ตั้งแต่สิ้นเดือนพฤษภาคม 2567

HPE Timeless Program จะใช้งานได้ในไตรมาสที่ 3 ปี 2567

HPE GreenLake for Private Cloud Business Edition ซึ่งเลือกได้ระหว่าง HPE Alletra MP หรือ HPE SimpliVity Gen11 จะพร้อมจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

“ลีโอ”  จัดเต็ม Leo Summer Fest ชะอำ เตรียมเคลื่อนความมันส์ สู่เทศกาลดนตรีหน้าฝน

“ลีโอ” จัดเต็ม “Leo Summer Fest” ขนทัพศิลปินแน่นชายหาดชะอำ ร่วมขบวน 3 Music Presenter – อิ้งค์ วรันธร, Three Man Down และ ไททศมิตร ในเทศกาลดนตรีที่ 2 ของปีอย่างสุดมันส์ เตรียมเคลื่อนสู่เทศกาลดนตรีที่ 3 ในหน้าฝนนี้ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ไปด้วยกันนะ”

หลังจากที่แบรนด์ “ลีโอ” เดินเครื่องสานต่อแนวทาง Music Marketing ในปีนี้ เคลื่อนขบวนความมันส์ไปพบกับแฟนทั่วประเทศแบบชวนทุกคนมาสนุกด้วยกันในแคมเปญ “ไปด้วยกันนะ” กับ 3 Music Presenter หลักและศิลปินอีกมากมายตามคำเรียกร้อง โดยมีคอนเสิร์ตใหญ่ล้อไปกับเทศกาลสำคัญตั้งแต่ต้นปี

ล่าสุดได้จัดคอนเสิร์ตในเทศกาลดนตรีครั้งที่ 2 “Leo Summer Fest” ที่ชายหาดชะอำอย่างเต็มรูปแบบ ยกทัพศิลปินสร้างความสนุกเต็มพิกัดทั้ง อิ้งค์ วรันธร, Three Man Down, ไททศมิตร, Zeal, Paradox, Indigo, Safeplanet และ Freehand ตอกย้ำความสำเร็จในแกน Music Marketing ที่ทำต่อเนื่องมาหลายปี

นายวาระ โชตน์ธเนส Division Manager – Brand Management บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า Leo Summer Fest ถือเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งที่ 2 ของปีที่ได้สร้างความมันส์ต่อจาก Leo Hurt Fest ที่จัดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งครั้งนี้เราได้เลือกชายหาดชะอำเป็นพื้นที่จัดงาน เพื่อให้สอดคล้องกับภาพความสนุกในหน้าร้อน

โดยนำ 3 Music Presenter และเหล่าศิลปินที่โดนใจมาสร้างความสนุกอย่างเต็มที่ ซึ่งเทศกาลดนตรีที่ 3 ต่อจากครั้งนี้จะเป็นคอนเสิร์ตใหญ่ในช่วงหน้าฝน ที่จะนำความสนุกมาพร้อมกับความชุ่มฉ่ำในแบบของลีโอ รวมทั้งกิจกรรมความมันส์ที่จะเดินทางไปในหลายจังหวัดทั่วประเทศตลอดทั้งปี

นอกจาก Leo Summer Fest แล้ว “ลีโอ” ยังมีเทศกาลดนตรีที่สอดคล้องกับฤดูกาลต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ เชื่อมโยงและสร้างเอนเกจเมนต์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคอีกมากมาย เช่น Leo Hurt Fest คอนเสิร์ตที่พร้อมฮีลใจคนเฮิร์ทที่ได้จัดขึ้นไปแล้ว Leo Scream Fest งานดนตรีที่จัดขึ้นรับกับเทศกาลฮาโลวีน และคอนเสิร์ตใหญ่แห่งปีที่แฟนๆทุกคนต่างรอคอยอย่าง “Leo Fest”

เป็นการรวมตัวของศิลปินตัวท็อปมาอยู่บนเวทีเดียวกัน เพื่อมอบความมันส์ความสนุกให้แฟนของลีโอทุกคน รวมไปถึงมิวสิคเฟสติวัล และ โร้ดโชว์จาก 3 Music Presenter ที่จะยกขบวนความสนุกไปยังพื้นที่ต่างๆทั่วไทย จะเป็นเมื่อไหร่และที่ไหนแฟนๆสามารถติดตามได้ที่ เพจ Leo Thailand