Geek Story EP185 : Pinduoduo แห่งชานมไข่มุก สองพี่น้องชาวจีนเปลี่ยนชานมราคา 1 ดอลลาร์สู่ธุรกิจหมื่นล้านได้อย่างไร

ในวัยเพียง 21 ปี ชายอย่าง Zhang Hongchao ได้ยืมเงินจากคุณยายของเขาเพื่อเปิดแผงขายน้ำแข็งไสในเมืองเจิ้งโจวทางตอนกลางของประเทศจีน มันเป็นความฝันของหนุ่มวัยกลัดมันที่ต้องการที่จะสร้างธุรกิจของตนเอง แต่กลายเป็นว่าร้านแรกของเขานั้นล้มเหลวไม่เป็นท่า

สองปีถัดมา Hongchao ขอแก้ตัวใหม่อีกครั้งด้วยแผงน้ำขายน้ำแข็งไสร้านที่สอง แต่คราวนี้เขาตั้งใจกับมันมากตั้งชื่อแบรนด์ว่า “Mixue Bingcheng” ซึ่งแปลว่า “วังหิมะอันแสนหวาน” ดูเหมือนโชคชะตาจะเข้าข้างเขา และไม่ล้มเหลวเหมือนครั้งแรก เพราะธุรกิจเริ่มทำเงินจริงๆ จังๆ และได้ขยายกิจการไปสู่การขายชานมไข่มุก น้ำมะนาว และกาแฟในราคาโครตถูก

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
http://tinyurl.com/mr2zmk9j

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
http://tinyurl.com/4tnm67kz

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
http://tinyurl.com/4uksvdt4

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
 http://tinyurl.com/48rmyvrn

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/RZgO31TwlPA

Chulalongkorn Business School ก้าวไปอีกขั้นในการพัฒนานิสิตคุณภาพ ร่วมมือพันธมิตรระดับโลกกับ ฮาคูโฮโด ประเทศไทย เปิดตัว HIT PROGRAM

คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ร่วมมือกับ บริษัท ฮาคูโฮโด อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ในการเป็นพันธมิตรพัฒนา “HIT PROGRAM” สอนนิสิตคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 4 ประจำปีการศึกษา 2566 ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2567 – 17 พฤษภาคม 2567

ศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ กล่าวว่า ‘ทางคณะ โดยภาควิชาการตลาด ได้ให้ความร่วมมือกับองค์กรสำคัญระดับนานาชาติมายาวนาน เพื่อเสริมสร้างให้นิสิตเป็นผู้นำแห่งอนาคตในด้านการตลาดและแบรนด์ มีความสามารถสูงและเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมและประเทศชาติ

สำหรับความร่วมมือกับฮาคูโฮโดซึ่งเป็นองค์กรสำคัญในแวดวงการตลาดและการสื่อสารของโลกนั้นได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี และการลงนามในบันทึกความร่วมมือครั้งนี้จะยิ่งกระชับความร่วมมือของสององค์กรให้แน่นแฟ้นขึ้น’

ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจของ คุณเทรุฮิซะ อิโต  ประธานบริษัทและผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ฮาคูโฮโด อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) เน้นการดำเนินงานตามปรัชญา 2 ข้อสำคัญของฮาคูโฮโด หนึ่งคือการเป็น พาร์ทเนอร์ หรือ การเป็นพันธมิตร ที่มองเห็นคุณค่าของการมีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้ง

ซึ่งในบริบทนี้ ฮาคูโฮโดก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย และอีกข้อคือแนวความคิดที่เรียกว่า Sei-katsu-sha (เซ-คัทสึ-ฉะ) เป็นคำภาษาญี่ปุ่นหมายถึง ความมุ่งมั่นที่จะเข้าใจ “ความเป็นอยู่ของผู้คน” มากกว่าจะมองเป็นเพียง “ผู้บริโภค” ซึ่งเป็นองค์ความรู้ที่เหมาะสมกับภาควิชาการตลาด

ด้วยเหตุนี้ ฮาคูโฮโด ประเทศไทย จึงมีความตั้งใจในการสร้างประโยชน์ต่อสังคมไทย และรู้สึกดีใจที่ได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาชั้นนำของภูมิภาคอย่างจุฬาฯ

คุณชุติมา  วิริยะมหากุล ผู้อำนวยการบริหาร จากบริษัท ฮาคูโฮโด อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) กล่าวว่า ‘ฮาคูโฮโด ได้ออกแบบคอร์ส HIT PROGRAM (Hyperfocus, Integrate, Transform) ให้เหมาะสมกับนิสิตปี 4 ของ Chulalongkorn Business School ที่จะช่วยผลักดันศักยภาพของนิสิต

ด้วยการเชื่อมโยงวิชาที่นิสิตได้เรียนรู้เข้ากับประสบการณ์จริงผ่านผู้รู้ในหลากหลายอุตสาหกรรมและหลากหลายแบรนด์ ที่พร้อมนำความรู้มาถ่ายทอดและสร้างแบบฝึกหัดกับนิสิตอย่างเข้มข้น เพื่อเป้าหมายที่จะเสริมทักษะให้พร้อมทำงาน สนับสนุนให้นิสิตเกิดการค้นพบตัวเองและสร้างแรงบันดาลใจที่จะเข้าทำงานในสายงานที่เหมาะกับตัวเองอย่างแท้จริง’

คุณยูโกะ อิโต กรรมการผู้จัดการ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ฮาคูโฮโด ญี่ปุ่น ได้มีโครงการพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นที่หลากหลาย เช่น โครงการ BRANCO! ร่วมกับมหาวิทยาลัยโตเกียว เป็นการประกวดออกแบบแบรนด์ผ่านการวิจัยอย่างเข้มข้นเป็นระยะเวลา 6 เดือน

ในโครงการนี้เราเน้นการร่วมมือพัฒนางานผ่านการตั้งคำถาม แบบที่ “ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบที่ถูกต้อง” ซึ่งจะทำให้นิสิตได้ฝึกวิธีคิดแบบเปิดกว้างติดตัวไปใช้กับมุมมองอื่นๆในชีวิตด้วย

นอกจากนั้น ยังมีโครงการ Hakuhodo Youth Lab ที่วิจัยร่วมกับนิสิตมหาวิทยาลัย ในหัวข้อเกี่ยวกับ Sei-katsu-sha ซึ่งหมายถึง ไม่ได้แค่ศึกษาว่า จะทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่มาซื้อสินค้า แต่เราเน้นศึกษา ความเป็นอยู่ของผู้คน ในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านสังคม ด้านธุรกิจ และด้านองค์กร ในหัวข้อที่สร้างความน่าสนใจ เช่น “ชีวิตแบบไหนที่เราควรสร้างในแบบของเรา” ซึ่งถือเป็นแล็บที่สนับสนุนนวัตกรรมทางความคิดให้กับนิสิตและยังนำไปสู่การประชุมร่วมกันในกลุ่มคนรุ่นใหม่บนมุมมองใหม่ ๆ อีกด้วย”

ถือเป็นโอกาสอันดีที่ Chulalongkorn Business School ได้มองเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมให้นิสิตได้นำความรู้ที่เรียนมาปรับเป็นทักษะให้สามารถใช้ได้ในชีวิตประจำวันและชีวิตการทำงานในอนาคต

อีกทั้งยังได้นำเสนอมุมมองเรื่องของนักการตลาดให้แก่นิสิตในหัวข้อ ‘Marketeers of the Future: นักการตลาดแห่งอนาคต’ นำโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เอกก์ ภทรธนกุล หัวหน้าภาควิชาการตลาด Chulalongkorn Business School ซึ่งมีเนื้อหาสำคัญ คือ นักการตลาดแห่งอนาคตต้อวมรทักษะ 5Re ประกอบด้วย Resilence (ความยืดหยุ่น), Resolution (เก่งแก้ปัญหา), Reliance (น่าเชื่อมั่นเชื่อถือ), Revolution (มุ่งหน้านวัตกรรม) และ Relationship (สร้างความสัมพันธ์กับสังคมและสิ่งแวดล้อม) ซึ่ง HIT PROGRAM  จะตอบสนองทั้งห้าประเด็นนี้เพื่อสร้างสรรค์นักการตลาดแห่งอนาคตเพื่อสังคมไทยต่อไป

ทั้งนี้ในอนาคต ฮาคูโฮโด ประเทศไทย มีแนวความคิดที่จะนำโครงการที่ประสบความสำเร็จและสร้างการเรียนรู้ใหม่ ๆ จากญี่ปุ่น เข้ามาปรับใช้และร่วมมือกับภาคการศึกษาในประเทศไทยให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของบริษัทที่ต้องการร่วมสร้างคนรุ่นใหม่ให้เป็นกำลังสำคัญทางสังคมต่อไป