Chipper Cash กับวิธีที่ชาวแอฟริกันสองคนเอาชนะอคติเพื่อสร้างสตาร์ทอัพที่มีมูลค่านับพันล้าน

เป็นเรื่องราวที่ทรงพลังมาก ๆ นะครับสำหรับการสร้างสตาร์ทอัพด้วยต้นทุนที่ติดลบ เพราะไม่ใช่เพียงแค่ต้องต่อสู้ในเรื่องเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ชายชาวแอฟริกันสองคนต้องทำให้ให้เหล่านักลงทุนก้าวข้ามเรื่องอคติ เพื่อให้มาลงทุนกับพวกเขา

แนวคิดสำหรับ Chipper Cash เริ่มต้นขึ้นเมื่อ Ham Serunjogi ในวัยมัธยมปลายมองเห็นปัญหาที่พ่อของเขาพบในการโอนเงินผ่านระบบธนาคารของแอฟริกา

ครอบครัวของ Serunjogi อาศัยอยู่ในเมืองกายาซา ประเทศยูกันดา ห่างจากกรุงกัมปาลาเมืองหลวง 10 ไมล์ โดยพ่อแม่ของเขาเป็นเจ้าของฟาร์ม ส่วนพ่อนั้นยังมีอาชีพเสริมโดยทำงานด้านไอทีเพื่อช่วยเหลือธุรกิจในท้องถิ่น

แม้จะไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากนัก แต่พ่อแม่ของ Serunjogi ต้องการผลักดันลูก ๆ ของพวกเขา และได้ส่ง Serunjogi และน้องชายสองคนไปเรียนที่โรงเรียนมัธยมเอกชน รวมถึงได้สมัครเข้าชมรมว่ายน้ำที่ถือว่ามีค่าใช้จ่ายสูงมาก ๆ

ในปี 2010 Serunjogi ซึ่งในขณะนั้นอายุได้ 16 ปี ได้ติดทีมยูธโอลิมปิกของยูกันดา หลังจากประสบปัญหาในการโอนเงินผ่านธนาคาร พ่อของเขาก็ต้องบินไปแอฟริกาใต้พร้อมซองเงินสดเต็มกระเป๋าเพื่อจ่ายเงินให้กับโค้ชว่ายน้ำของลูกชายในขณะที่กำลังฝึกฝนอยู่ที่นั่น

หลังจากโรงเรียนมัธยมปลาย Serunjogi ได้ติดตามพี่ชายของเขาไปที่ Grinnell ซึ่งเป็นวิทยาลัยด้านศิลปศาสตร์ขนาดเล็กในรัฐไอโอวา ซึ่งทั้งสองได้สานต่อกีฬาว่ายน้ำจนได้เป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัย

ที่ Grinnell นี่เองที่ทำให้ Serunjogi ได้พบกับ  Maijid Moujaled ชาวกานา ที่กำลังศึกษาด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์และตัว Moujaled ได้ก่อตั้งกลุ่มเขียนโค้ดสำหรับนักเรียนชั้นยอดในคลาสเรียน ทั้งสองก็ได้เริ่มพูดคุยเกี่ยวกับการพัฒนาแอปโอนเงินในแอฟริกาใต้แทบจะทันที

แต่ก่อนอื่นพวกเขาต้องการประสบการณ์ในโลกเทคโนโลยีจริง ๆ ก่อนและจำเป็นต้องมีวีซ่าที่ใช้ในการทำงาน ดังนั้นในช่วงปีแรก ๆ Serunjogi จึงส่งอีเมลถึง Mark Zuckerberg และ Sheryl Sandberg เพื่อไปฝึกงานกับบริษัทระดับเทพอย่าง Facebook ซึ่งสุดท้ายเขาก็ได้กลายมาเป็นพนักงานประจำในดับลินหลังจากเขาสำเร็จการศึกษาในปี 2016

ในช่วงปี 2018 Serunjogi ได้ส่งข้อความถึง Moujaled ซึ่งได้งานเป็นวิศวกรซอฟต์แวร์ในซานฟรานซิสโกเพื่อบอกว่าถึงเวลาที่ต้องมาลุยกันได้แล้ว

Serunjogi ได้ลาออกจากงานและย้ายไปอยู่ที่สตูดิโออพาร์ทเมนต์ของ Moujaled โดยอาศัยนอนบนที่นอนลมในห้องครัว ทั้งสองได้นำเงินออมมารวมกันได้ 30,000 ดอลลาร์ และใช้เงินเดือนของ Moujaled ที่ยังคงทำงานอยู่เป็นทุนเริ่มต้นในการขับเคลื่อนบริษัท

ทั้งคู่พยายามสร้างแอปต้นแบบออกมาให้เร็วที่สุด โดยเปิดตัวแอปเวอร์ชันทดสอบของ Chipper Cash ในเดือนกรกฎาคม 2018 โดยให้ลูกค้าส่งเงินจากยูกันดาไปยังกานาได้แบบฟรี ๆ

ในขณะที่เริ่มเปิดใช้งาน ทั้งคู่ได้พยายามหาเงินลงทุนโดยแบกหน้าไปหา VC มากกว่า 500 แห่ง ซึ่งแทบจะไม่มีใครสนใจในแนวคิดดังกล่าวนี้ และดูเหมือนจะเย้ยหยันเสียด้วยซ้ำ สถานการณ์ในตอนนั้นเรียกได้ว่าทั้งคู่เริ่มหมดเงินทุน แทบจะไม่มีเงินพอจ่ายค่าอพาร์ทเมนต์เพื่อซุกหัวนอน

ซึ่งสุดท้ายได้ Sheel Mohnot จาก Better Tomorrow Ventures ที่ได้เข้ามาสนับสนุนทั้งคู่ โดยลงเงิน 40,000 ดอลลาร์ให้กับ Chipper Cash หลังจากที่ Serunjogi ได้บอกเขาไปตรงๆ ว่าพวกเขากำลังจะไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าอพาร์ทเมนต์

Sheel Mohnot จาก Better Tomorrow Ventures ที่ได้เข้ามาสนับสนุนทั้งคู่ (CR:Domma Consulting)
Sheel Mohnot จาก Better Tomorrow Ventures ที่ได้เข้ามาสนับสนุนทั้งคู่ (CR:Domma Consulting)

แอปฟรีที่ใช้งานง่ายของ Chipper Cash ได้กลายเป็นทางเลือกใหม่ของชาวแอฟริกา ซึ่งตอนนั้นมีเจ้าตลาดอย่าง M-Pesa ของเคนยาอยู่ โดย M-Pesa นั้นเก็บค่าธรรมเนียม 1-2% สำหรับการโอนเงินภายในประเทศซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่โหดมาก ๆ

ภายในปี 2019 Chipper Cash ได้เปิดให้บริการในยูกันดา กานา เคนยา และรวันดา ในไม่ช้าก็ได้ขยายไปยังไนจีเรีย ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของแอฟริกาซึ่งมีประชากรมากกว่า 200 ล้านคน และภายในสิ้นปีก็มีลูกค้าถึง 600,000 ราย

เมื่อ Bitcoin ราคาเริ่มทะยานสูงขึ้นจาก 14,000 ดอลลาร์ เป็น 20,000 ดอลลาร์ในช่วงปี 2020 Chipper เองก็ได้เกาะกระแสโดยเริ่มอนุญาตให้ผู้ใช้ซื้อขาย Bitcoin และ Ethereum ทำให้กลายเป็นสายธุรกิจใหม่ที่สร้างกำไรได้อย่างงดงาม

ในปี 2021 ด้วยการพุ่งขึ้นมาแรงมาก ๆ ของวงการคริปโตทั่วโลก และด้วยการลงทุนจากบริษัทต่าง ๆ เช่น FTX , Ribbit Capital และ Bezos Expeditions ของ Sam Bankman-Fried ทำให้มูลค่าธุรกรรมเพิ่มขึ้นจาก 200 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2021 พุ่งเป็น 1.6 พันล้านดอลลาร์ในอีก 12 เดือนต่อมา

แต่การเติบโตทั้งหมดนั้นมาพร้อมกับความท้าทายที่มีเดิมพันสูงเช่นกัน สิ่งแรกคือสภาพคล่อง Chipper Cash ต้องมีเงินทุนเพียงพอในแต่ละประเทศเพื่อรองรับการโอนเงินทันที เพื่อไม่ให้กิจการของพวกเขาต้องหยุดชะงัก

ความน่ากังวลที่ใหญ่กว่าคือ คู่แข่งรายใหม่อย่าง Wave สตาร์ทอัพในเซเนกัลที่นำเสนอบริการคล้าย ๆ กัน และถูกประเมินมูลค่าสูงถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์ หรือบริษัทรับโอนเงินอื่น ๆ เช่น Remitly และ Wise แม้ยังไม่อนุญาตให้ผู้คนส่งเงินจากประเทศในแอฟริกาหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีว่าพวกเขาจะไม่เข้ามาสู่ตลาดอันหอมหวนนี้

Wave สตาร์ทอัพในเซเนกัลที่นำเสนอบริการคล้าย ๆ กัน และถูกประเมินมูลค่าสูงถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์ (CR:The Africa Report)
Wave สตาร์ทอัพในเซเนกัลที่นำเสนอบริการคล้าย ๆ กัน และถูกประเมินมูลค่าสูงถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์ (CR:The Africa Report)

แต่เรื่องราวของ Serunjogi ก็ถือเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญสำหรับบริษัทเทคโนโลยีของแอฟริกาใต้ เพราะอุดมการณ์แรกของพวกเขานั้นเกิดขึ้นจากการต้องการแก้ไขปัญหาให้ชาวแอฟริกาเพื่อให้พวกเขาสามารถโอนเงินได้อย่างง่ายดายและสร้างวิธีการลงทุนใหม่ ๆ ให้กับชาวแอฟริกา เพื่อปรับปรุงชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้น และให้มีความทัดเทียมผู้คนจากทวีปอื่น ๆ ได้ในท้ายที่สุดนั่นเองครับผม

References :
https://www.forbes.com/sites/jeffkauflin/2023/08/17/inside-chipper-cashs-grueling-battle-to-survive-the-fintech-winter/?sh=299133022ee3
https://www.forbes.com/sites/jeffkauflin/2022/06/06/how-two-africans-overcame-bias-to-build-a-startup-worth-billions/?sh=2a58cc7364d5
https://thetwentyminutevc.libsyn.com/20vc-fintech-og-sheel-mohnot-on-lessons-from-investing-in-flexport-and-chippercash-and-missing-robinhood-and-chime-why-overly-large-gp-commits-are-dangerous-biggest-mistakes-managers-make-with-fund-i-and-emerging-markets-which-survive
https://twitter.com/pitdesi/status/1533808292022976512