BBC x Elon Musk เมื่อสื่อ 100 ปีถูกลากมาเชือดผ่านการสัมภาษณ์ Live สดครั้งประวัติศาสตร์

เป็นการสัมภาษณ์ที่น่าสนใจมาก ๆ ของ Elon Musk กับ BBC ที่มีการ Live สด ให้คนทั่วโลกได้รับชมพร้อม ๆ กัน กับเรื่องราวต่าง ๆ ของ Elon Musk โดยเฉพาะหลังจากที่เขาเข้ามา Take Over กิจการอย่าง Twitter

ถ้าได้มีโอกาสได้รับชมใน version Live สด แบบไม่มีการตัดต่อในภายหลัง ซึ่งถือว่า Elon Musk เลือกวิธีการที่ค่อนข้างฉลาด เพราะมันเป็นการวัดสติปัญญาในการตอบคำถามกันแบบตรง ๆ แบบไม่มีการตัดต่อ

BBC ได้ส่งนักข่าวอย่าง James Clayton มาสัมภาษณ์ Elon Musk ในชุดคำถามที่ต้องเรียกว่าต้องการที่จะถล่ม Elon Musk ให้จมดิน กับปัญหาต่างๆ นา ๆ ที่เกิดขึ้นกับ Twitter

แต่อย่างที่หลายคนได้ทราบประวัติความเป็นมาของ Elon Musk เขาเป็นหนึ่งในคนที่ฉลาดสุด ๆ อ่านหนังสือเยอะมาก ๆ มาตั้งแต่เด็ก และมีความมั่นใจสูงมาก ไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น เพราะเขาคือหนึ่งในบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก การตอบคำถามจึงค่อนข้างตรงไปตรงมาอย่างชัดเจนตรงและประเด็นมาก ๆ

มีหลายหลายประเด็นมาก ๆ ที่มีการสัมภาษณ์กันไปกันมา ซึ่ง Musk ก็ตอกกลับ BBC ด้วยคำถามที่จุก ๆ หลายคำถามเหมือนกัน มีหลายๆ ประเด็นที่น่าสนใจที่ผมอยากจะกล่าวถึงในบทความนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Free Speech , Hate Speech หรือคำพูดแสดงความเกลียดชัง , Misinformation ข้อมูล fake news การเซ็นเซอร์ของแพลตฟอร์ม รวมถึงประเด็นเรื่องการปลดพนักงานล็อตใหญ่ของ Elon Musk

เมื่อทั้งคู่เข้าสู่หัวข้อการเซ็นเซอร์และคำพูดแสดงความเกลียดชัง บน Twitter โดย Clayton มองว่า Musk เป็นผู้ที่นำบุคคลที่เคยมีความขัดแย้งและถูกแบนก่อนหน้านี้กลับมา เช่น Donald Trump รวมถึงอดีตพนักงาน Twitter ก็ได้กล่าวหาว่าแพลตฟอร์มนี้ขาดการกลั่นกรองที่ดีพอสำหรับ Hate Speech

“คุณกำลังพูดถึง Hate Speech อะไร” Musk ถามทันที “ผมหมายถึงคุณใช้ Twitter คุณเห็นการเพิ่มขึ้นของ Hate Speech หรือไม่?”

Musk ได้ขอให้ Clayton ยกตัวอย่างคำพูดแสดงความเกลียดชังที่เขาเห็นตั้งแต่ Musk เข้ามาดูแล Twitter แต่ Clayton ไม่สามารถให้ได้

“คุณไม่สามารถยกตัวอย่างเนื้อหาแสดงความเกลียดชังให้ผมแม้แต่ Tweet เดียว แต่คุณอ้างว่ามีเนื้อหาแสดงความเกลียดชังสูง นั่นเป็นเรื่องเท็จ คุณแค่โกหก” Musk กล่าวอย่างหงุดหงิด

“ไม่ ผมอ้างว่ามีหลายองค์กรที่บอกว่าข้อมูลประเภทนั้นกำลังเพิ่มขึ้น” Clayton กล่าวอย่างอึกอัก

“The Strategic Dialogue Institute [Institute for Strategic Dialogue] ในสหราชอาณาจักรพูดอย่างนั้น”

Musk ยังคงตอกกลับ: “คุณบอกว่าคุณเคยพบกับเนื้อหาที่แสดงความเกลียดชังมากขึ้น และไม่สามารถยกตัวอย่างแม้เพียงเรื่องเดียวได้ มันไร้สาระ!”

Musk ได้กล่าวเสริมในภายหลังว่าเขาเชื่อการตัดสินของผู้ใช้มากกว่าความเชี่ยวชาญของนักข่าว โดยโอ้อวดเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ Community Notes ในการแก้ไขข้อมูลที่ผิด ในขณะที่ Clayton ก็ยอมรับว่า BBC ก็เคยเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงเช่นเดียวกัน

ในขณะที่ Musk เองต้องการให้ผู้คนมองว่า Twitter เปรียบเสมือน Public Square ที่คนมาถกเถียงกันเหมือนในโลกปรกติที่ผู้คนก็มาถกเถียงกันตามร้านกาแฟ ตามสถานที่สาธารณะต่างๆ แต่ให้มันมาอยู่บนออนไลน์ในแพลตฟอร์ม Twitter แทน

มีอีกหลายหลายประเด็นในการสัมภาษณ์ครั้งนี้ที่น่าสนใจ ทั้งเรื่องการปลดพนักงานแบบกะทันหัน ซึ่งถ้ามองในเชิงธุรกิจ Musk เองก็ได้ถามกลับไปว่าจะให้เขาทำอย่างไร ในเมื่อสิ่งที่เขาซื้อมามันกำลังจะล่มสลายในเชิงธุรกิจ ซึ่งการปลดพนักงานคือวิธีแก้ปัญหาวิกฤติแบบสไตล์ Elon Musk (ซึ่งบริษัท Big Tech ส่วนใหญ่ก็ทำกัน)

เอาจริง ๆ มันก็มองได้สองมุมมองจากเรื่องนี้ การปล่อยให้ Twitter ปล่อยให้มี Free Speech แบบสุดโต่งอย่างที่ Elon Musk กำลังทำ มันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะทุกคนที่เห็นต่างกันควรได้รับข้อมูลจากทุกฝ่ายแบบเท่าเทียมกัน

ซึ่งหากมองแบบ Musk เรื่องของ Fake News ในโลกจริง ๆ ที่เราคุยถกเถียงกันมันก็เกิดขึ้นเป็นปรกติในทุกสังคม อยู่ที่ฐานข้อมูลของคนนั้น ๆ ว่ามีชุดข้อมูลแบบไหน แต่พอมันมาอยู่บนโลกออนไลน์ มันกระจายไปอย่างรวดเร็วสู่คนกลุ่มใหญ่มาก ๆ มันไม่ได้กระจุกอยู่ในสังคมเล็ก ๆ เหมือนใน Public Square อย่างที่ Elon Musk พูด

การสัมภาษณ์ครั้งนี้ BBC เสียหายอย่างชัดเจน การที่จะมาสัมภาษณ์หนึ่งในบุคคลที่ฉลาดเป็นกรดที่สุดในโลกเกี่ยวกับบริษัทที่เขาเพิ่งซื้อมา ควรที่จะทำการบ้านมามากกว่านี้

ประเด็นที่สำคัญที่ BBC พลาดไปก็คือ ปริมาณของข้อมูลที่ผิดต่างหาก ที่ BBC พลาดที่จะตอบในข้อนี้ เพราะการมีคนกลั่นกรองทั้งในสำนักข่าวหรือองค์กรใด ๆ มันก็มีโอกาสที่จะพลาดน้อยกว่าปล่อยให้อิสระเสรี ใช้ Avatar มาโจมตีใครก็ได้แบบไร้ซึ่งความรับผิดชอบ และไร้การควบคุม เพราะสังคมใดที่มีคนเข้าใจข้อมูลผิด ๆ เยอะมากขึ้นเท่าไหร่ สุดท้ายสังคมนั้นก็จะเละเทะมากยิ่งขึ้นเท่านั้น นั่นเองครับผม

References :
https://www.bbc.com/news/av/world-us-canada-65249139