กระดิ่งที่ไร้เสียงเรียก เมื่อ Youtube เดินหน้า Recommendation Engine แบบเต็มสูบตามรอย TikTok

กลายเป็นประเด็นที่น่าสนใจมาก ๆ นะครับ กับข่าวที่ Youtuber ช่องดังที่มียอด subscribe ของช่องมากกว่า 1 ล้านคน ได้ออกมาประกาศว่ากำลังจะไปต่อไม่ไหวเนื่องจากไม่สามารถสู้กับอัลกอริธึมที่เปลี่ยนไปของ Youtube ได้อีกต่อไป

ย้อนกลับไปในปี 2011 Google ได้เริ่มใช้ระบบ Machine Learning ใหม่ที่เรียกว่า Sibyl เพื่อให้คำแนะนำบน Youtube ซึ่งผลกระทบของ Sibyl นั้นเกิดขึ้นแทบจะทันที วิศวกรของ Youtube พบว่าตัวเลขการเข้าชมของ Youtube พุ่งกระฉูดขึ้นแบบฉุดไม่อยู่

Machine Learning ทำงานได้ดีจนในไม่ช้าผู้คนจำนวนมากเลือกว่าจะดูอะไรตาม “วีดีโอแนะนำ” มากกว่าวิธีการอื่น ๆ ในการเลือกวีดีโอ เช่น การค้นหาทางเว็บหรือการอ้างอิงทางอีเมล

Google พบขุมทรัพย์ทำเงินใหม่ผ่านอัลกอริธึม Machine Learning พวกเขาได้พัฒนาพวกมันขึ้นไปอีกขั้น โดยสิ่งที่เรียกว่า Google Brain ซึ่งพัฒนาโดยกลุ่ม Moonshot อันโด่งดังของบริษัท Google X ที่นำโดยศาสตราจารย์ Andrew Ng จากสแตนฟอร์ด

Google Brain ใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าครั้งใหม่ของเทคโนโลยี Deep Learning แม้ผลกระทบจาก Sibyl นั้นจะน่าประทับใจ แต่ผลกระทบจาก Google Brain นั้นสร้าง Impact ที่สูงกว่ามาก

Google X ที่นำโดยศาสตราจารย์ Andrew Ng จากสแตนฟอร์ด (CR:MIT Technology Review)
Google X ที่นำโดยศาสตราจารย์ Andrew Ng จากสแตนฟอร์ด (CR:MIT Technology Review)

ในช่วงสามปี 2014-2017 เวลารวมที่ใช้ในการดูวีดีโอบนหน้าแรกของ Youtube เพิ่มขึ้น 20 เท่า คำแนะนำผลักดันมากกว่า 70% ของเวลาทั้งหมดบน Youtube วีดีโอแนะนำของ Youtube กลายเป็นเรื่องน่าขนลุกที่จะคาดเดาสิ่งที่คุณสนใจได้อย่างแม่นยำ

นั่นคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Youtube แต่พวกเขายังสนับสนุนช่องที่มีฐานสมาชิกที่มีการสร้างฐานผู้ติดตามมาอย่างยาวนาน ลงทุนลงแรงเพื่อให้คนมาติดตามช่อง มีระบบที่เรียกว่าการสั่นกระดิ่งที่จะแจ้งเตือนอยู่เสมอหากมีวีดีโอใหม่ ๆ ของช่องที่เราติดตาม

แนวคิดของ Youtube ได้เริ่มเปลี่ยนไป หลังจากการแจ้งเกิดของ TikTok

ที่ประเทศจีน Zhang Yiming ผู้ก่อตั้ง ByteDance ได้กลายเป็นผู้นำในเทคโนโลยีดังกล่าว เขาไม่เพียงแค่เห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของมันเท่านั้น แต่ยังดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับมันอย่างรวดเร็วอีกด้วยเพื่อไม่ให้ยักษ์ใหญ่รายอื่น ๆ รู้ตัวทัน

ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ขับเคลื่อนความสำเร็จของ ByteDance คือวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในช่วงต้นของ Yiming ที่พวกเขามุ่งมั่นที่จะใช้เทคนิคใหม่ ๆ เหล่านี้ และจังหวะเวลาของตัดสินใจนั้นมีองค์ประกอบร่วมกันก็คือ การเติบโตอย่างบ้าคลั่งของสมาร์ทโฟนและการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยี AI

มันได้กลายเป็นเครื่องจักรที่ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ Yiming มองว่าสิ่งที่เขาจะต้องทำโดยด่วนก็คือ การเปลี่ยนรูปแบบอัลกอริธึมการแนะนำวีดีโอจาก “คนที่กำลังมองหาข้อมูลเป็นข้อมูลกำลังหาผู้คน”

Zhang Yiming ผู้ก่อตั้ง ByteDance ที่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในโลกของการขับเคลื่อนข้อมูลใหม่ (CR:The Information)
Zhang Yiming ผู้ก่อตั้ง ByteDance ที่มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในโลกของการขับเคลื่อนข้อมูลใหม่ (CR:The Information)

อัลกอริธึมคำแนะนำรูปแบบใหม่ จะฉีกหนีไปจากเดิมอย่างชัดเจน ที่สถานการณ์ในตอนนั้นโลกถูกขับเคลื่อนด้วยพลังของโซเชียลมีเดียที่ต้องการคำแนะนำเพียงเล็กน้อยแต่จะถูกขับเคลื่อนด้วยพลังของการเชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างกลุ่มคนเพียงเท่านั้น

อัลกอริธึมคำแนะนำรูปแบบใหม่ เป็นการฉีกกฎทุกอย่างที่เครือข่ายโซเชียลมีเดีย หรือแม้กระทั่งการสตรีมมิ่งวีดีโออย่าง Youtube เคยมีมา เนื่องจากคำแนะนำแทบไม่ต้องการการติดตามเพื่อการเชื่อมต่อเหมือนในอดีตอีกต่อไป

เพราะฉะนั้น TikTok แจ้งเกิดได้จากจุดเด่นในเรื่องนี้ ผู้ใช้งานที่มาใหม่แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลย แม้กระทั่งลงทะเบียนก็ยังไม่ต้องทำเลยด้วยซ้ำ แค่เปิดหน้า “For You” ระบบจะเรียนรู้จากพฤติกรรมโดยที่ผู้ใช้งานแทบจะไม่ต้องไปติดตามใครเลย

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอัลกอริธึม Youtube

เมื่อโลกถูกผลักดันไปในทิศทางเดียวกับ TikTok แน่นอนว่า Youtube คงอยู่เฉยไม่ได้ ถ้าปล่อยไว้เรื่อย ๆ คงไม่เป็นเรื่องดีอย่างแน่นอน เพราะสุดท้าย TikTok อาจจะเริ่มต้นเพียงแค่แพลตฟอร์มวีดีโอสั้น แต่หากในระยะยาวอัลกอริธึมรูปแบบนี้มัน Work แล้วนั้น TikTok อาจจะทำสิ่งเดียวกันในรูปแบบวีดีโอยาวก็เป็นได้ (ซึ่งมีข่าวว่า TikTok เริ่มสนใจวีดีโอแบบยาวแล้ว)

เพราะฉะนั้น มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเสียงบ่นของ Youtuber ในตอนนี้ การมีรูปแบบของกระดิ่งแจ้งเตือนนั้น แทบจะไม่สามารถต้านทานกระแสอัลกอริธึมของ TikTok ได้อีกต่อไป

ในตอนนี้ Youtube แทบจะไม่แจ้งเตือนกันแล้ว หรือมีการแจ้งเตือนช่องที่เราติดตามน้อยมาก ๆ แต่อาศัยรูปแบบพฤติกรรมของผู้ใช้งานเพื่อ recommended วีดีโอให้กับผู้ใช้งานแทน

ตัวอย่างง่าย ส่วนตัวผมเอง youtube แทบจะรู้ตลอดทั้งวันว่าผมจะดูอะไรเวลาไหน ตอนเช้าก็เสิร์ฟ วีดีโอข่าวสาร ธุรกิจ เทคโนโลยี ที่ผมดูเป็นประจำทุกเช้า เวลาราว ๆ เที่ยง มีรายการฟุตบอลสดที่ผมติดตาม มันก็โผล่มาให้เราได้เห็นเลยทันที ส่วนก่อนนอนปิดท้ายที่การเสิร์ฟรายการผี The Ghost Radio ที่ผมฟังก่อนนอนทุกคืน

จะเห็นได้ว่า มันเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน กระดิ่งที่เรากดไว้ มันไม่มีผลอีกต่อไป หรือมีผลน้อยมาก ๆ เพราะตอนนี้ Youtube ได้เดินตามรอย TikTok นั่นก็คือการเปลี่ยนแปลงอัลกอริธึมครั้งใหญ่ จากเดิมที่ผู้คนมองหาข้อมูลเป็นข้อมูลกำลังวิ่งไปหาผู้คน โดยแทบจะไม่สนใจเรื่องผู้ติดตามและการกดสั่นกระดิ่งอีกต่อไปแล้วนั่นเองครับผม