Artifact แอป TikTok เวอร์ชั่นข้อความ กับผลงานชิ้นใหม่ของสองผู้ก่อตั้ง Instagram

Kevin Systrom และ Mike Krieger สองผู้ร่วมก่อตั้ง Instagram ซึ่งออกจาก Facebook ในปี 2018 ท่ามกลางความตึงเครียดกับบริษัทแม่ของพวกเขา ได้สร้างแพล็ตฟอร์มใหม่เพื่อสำรวจแนวคิดสำหรับแอปโซเชียลในยุคหน้า 

ผลิตภัณฑ์แรกของพวกเขาคือ Artifact ซึ่งเป็นฟีดข่าวส่วนบุคคลที่ใช้ เทคโนโลยี Machine Learning เพื่อทำความเข้าใจความสนใจของคุณและจะช่วยให้คุณสามารถพูดคุยเกี่ยวกับบทความเหล่านั้นกับเพื่อน ๆ ได้

Artifact ชื่อนี้แสดงถึงการรวมบทความ ข้อเท็จจริง และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เข้าด้วยกัน ซึ่งแอปนี้มีสำหรับทั้ง Android และ iOS

วิธีที่ง่ายที่สุดในการทำความเข้าใจ Artifact ก็คือ การเป็น TikTok สำหรับข้อความ แม้อาจจะคล้ายกับ Google Reader หรือ Twitter แต่แอปถูกสร้างขึ้นเพื่อป้อนบทความยอดนิยมที่เลือกจากรายชื่อสำนักข่าวที่มีการคัดสรรแล้ว

ไล่ตั้งแต่องค์กรข่าวชั้นนำอย่าง The New York Times ไปจนถึงบล็อกขนาดเล็กเกี่ยวกับหัวข้อเฉพาะ เพีงแค่แตะที่บทความที่คุณสนใจ แล้ว Artifact จะแสดงโพสต์และเรื่องราวที่คล้ายกันให้คุณ เช่นเดียวกับการดูวิดีโอบนหน้า For You ของ TikTok ที่ปรับแต่งอัลกอริทึมเมื่อเวลาผ่านไป

ผู้ใช้ Artifact รุ่นเบต้ากำลังทดสอบคุณสมบัติอีกสองอย่างที่ Systrom คาดว่าจะเป็นคีย์หลักของแอป หนึ่งคือฟีดที่แสดงบทความที่โพสต์โดยผู้ใช้ที่คุณเลือกติดตาม พร้อมด้วยคำอธิบายเกี่ยวกับโพสต์เหล่านั้น ส่วนที่สองคือกล่องจดหมายข้อความ เพื่อให้คุณสามารถพูดคุยเกี่ยวกับโพสต์ที่คุณอ่านเป็นการส่วนตัวกับเพื่อนๆ ได้

Artifact แอปอ่านข่าวที่ขับเคลื่อนด้วยพลัง AI ใหม่ (CR:Engadget)
Artifact แอปอ่านข่าวที่ขับเคลื่อนด้วยพลัง AI ใหม่ (CR:Engadget)

ในแง่หนึ่ง Artifact สามารถให้ความรู้สึกเหมือนย้อนยุค แรงบันดาลใจจากความสำเร็จของ TikTok ซึ่งใช้เวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาในการสร้างมาตรฐานใหม่ของวิดีโอแบบสั้นและสร้างรายได้จากโฆษณาจำนวนมหาศาล

ในขณะเดียวกัน เช่นเดียวกับโซเชียลเน็ตเวิร์กจากช่วงปลายยุค 2000 Artifact มีจุดยืนที่แน่วแน่ในการโฟกัสเรื่องของข้อความเป็นหลัก ซึ่งผู้ก่อตั้งทั้งสองหวังว่าบทเรียนกว่าทศวรรษที่พวกเขาได้เรียนรู้ รวมถึงความก้าวหน้าล่าสุดในด้านปัญญาประดิษฐ์ จะช่วยให้แอปของพวกเขาเข้าถึงฐานผู้ใช้งานจำนวนมากขึ้นได้

Systrom และ Krieger เริ่มถกกันเกี่ยวกับแนวคิดของสิ่งที่กลายมาเป็น Artifact เมื่อสองสามปีที่แล้ว Systrom กล่าวว่าครั้งหนึ่งเขาเคยสงสัยในความสามารถของระบบ Machine Learning ในการปรับปรุงคำแนะนำ แต่ประสบการณ์ของเขาที่ Instagram ทำให้เขากลายเป็นผู้ศรัทธาอย่างแท้จริงในอัลกอริธึมดังกล่าวนี้

“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สิ่งที่ฉันเห็นคือทุกครั้งที่เราใช้ Machine Learning เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้บริโภค สิ่งต่างๆ จะดีขึ้นอย่างรวดเร็วจริงๆ” เขากล่าว

แต่ Artifact ก็ไม่ใช่โปรเจ็กต์แรกของทั้งคู่ตั้งแต่ออกจาก Instagram เพราะในปี 2020 พวกเขาร่วมมือกันสร้างเว็บไซต์ Rt.live เพื่อติดตามการแพร่กระจายของโควิด

Systrom ได้กล่าวว่าพวกเขาไม่ต้องการเริ่มต้นบริษัทใหม่จนกว่าจะมีสามสิ่งเกิดขึ้น: หนึ่ง คลื่นลูกใหม่ขนาดใหญ่ในเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภคที่เขาและ Krieger สามารถเข้าถึงได้ สอง วิธีในการเชื่อมโยงคลื่นนั้นเข้ากับเทคโนโลยีโซเชียล ซึ่งเขาและ Krieger ยังคงมีไฟเต็มเปี่ยมในการสร้างสรรค์มันขึ้นมา และสาม แนวคิดที่ว่าผลิตภัณฑ์ของพวกเขาสามารถแก้ปัญหาของผู้ใช้งานได้อย่างไร

ความก้าวหน้าที่เปิดใช้งาน Artifact คือเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า transformer ซึ่ง Google คิดค้นขึ้นในปี 2017 มันมีกลไกสำหรับระบบในการทำความเข้าใจภาษาโดยใช้อินพุตน้อยกว่ายุคก่อนหน้านี้เป็นอย่างมาก

การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวช่วยให้ระบบ Machine Learning ปรับปรุงได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งนำไปสู่การเปิดตัว ChatGPT เมื่อปีที่แล้ว และความสนใจที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับ AI (Transformers คือตัว “T” ใน ChatGPT)

นอกจากนี้ยังสร้างความเป็นไปได้ใหม่ ๆ สำหรับเครือข่ายสังคม ซึ่งในยุคแรกโซเชียลเน็ตเวิร์กจะแสดงสิ่งที่เพื่อนๆ คิดว่าน่าสนใจ นั่นคือโมเดลของ Facebook จากนั้นพวกเขาก็เริ่มแสดงข้อมูลตามบุคคลที่คุณเลือกติดตาม ไม่ว่าคุณจะเป็นเพื่อนหรือไม่ก็ตาม

นวัตกรรมของ TikTok คือการแสดงเนื้อหาโดยใช้การคาดเดาด้วยอัลกอริทึมเท่านั้น โดยไม่คำนึงว่าเพื่อนของคุณเป็นใครหรือติดตามใคร ซึ่งในไม่ช้ามันก็กลายเป็นแอปที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดในโลก

คำถามคือคำแนะนำส่วนบุคคลสำหรับบทความข่าวและบล็อกโพสต์สามารถขับเคลื่อนความสำเร็จแบบไวรัลสำหรับ Artifact เช่นเดียวกับสิ่งที่วิดีโอทำกับ TikTok ได้หรือไม่?

ในปี 2014 กระแสของแอปข่าวเฉพาะบุคคลที่มีชื่ออย่างเช่น Zite และ Pulse เกิดขึ้นและดับไปโดยไม่สามารถสร้างพฤติกรรมใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้ได้ 

แอปอย่าง SmartNews ซึ่งตั้งอยู่ในโตเกียว ซึ่งใช้เทคโนโลยี AI ที่คล้ายกันเพื่อปรับเปลี่ยนคำแนะนำในแบบของคุณได้เลิกจ้างพนักงาน 40 เปอร์เซ็นต์ในสหรัฐอเมริกาและจีน ท่ามกลางฐานผู้ใช้ที่ลดลงและตลาดโฆษณาที่มีความท้าทายมากยิ่งขึ้น

หรือในเคสที่ประสบความสำเร็จอย่างแอป Toutiao แอปอ่านข่าวของ ByteDance เจ้าของ TikTok ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ข่าว clickbait เสียมากกว่า ซึ่งไม่ใช่วิสัยทัศน์ของ Systrom และ Krieger

Toutiao แอปอ่านข่าวของ ByteDance เจ้าของ TikTok ที่เน้น clickbait (CR: The Egg Company)
Toutiao แอปอ่านข่าวของ ByteDance เจ้าของ TikTok ที่เน้น clickbait (CR: The Egg Company)

ความน่าสนใจก็มีแอปของประเทศไทยเราเองที่มี concept เดียวกับวิสัยทัศน์ของ Systrom นั่นก็คือ blockdit ซึ่งมีการพัฒนาโดยเฉพาะระบบการแนะนำเนื้อหาที่ก้าวล้ำอย่างมาก ซึ่งมีความแม่นยำไม่แพ้แอปจากต่างชาติเลยทีเดียว

Artifact เองนั้นจะมีการลบโพสต์เนื้อหาแนว fake news โดยระบบ Machine Learning จะได้รับการปรับแต่งเพื่อวัดระยะเวลาที่คุณใช้ในการอ่านเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ เป็นหลักซึ่งตรงข้ามกับสิ่งที่ทำให้เกิดการคลิกและความคิดเห็นมากที่สุด เพื่อพยายามให้รางวัลแก่เนื้อหาที่มีส่วนร่วมอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

AI เป็นแรงผลักดันในความสำเร็จของ TikTok ในทำนองเดียวกัน Twitter ยังคงเป็นแหล่งข่าวหลักสำหรับข่าวด่วนส่วนใหญ่เพราะเป็นที่ที่เหล่าผู้มีอิทธิพลไปพูดคุยข่าวในที่สาธารณะมากที่สุด

Artifact ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา แต่ถ้า Systrom และ Krieger สามารถนำองค์ความรู้แบบเดียวกันมาใช้กับผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาเคยทำสำเร็จมาแล้วกับ Instagram พวกเขาอาจจะพลิกโลกของการเสพข้อมูลข่าวได้อีกครั้งก็เป็นได้นั่นเองครับผม

References :
https://www.theverge.com/2023/1/31/23579552/artifact-instagram-cofounders-kevin-systrom-mike-krieger-news-app
https://www.theverge.com/2014/3/6/5475778/the-smarter-news-apps-are-the-dumber-they-get
https://www.ft.com/content/85553e43-5623-4c30-ab57-2232e250ec0c

คาซาร์เต้ จัดกิจกรรม Masterpiece Sweet’s Day เดือนพิเศษกับหนุ่มคนพิเศษ กลัฟ คณาวุฒิ มาร่วมสนุกสร้างโมเมนต์สุดสวีทกับแฟนคลับผู้โชคดี

10 กุมภาพันธ์ 2566 กรุงเทพฯ ประเทศไทย: คาซาร์เต้ (Casarte) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านระดับไฮเอนด์ จัดกิจกรรมไลฟ์สุดพิเศษส่งท้ายเดือนแห่งความรักร่วมกับซุปเปอร์สตาร์หนุ่ม กลัฟ คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ใน “Masterpiece Sweet’s Day with Gulf Kanawut” 

ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 19.00 น. เปิดโอกาสให้แฟนคลับผู้โชคดีได้ร่วมกิจกรรมกับนักแสดงคนโปรดอย่างใกล้ชิด ผ่านการเข้าร่วม 2 กิจกรรม “Casarte Masterpiece Photo” และ “Casarte Masterpiece Item”

โดยในกิจกรรมแรก “Casarte Masterpiece Photo” เปิดโอกาสให้ผู้ร่วมสนุกร่วมกิจกรรมโดยการถ่ายรูปคู่กับสินค้าคาซาร์เต้ชิ้นใดก็ได้ที่ Haier Flagship Store ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

จากนั้นโพสต์รูปลงบน Facebook หรือ Instagram ส่วนตัว ตั้งค่าเป็นแบบสาธารณะ พร้อมบอกเหตุผลว่าสินค้าคาซาร์เต้ที่เลือกถ่ายรูปคู่จัดให้เป็นผลงานชิ้นเอกในด้านใด และติดแฮชแท็ก #MasterpieceSweetDayXGulf เพื่อลุ้นเป็นผู้โชคดี 1 ใน 6 ท่าน ที่มีโอกาสได้เข้าร่วมรับชมการทำอาหารของ กลัฟ คณาวุฒิ ในโซน “OBSERVE AREA”

สำหรับกิจกรรมที่สอง “Casarte Masterpiece Item” สามารถร่วมสนุกได้โดยการซื้อสินค้าคาซาร์เต้ที่ร่วมรายการที่ Haier Flagship Store ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และนำสลิปใบเสร็จการซื้อสินค้ามากรอกในลิงก์ที่กำหนดเพื่อสะสมสิทธิ์ Lucky Draw ผู้โชคดีจำนวน 7 ท่าน

จะได้รับรางวัลที่นั่งพิเศษในโซน “EXCLUSIVE AREA” โดยผู้โชคดีสามารถพาเพื่อนมาเข้าร่วมงานเพิ่มได้อีก 1 ท่าน พร้อมรับของที่ระลึกสุดพิเศษ ได้ชิมอาหารเมนูฝีมือ กลัฟ คณาวุฒิ พร้อมถ่ายรูปโพลารอยด์ร่วมกัน

โดยสามารถเข้าร่วมทั้งสองกิจกรรมได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 22.00 น. และจะประกาศรายชื่อผู้โชคดีวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 18.00 น. ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมและลุ้นผลรายชื่อผู้โชคดีได้ที่ Facebook : Casarte Thailand

ติดตามข่าวสารของคาซาร์เต้ ได้ที่ Facebook : Casarte Thailand และ Instagram : @casartethailand_official