ในที่สุดก็จบมหากาพย์ดีลการเข้าซื้อกิจการ Twitter เสียทีนะครับ สำหรับการที่ Elon Musk สามารถเข้าควบคุมกิจการของ Twitter ได้สำเร็จ และสิ่งแรกที่เขา Tweet ออกมาก็คือ “The bird is freed”
สิ่งที่ Musk ต้องการคือปลดปล่อย Twitter ให้เป็นอิสระอีกครั้ง เนื่องจากปัญหามากมายที่เกิดขึ้นกับแพลตฟอร์มแห่งนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
Twitter เป็นบริการ Social Media ตั้งแต่ยุคแรกเริ่มที่เกิดขึ้นหลัง Facebook ไม่นาน แต่มาถึงทุกวันนี้ ดูเหมือนว่าพวกเขาก็ยังไม่ประสบความสำเร็จในหลาย ๆ อย่าง โดยเฉพาะเรื่องโมเดลธุรกิจ
แต่ก็ต้องบอกว่า มันเป็น DNA ของผู้ก่อตั้งทั้ง 4 ซึ่งประกอบไปด้วย Evan Williams , Jack Dorsey , Biz Stone และ Noah Glass ที่มารวมตัวกันเพื่อเปลี่ยนโลกของการสื่อสารที่มีมากว่า 100 ปี
Twitter โปรเจคที่ดูเหมือนง่าย มีแนวคิดที่ simple มาก ๆ แต่มัน impact ต่อโลกเราอย่างมหาศาล มันเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ สิ่งในโลกของข้อมูลข่าวสารของมนุษย์เราไปอย่างสิ้นเชิง
แม้ล่าสุดจะอยู่ในมือ Jack Dorsey ก่อนส่งต่อให้กับ Elon Musk แต่สิ่งที่ Twitter นั้นยึดถือมาโดยตลอดนั่นก็คือเรื่อง Free Speech
แทบจะเป็นแพลตฟอร์มเดียวที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่หลายๆ ครั้งทั้งอาหรับสปริง การปฏิวัติในยูเครน จนมาถึงสิ่งที่ใหญ่ที่สุดอย่างการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ของอเมริกา หรือแม้กระทั่งเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่กำลังเกิดความแตกแยกในประเทศไทยเราเองก็ตามที
ซึ่ง Twitter เองก็ไม่ได้แคร์ในเรื่องของรายได้มาตั้งแต่แรก เพราะมีโอกาสมากมายที่พวกเขาสามารถที่จะสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้กับ Twitter แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังคง DNA ของการเป็นแพลตฟอร์ม Free Speech มาจวบจนถึงทุกวันนี้
ซึ่งเมื่อมาอยู่ในมือของ Elon Musk ท่าทีมันก็เริ่มชัดเจนตั้งแต่เข้ามาวันแรกที่ไล่ทั้ง CEO , CFO และผู้บริหารระดับสูงของบริษัทออกไปทันที และเรียกเหล่าวิศวกรเพื่อทบทวนโครงสร้างของ Twitter ใหม่
มันเป็นการปรับโครงสร้างของ Twitter ใหม่แทบจะทั้งหมด นโยบายเดิม ๆ ของ Twitter นั้นอาจจะถึงคราวต้องเปลี่ยนผ่าน
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ bot หรือ รูปแบบโมเดลการปั่น hashtag แบบเดิม ๆ ที่เป็นแพทเทิร์นในการสร้างกระแสกับสังคมในเรื่องต่าง ๆ นั้น คงต้องถูกล้างบางครั้งใหญ่แน่นอน
Musk เองนั้นได้นำเสนอวิสัยทัศน์แห่งอนาคตให้กับ Twitter ตามที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว ด้วยการลดการพึ่งพาโมเดลธุรกิจโฆษณาลง และจะผลักดันให้กลายเป็น Super Apps หรือ “X,The Everything App”
เขามองว่า Twitter นั้นมีศักยภาพสูงที่จะกลายเป็น “Super Apps” ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงโดยเฉพาะในประเทศจีนและส่วนอื่น ๆ ของเอเชีย
แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกตะวันตกนั้น เราไม่ค่อยเห็นแพลตฟอร์มใดที่สามารถผลักดันตัวเองให้กลายเป็น Super Apps อย่างที่ในประเทศจีนทำได้
ซึ่งก่อนหน้านี้ Elon Musk เองก็เคยแสดงความชื่นชม Wechat ว่าเป็น App ที่ยอดเยี่ยม และไม่มี App อย่าง Wechat ที่มีความสามารถเทียบเท่านอกประเทศจีนเลย
เอาจริง ๆ ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ นะครับ หาก Elon Musk จะผลักดัน Twitter ไปในแนวทางเดียวกับ Super Apps ของจีน
เรียกได้ว่ายังไม่มี App ไหนของฝั่งตะวันตกสามารถทำได้เทียบเคียงกับสิ่งที่ Wechat ทำได้เลย
หากแผนการของ Elon Musk สำเร็จ ก็น่าสนใจอย่างยิ่งว่าอาจจะทำให้ Twitter จะกลับมาครองความยิ่งใหญ่ในฐานะ Super Apps อันดับหนึ่งของโลก และแน่นอนว่ามันจะส่งผลให้ Elon Musk เองนั้น ไม่ใช่เพียงแค่นักธุรกิจที่รวยที่สุดในโลกแต่จะกลายเป็นนักธุรกิจที่มีอิทธิพลและทรงอำนาจมากที่สุดในโลกนั่นเองครับผม
References :
https://www.economist.com/business/2022/10/11/will-elon-musk-owned-twitter-end-up-as-a-deal-from-hell
https://www.businesstoday.in/trending/world/story/the-bird-is-freed-elon-musk-on-firing-top-executives-after-taking-over-twitter-351099-2022-10-28