Global Supply Shortage เมื่อไต้หวันมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกมากกว่าที่หลายคนคิด

สถานการณ์ของไต้หวันในตอนนี้ ผมคิดว่าหลาย ๆ องค์กรธุรกิจในไทยต้องมีหนาว ๆ ร้อน ๆ กันบ้าง น่าจะมีการประชุมกลยุทธ์ทางด้านธุรกิจกันอย่างเคร่งเครียดกับปัญหาเรื่องชิป ที่แทบจะกลายเป็นหัวใจสำคัญของอุปกรณ์มากมายหลายๆ ชนิด ไล่ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไป อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ไปจนถึงวงการยานยนต์

มันได้ส่งผลมากกว่าที่หลาย ๆ คนคิด แม้กระทั่งในไทยเอง มีหลากหลายอาชีพที่มีความเกี่ยวข้อง และชะตาชีวิตของพวกเขาก็ถูกผูกกับไว้กับปัญหาชิปที่เกิดขึ้นนี้ ปัญหา Supply Shortage ที่พ่วงเป็นลูกโซ่กำลังเกิดขึ้นในหลากหลายอุตสาหกรรม และกำลังเริ่มทำลายเศรษฐกิจในหลายภาคส่วน

สถานการณ์การซ้อมรับทางการทหารครั้งล่าสุดของจีนที่โอบล้อมไต้หวัน ได้ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนต่อเศรษฐกิจโลก ภายหลังการเยือนไทเปของประธานสภาผู้แทนสหรัฐฯ แนนซี เปโลซี

Gareth Leather นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Capital Economics กล่าวว่า “ไต้หวันมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกมากกว่า 1% ของ GDP โลก”

เนื่องจากไต้หวันเองได้กลายเป็นผู้ผลิตชิปประมวลผลรายใหญ่ที่สุดของโลก และมีความแพร่หลายมากยิ่งขึ้นในหลากหลายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของมนุษย์ ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 2 เท่าของผู้ผลิตรายใหญ่รายถัดไป

92% ของเซมิคอนดักเตอร์สุดล้ำที่พวกเราใช้งานกันอยู่ในทุกวันนี้ผลิตโดย TSMC ในไต้หวัน ดังนั้นหากอุปทานเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวันหยุดชะงักเป็นระยะเวลานาน เหล่าผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์จะต้องพบกับสถานการณ์ลำบากในการหาซัพพลายเออร์รายอื่น

แน่นอนว่ามันเกี่ยวข้องกับเรื่องของภูมิศาสตร์การเมืองระดับโลก การปกครองตนเองของไต้หวันโดยมีพี่ใหญ่อย่างอเมริกาคอยหนุนหลังนั้น เป็นประโยชน์ทางภูมิศาสตร์ที่สำคัญสำหรับสหรัฐฯ

เนื่องจากการครอบงำของเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้ในตลาดโลกสำหรับไมโครชิป เซมิคอนดักเตอร์ซึ่งมีในอุปกรณ์ทุกอย่างตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงรถยนต์ และได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันยุคดิจิทัลของมนุษย์เราไปเสียแล้ว

โดยในรายงานปี 2021 จาก Biden Administration ได้มีการอธิบายว่า

“สหรัฐอเมริกาต้องพึ่งพาบริษัทเดียวอย่าง TSMC อย่างมากสำหรับการผลิตชิประดับแนวหน้า”

นอกจากนี้ในรายงานยังระบุว่า

“การขาดความสามารถในการผลิตในประเทศยังทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความสามารถในการสร้างความมั่นคงของชาติทั้งในปัจจุบันและอนาคต และความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ”

สหรัฐอเมริกาต้องพึ่งพาบริษัทเดียวอย่าง TSMC อย่างมากสำหรับการผลิตชิประดับแนวหน้า (CR:Hexus.net)
สหรัฐอเมริกาต้องพึ่งพาบริษัทเดียวอย่าง TSMC อย่างมากสำหรับการผลิตชิประดับแนวหน้า (CR:Hexus.net)

และนั่นเองที่ทำให้พญาอินทรีต้องผ่านพระราชบัญญัติชิปและวิทยาศาสตร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยให้เงินอุดหนุน 52 พันล้านดอลลาร์แก่ภาคเซมิคอนดักเตอร์ของอเมริกา

ซึ่งต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องเหลือเชื่อมาก ๆ ที่ประเทศชั้นนำของวงการเทคโนโลยีอย่างสหรัฐอเมริกาต้องพึ่งพาชิปจากไต้หวันแทบจะ 100%

ซึ่งการอัดงบประมาณใหม่ในครั้งนี้ จะมีการจัดสรรเงิน 39 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่บนผืนแผ่นดินสหรัฐฯ

ความท้าทายอีกประการหนึ่งคือปัญหาการขาดแคลนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะทำให้ราคาสูงขึ้น ทำให้เกิดแรงกดดันต่อเงินเฟ้อทั่วโลกมากยิ่งขึ้น

บทสรุป

จากข้อมูลข้างต้นเราจะเห็นถึงความสำคัญของไต้หวันในวงการผลิตชิปทั่วโลก แม้กระทั่งอเมริกาเอง ยังต้องพึ่งพาไต้หวันอย่างหนัก

ปัญหาการขาดแคลนชิปในวงกว้างจะส่งผลกระทบต่อสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีความหลากหลาย รวมถึงบริการด้านดิจิทัลที่กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ในการดำรงชีวิตของมนุษย์เราไปเสียแล้ว

ขนาดอเมริกายังโดนหนักขนาดนี้ไม่ต้องจินนาการถึงอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในประเทศเราเองที่เรียกได้ว่า โดย effect กันถ้วนหน้า ซึ่งในหลากหลายอุตสาหกรรมในไทยเรา เหล่าผู้บริหารคงนั่งถกเครียดในประเด็นนี้กันอย่างหนัก

ยิ่งสถานการณ์ดูเหมือนจะมีความรุนแรงขึ้นในเรื่องปัญหาระหว่างจีนและไต้หวัน และจะทำให้สร้างความสั่นสะเทือนกับวงการธุรกิจทั่วโลกอีกครั้ง และส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงไปอีกนานขึ้นนั่นเองครับผม

References :
https://www.thewirechina.com/2021/06/13/stuck-in-the-middle-with-tsmc/
https://sg.finance.yahoo.com/news/taiwan-world-economy-economist-explains-12354538
https://www.aljazeera.com/economy/2022/8/4/why-china-is-not-sanctioning-taiwans-crucial-tech-industry
https://asia.nikkei.com/Business/Technology/How-a-small-Taiwanese-city-transformed-the-global-chip-industry