Gerry Cotten กับชีวิตและความตาย ของราชาแห่งคริปโตเจ้าของแพลตฟอร์ม QuadrigaCX

Gerry Cotten ที่ได้เริ่มฉายแววของจอมลวงโลกตั้งแต่วัยเยาว์ ในวัยเพียง 15 ปี เขาได้เปิดตัวโครงการแชร์ลูกโซ่ในฟอรัมออนไลน์ที่ชื่อว่า TalkGold โดยมีการรับประกันว่าเหล่าเหยื่อที่เข้ามาลงทุนในโปรเจกต์ของเขาจะได้รับผลตอบแทนสูงถึง 150% ภายในสองวัน

Cotten เปลี่ยนจากเด็กชายที่ใสซื่อ เป็นจอมโจร หลอกล่าเหยื่อ ที่เป็นนักลงทุนระดับสูงวัยได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่สุดยอดมาก ๆ เขาเปิดกิจการที่มีชื่อว่า S&S Investments ก่อนที่อีกสามเดือนให้หลัง เงินที่ได้รับจากการลงทุนทั้งหมดจะสูญหายไปอย่างไร้ร่องรอย พร้อมกับ avatar ที่ไร้ตัวตนของเขาในฟอรัมออนไลน์

นั่นคือเรื่องของ Cotten ในวัย 15 ปี เพิ่งผ่านวัยเด็กมาหมาด ๆ เพียงเท่านั้น แต่เริ่มหากินด้วยการฉ้อโกง โดยอาศัยความคลั่งไคล้คอมพิวเตอร์ และเห็นช่องโหว่ในการทำเงินกับมัน

เฉกเช่นเดียวกับในอีก 15 ปีถัดมา ที่ Cotten ได้ไปประสบพบเจอกับสิ่งที่เรียกว่า Bitcoin ที่อ้างว่าเป็นนวัตกรรมทางด้านการเงินเปลี่ยนโลก ซึ่งเขามองเห็นโอกาสทำเงินครั้งใหญ่อีกครั้ง

ด้วยความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี ที่เรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะทางด้านคอมพิวเตอร์ Cotten ได้เข้าไปศึกษา Bitcoin ก่อนใคร และเข้าร่วม community ที่เกี่ยวข้องในประเทศแคนาดาบ้านเกิดของเขา

เมื่อเห็นโอกาสเขาจึงได้เปิดแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลที่ชื่อว่า QuadrigaCX ในตอนนั้นแทบไม่มีใครรับรู้ประวัติในวัยเด็กของเขามาก่อนเลยด้วยซ้ำ

โดย QuadrigaCX เขาได้ร่วมก่อตั้งกับ Michael Patryn ในเดือนพฤศจิกายน 2013 หลังจากเดือนแรก แพลตฟอร์มของพวกเขาก็เริ่มขึ้น พวกเขาได้สร้างตู้ ATM bitcoin แห่งที่ 2 ในแวนคูเวอร์ในเดือนมกราคม 2014 ซึ่งในปีเดียวกันนั้นแพลตฟอร์มของเขามีการทำธุรกรรม Bitcoin เพียงแค่ 7.4 ล้านดอลลาร์แคนาดาเพียงเท่านั้น

ในช่วงการเปิด QuadrigaCX นั้นเขาเปิดหน้าแบบเต็มตัว ไม่จำเป็นต้องอาศัย avatar ในโลกออนไลน์อีกต่อไป ด้วยการที่เข้ามาเป็นคนแรก ๆ ของวงการ ทำให้เขาสามารถผลักดันให้ QuadrigaCX กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดของแคนาดาได้ในที่สุด

และด้วยเงินจำนวนมหาศาลที่ได้รับจากแพลตฟอร์ม ที่ตอนนั้นเริ่มเป็นกระแสคลั่งไคล้ จนมีผู้คนจำนวนมากเริ่มเข้ามาสนใจสกุลเงินดิจิทัล โดยเฉพาะ Bitcoin

ทำให้ Cotten กลายเป็นมหาเศรษฐีภายในชั่วข้ามคืน แพลตฟอร์มของเขาได้รับการระดมทุนจำนวนมหาศาล เขาและ Jennifer Robertson ภรรยาเดินทางไปเที่ยวรอบโลกด้วยเครื่องบินส่วนตัว ในจุดหมายปลายทางยอดฮิตเช่น ปารีส โมร็อกโก และ ฮาวาย

Cotton และ Jennifer Robertson ภรรยาเดินทางไปเที่ยวรอบโลกด้วยเครื่องบินส่วนตัว ในจุดหมายปลายทางยอดฮิตเช่น ปารีส โมร็อกโก และ ฮาวาย (CR:Ayther)
Cotten และ Jennifer Robertson ภรรยาเดินทางไปเที่ยวรอบโลกด้วยเครื่องบินส่วนตัว ในจุดหมายปลายทางยอดฮิตเช่น ปารีส โมร็อกโก และ ฮาวาย (CR:Ayther)

Cotten ไม่อายที่จะใช้เงินทุ่มซื้อสิ่งต่างๆ ที่เขาถวิลหามานานแสนนาน ไมว่าจะเป็นเรือยอทช์มูลค่า 600,000 ดอลลาร์ รถยนต์ Lexus ระดับไฮเอนด์ บ้านอีก 17 หลังในประเทศแคนาดา และเครื่องบินส่วนตัว

เขาออกมาพูดโน้มน้าวคนส่วนใหญ่ ให้หันมาสนใจสกุลเงินดิจิทัล โดยอ้างคำพูดสุดหรู ที่เป็นคำที่เจ้าของแพลตฟอร์มเหล่านี้มักพูดกันอย่างกับเป็น script เดียวกัน

“โดยพื้นฐานแล้วมันจะกำจัดความจำเป็นของผู้มีอำนาจจากส่วนกลาง คุณจะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมในการส่งเงิน และกำจัดกฎเกณฑ์มากมายในโลกการเงินแบบเก่า ๆ”

อย่างไรก็ตามในปี 2018 เมื่อราคา bitcoin เริ่มดิ่งลงเหว เหล่านักลงทุนพยายามที่จะถอนเงินจาก QuadrigaCX ซึ่งบางรายก็ถอนได้ บางรายก็ถอนได้ช้ามาก ๆ หรือ ถอนไม่ได้เลย มันชี้ให้เห็นถึงสภาพคล่องที่เริ่มมีปัญหาของ QuadrigaCX

เช่นเดียวกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ QuadrigaCX เก็บเงินของนักลงทุนไว้ในสิ่งที่เรียกว่า “cold wallets” ซึ่งเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลดิจิทัลที่ปลอดภัยจากการแฮ็กเนื่องจากไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตามปัญหาก็คือมีเพียง Cotten เท่านั้นที่รู้รหัสผ่านในการเข้าถึง wallets ดังกล่าวนี้

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง Cotten และภรรยาของเขาบินไปอินเดียเพื่อฮันนีมูนในเดือนธันวาคม 2018 แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อราชาคริปโตแห่งแคนาดา ได้เสียชีวิตจากโรคโครห์น

หลังจากนั้นทางการอินเดียอนุญาติให้นำศพของเขากลับไปที่แคนาดาเพื่อทำพิธีครั้งสุดท้าย แต่เป็นเรื่องน่าแปลกที่การเสียชีวิตของเขาแทบจะไม่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะเลย ทั้งที่ QuadrigaCX กำลังเป็นข่าวใหญ่มาก ๆ ในตอนนั้น

เมื่อถึงเดือนมกราคม 2019 บริษัท Quadriga ยื่นฟ้องขอความคุ้มครองจากเจ้าหนี้ กลุ่มนักลงทุนเริ่มไม่พอใจและถามไถ่ถึงเงินของพวกเขา ทางบริษัทได้แจ้งว่ามีเพียง Cotten เท่านั้นที่รู้รหัสผ่านของ crypto wallet

นั่นทำให้ทุกคนต่างสงสัย ทำให้บางคนตั้งคำถามว่า Cotten เสียชีวิตจริงหรือไม่ และเรียกร้องให้มีการขุดร่างของ Cotten ออกมาเพื่อยืนยันการตายของเขา

ฝั่ง Jennifer ที่เป็นภรรยา เริ่มถูกตามล่า จากกลุ่มที่ไม่พอใจ เธอได้ออกมายืนยันว่าเขาตายแล้ว และเธอก็อยู่ที่งานศพของเขา และเธอไม่ได้มีส่วนของแผนการสมรู้ร่วมคิดอะไรทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตามการล่มสลายของ QuadrigaCX นั้น กระตุ้นให้มีการสอบสวนทางเพ่งหลายครั้งว่าเงินจำนวนมหาศาลดังกล่าวมลายหายไปได้อย่างไร

หลังจากนั้นชายนิรนาม ที่มีนามแฝงว่า QCX-INT ได้ออกมาเปิดเผยประวัติการฉ้อโกงของ Cotten เพราะมันมีข้อมูลบางอย่างที่เขาสืบค้นและพบแผนการอันยาวนานตั้งแต่เริ่มต้นของ Cotten ใน TalkGold ไปจนถึงการร่วมมือกับ Michael Patryn หุ้นส่วนธุรกิจของเขาใน QuadrigaCX

Michael Patryn หุ้นส่วนธุรกิจของ Cotton ในช่วงแรกของ QuadrigaCX (CR:The Logic)
Michael Patryn หุ้นส่วนธุรกิจของ Cotten ในช่วงแรกของ QuadrigaCX (CR:The Logic)

ในปี 2005 Patryn ได้สารภาพว่ากระทำการฉ้อโกงภายใต้บริษัท Midas Gold ซึ่งเป็นตัวกลางกับ Liberty Reserve บริษัทสกุลเงินดิจิทัลของคอสตาริกาที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในยุคนั้น และถูกจับกุมจากข้อหาการฟอกเงินครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

ซึ่งในบันทึกของศาลระบุว่าอีเมลของ Cotten นั้นมีการติดต่อกับ Midas Gold ซึ่งทำให้ทั้ง Cotten และ Patryn ถูกตั้งขอหาเกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวของ Liberty Reserve

แต่ปรากฎว่าอีกสองปีต่อมาทั้งคู่ได้มาเปิด Quadriga อย่างไรก็ตาม Patryn ได้ออกจากบริษัทในปี 2016 เนื่องจากมีข้อพิพาทเกี่ยวกับการจดทะเบียนบริษัท

Patryn กล่าวว่าเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการที่ตามมาของ Cotten ซึ่ง QuadrigaCX ได้รับการตรวจสอบโดยคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ของออนแทรีโอ ในแคนาดา หลังจากที่เกิดการฟ้องร้องของกลุ่มนักลงทุน

ในปี 2019 การสอบสวนพบว่า “สิ่งทีเกิดขึ้นกับ QuadrigaCX เป็นการหลอกลวงแบบโบราณที่ถูกห่อหุ้มด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างสกุลเงินดิจิทัล”

โดย Cotten ได้สร้างบัญชีปลอมหลายบัญชีบนแพลตฟอร์ม QuadrigaCX เพื่อให้มีผลกับการซื้อขายบนแพลตฟอร์ม ซึ่งมีรายงานว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกรรมหลอก ๆ ในแพลตฟอร์มถึง 87%

ฝั่งของ Jennifer ที่เป็นภรรยานั้น รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก หลังจากพบการฉ้อโกงในบริษัทของสามีเธอ แต่เธอได้ปฏิเสธการมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางธุรกิจของสามีเธอ และ ไม่มีรหัสผ่านของ crypto wallet แต่อย่างใด มีเพียงสามีของเธอเท่านั้นที่รู้ และมันได้สูญสลายไปกับร่างกายที่ไร้วิญญาณของสามีเธอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

References :
https://kalkinemedia.com/uk/news/cryptocurrency/the-curious-case-of-gerry-cotton-and-quadriga-cx-scandal
https://bitcoinist.com/netflix-trust-no-one-the-hunt-for-the-crypto-king/
https://www.vanityfair.com/news/2019/11/the-strange-tale-of-quadriga-gerald-cotten
https://gizmostory.com/what-we-know-about-gerry-cotton-from-trust-no-one-the-hunt-for-the-crypto-king/
https://www.thescottishsun.co.uk/news/8640258/crypto-king-gerry-cotten-netflix/

เมื่อ Big Tech ลดการจ้างงาน กับผลกระทบจากภาวะถดถอยของอุตสาหกรรมโฆษณาออนไลน์

เรียกได้ว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงที่ธุรกิจ Tech พุ่งแรงขึ้นอย่างสุดขีด ผู้คนต่างติดอยู่กับบ้านจากสถานการณ์ lockdown ทำให้ส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อธุรกิจ Tech โดยเฉพาะด้านการโฆษณาออนไลน์ที่เติบโตแบบฉุดไม่อยู่

แต่มันเหมือนกระแสเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น เมื่อมาถึงจุดนี้บริษัทยักษ์ใหญ่โดยเฉพาะ Google เพิ่งประกาศว่าจะหยุดการจ้างงานเป็นเวลาสองสัปดาห์เพื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนว่าบริษัทต้องการมุ่งเน้นทรัพยากรของพวกเขาไปที่ใด

หลังจากธุรกิจโฆษณาที่เริ่มตกต่ำในช่วงเริ่มต้นของภาวะเศรษฐกิจถดถอย เมื่อผู้โฆษณาการค้นหารายใหญ่สำหรับอุตสาหกรรม เช่น การเดินทางและการท่องเที่ยว เริ่มลดงบประมาณในการโฆษณาออนไลน์

ตอนนี้อาจเป็นอาการเมาค้างของ Google นักวิเคราะห์ของ Bernstein Mark Shmulik กล่าว “หากความต้องการด้านการเดินทางสูง เหล่าบริษัทท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องโฆษณามากนัก นั่นจะทำให้ค่าใช้จ่ายในการซื้อโฆษณาลดลง”

มันเป็นเรื่องเห็นได้ชัด ที่ผู้คนทั่วโลกต่างเก็บกดจากการ lockdown มาเป็นเวลาสองปี ที่พวกเขารอวันที่จะออกไปท่องเที่ยวอีกครั้ง ซึ่งตัวอย่างประเทศไทยเองที่เริ่มเปิดประเทศ ก็เริ่มมีการเดินทางเข้ามาอย่างมหาศาล โดยที่แทบจะไม่ต้องทำการตลาดแต่อย่างใด

มีปัจจัยอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลต่อธุรกิจโฆษณาของ Google ตัวอย่างเช่น iPhone ที่ได้ลดทอนความสามารถของแอปอย่าง Facebook เพื่อติดตามประสิทธิภาพของโฆษณา ผู้ลงโฆษณาจึงเปลี่ยนงบประมาณไปที่โฆษณาบน Android หรือ Google Search ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นข่าวร้ายสำหรับ Meta บริษัทแม่ของ Facebook แต่เป็นความโชคดีเพียงแค่ชั่วคราวของ Alphabet เท่านั้น

ผู้โฆษณาแบรนด์ใหญ่ยังคงเพิ่มการใช้จ่ายในบริการวิดีโอ จากไตรมาสแรกถึงไตรมาสที่สองของปีนี้ ผู้ลงโฆษณาได้เพิ่มการใช้จ่ายบน YouTube ระหว่าง 15% เป็น 30% ตามข้อมูลของ Ed Foster รองประธานระดับโลกด้านการค้นหาที่ GroupM ซึ่งเป็นหน่วยงานในการจัดซื้อสื่อ เขากล่าวว่าแบรนด์ต่างๆ เพิ่มการใช้จ่ายในโฆษณาบนเครือข่ายการค้นหาของ Google แต่เพิ่มขึ้นทีละน้อยเพียงเท่านั้น

รายได้ที่น่าผิดหวังล่าสุดของ Snap ที่เปิดเผยออกมาล่าสุดอาจหมายถึงข่าวร้ายสำหรับ Youtube โดย Snap ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสสองซึ่งต่ำกว่ารายรับ ส่งผลให้หุ้นตกฮวบทันที โดยลดลง 25% เพียงหนึ่งชม.หลังจากการประกาศผลประกอบการ

Evan Spiegel ซีอีโอของ Snap กล่าวว่าการใช้จ่ายโฆษณาชะลอตัวลงอย่างมากในช่วงไตรมาสดังกล่าว รายงานรายได้ของ Snap ดิ่งลงเหวและได้สร้างผลกระทบต่อตลาดโฆษณาออนไลน์โดยรวม โดยส่วนแบ่งการตลาดโฆษณาของ Facebook และ Google ซึ่งธุรกิจต่าง ๆ ของพวกเขาพึ่งพาโฆษณาออนไลน์แทบทั้งหมด ลดลง 5% และ 3% ตามลำดับ

Evan Spiegel ซีอีโอของ Snap กล่าวว่าการใช้จ่ายโฆษณา (CR:Forbs)
Evan Spiegel ซีอีโอของ Snap กล่าวว่าการใช้จ่ายโฆษณาชะลอตัวลงอย่างมาก (CR:Forbes)

YouTube ซึ่งมีธุรกิจคล้ายกับ Snapchat มีรายได้จากโฆษณามากมายจากธุรกิจอีคอมเมิร์ซและโฆษณาเพื่อการติดตั้งแอป ด้วยตลาดภาครัฐและเอกชนที่กระตุ้นให้บริษัทต่างๆ ให้ความสำคัญกับผลกำไรมากกว่าการเติบโต แคมเปญโฆษณาประเภทต่างๆ ที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดผู้ใช้จึงเข้ามามีบทบาท

YouTube กำลังเผชิญกับการคุกคามจากแอปอื่นๆ เช่น TikTok จนถึงตอนนี้ นักวิเคราะห์กล่าวว่าพวกเขายังไม่เห็นการมีส่วนร่วมที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในธุรกิจการค้นหาหรือ YouTube นั่นทำให้การเติบโตที่ช้าลงก็อาจมีนัยสำคัญต่อบริษัทเหล่านี้ในขณะที่กำลังเข้าสู่ช่วงเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

บทสรุป

จะเห็นได้ว่าตลาดหลักอย่างโฆษณาดิจิทัลออนไลน์ในตอนนี้ เริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังจากมี demand เทียมที่เกิดขึ้นในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 พร้อมกับการพุ่งทะยานของธุรกิจทางด้านเทคโนโลยี

ซึ่ง Big Tech ส่วนใหญ่ ทั้ง Google หรือ Facebook เองนั้นพึ่งพารายได้จากส่วนนี้เป็นหลัก รวมถึงอีกหลากหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลังจากการแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลายมันได้ส่งผลกระทบอย่างชัดเจนโดยเฉพาะการจ้างงาน หรือ การปลดคนงานออก เพื่อลดภาระของบริษัท

ซึ่งแน่นอนว่า ค่าแรงที่สูงเว่อร์ การแย่งตัววิศวกรโดยเฉพาะโปรแกรมเมอร์นั้น อาจจะเริ่มลดลง ที่ทำให้ก่อนหน้านี้บริษัทเล็ก ๆ แทบจะไม่สามารถที่จะไปจ้างกลุ่มคนเหล่านี้ได้ จะมีการปรับเข้าสู่ภาวะที่สมดุลอีกครั้ง หลังฝุ่นของการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้จางหายไปนั่นเองครับผม

References :
https://www.businessinsider.com/snap-ceo-evan-spiegel-says-demand-advertising-has-slowed-significantly-2022-7
https://www.businessinsider.com/googles-ads-business-looks-shaky-as-looming-recession-hits-youtube-2022-7

Geek Story EP151 : สดุดี Sheryl Sandberg กับ 14 ปีในการผลักดันธุรกิจ Facebook ให้ยิ่งใหญ่อย่างที่เราเห็นในทุกวันนี้

ในโลกของวงการ Startup มันมีเคสที่เกิดขึ้นมากมาย กับความไม่เป็นมืออาชีพของผู้ก่อตั้งผู้หยิ่งผยอง ที่คิดว่าตัวเองนั้นล้ำเลิศกว่าใคร ๆ และคิดว่าตัวเองเจ๋งที่สุดในโลก ไม่เชื่อฟังใคร แต่สุดท้ายก็มีจุดจบไม่สวยซะเป็นส่วนใหญ่ ตัวอย่างเช่น เหตุที่เกิดกับ ผู้ก่อตั้ง WeWork อย่าง Adam Neumann หรือ Travis Kalanick แห่ง Uber

มันเป็น case study ที่น่าสนใจในวงการธุรกิจโลกนะครับ สำหรับการเลือกคู่หูคู่ใจมือทำงาน Operation อย่างที่ Mark ได้เลือก Sheryl Sandberg เพราะเธอได้พา Facebook ผ่านมรสุมมากมาย แล้วก้าวผ่านคำว่า startup unicorn หน้าใหม่ที่ร้อนแรง กลายมาเป็นองค์กรธุรกิจมหาชนอย่างยิ่งใหญ่และมั่นคงมาจวบจนถึงทุกวันนี้นั่นเองครับผม

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3oinphI

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/3Pp8e2n

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/3RRhXQE

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/3B83Kc4

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/jj7XxXiO1CQ

Generation Moonshot ทำไมนักลงทุนรุ่นใหม่ไม่ได้ยอมแพ้กับความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้นของสินทรัพย์ดิจิทัล

ด้วยเงินออม 1,000 ดอลลาร์ และเช็คกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้รับสองครั้ง Chris Zettler เริ่มลงทุนในปี 2020 เขาได้เข้าซื้อหุ้นในบริษัทที่เขารู้จัก แต่พอผ่านไปซักระยะเขารู้สึกว่ามันน่าเบื่อ ราคาไม่มีความหวือหวา เขาเปลี่ยนไปซื้อหุ้นบริษัทที่มีราคาหุ้นผันผวน ท่ามกลางความผันผวนของราคา ด้วยหุ้นจำนวน 100 หุ้นของ AMC ที่ราคา 30 ดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม และขายที่ราคาประมาณ 65 ดอลลาร์ในเดือนมิถุนายน

Zettler ชายอายุ 35 ปี เรียนวิชาการเงินที่มหาวิทยาลัยอลาบามา มีบัญชี TD Ameritrade ที่อนุญาตให้เขาซื้อขายด้วยมาร์จิ้น (ยืมเงินจากนายหน้าเพื่อเพิ่มผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้น) และสามารถวางเดิมพันได้เกือบ 8,000 ดอลลาร์ จากเงินต้นเพียงแค่ 4,000 ดอลลาร์ เขาเปลี่ยนเงิน 4,000 ดอลลาร์นั้นให้กลายเป็น 18,000 ดอลลาร์

Zettler เห็นว่ายอดเงินในบัญชีของเขาเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ดอลลาร์ก่อนที่จะตกลงมาอยู่ที่ 35,000 ดอลลาร์ เมื่อตลาดเริ่มเข้าสู่ไซด์เวย์ เขาขายหุ้น 20,000 ดอลลาร์และนำไปจ่ายค่าเล่าเรียนของมหาวิทยาลัย

Zettler เป็นส่วนหนึ่งของนักลงทุนรุ่นที่อายุมากขึ้นในช่วงวิกฤตการเงินปี 2008 และผลที่ตามมาหลังจากดิ้นรนเพื่อสะสมความมั่งคั่งด้วยวิธีการดั้งเดิมในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา หลายคนเริ่มหันไปเก็งกำไรในตลาดการเงินที่มีความเสี่ยงกว่า

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับสินทรัพย์เก็งกำไร เช่น สกุลเงินดิจิทัล, NFT และ “หุ้นมีม” (ซึ่งมูลค่าพุ่งสูงขึ้นในช่วงต้นปี 2021 โดยได้รับแรงหนุนจากการโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย)

ค่าแรงที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด ราคาบ้านที่พุ่งสูงขึ้น และตอนนี้ภาวะเงินเฟ้อที่กัดกร่อนจิตวิญญาณของชาวอเมริกัน ได้บั่นทอนความคิดที่ว่าผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปีสามารถเลียนแบบที่คนรุ่นพ่อแม่ของพวกเขาสร้างเนื้อสร้างตัวได้ เหล่านักลงทุนที่อายุน้อยมองว่าหากเล่นตามกฎเก่า ๆ มันก็เป็นแค่กลยุทธ์ที่มีแต่ความพ่ายแพ้

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นได้ทำให้ตลาดคริปโตสั่นสะเทือน ราคาเหรียญที่ตกต่ำและการล้มละลายที่เกิดขึ้นของผู้ให้กู้ crypto และกองทุนป้องกันความเสี่ยงได้เปิดเผยเส้นทางอันตรายในพื้นที่เสี่ยงที่สุดของตลาด คำถามคือตอนนี้นักลงทุนอายุน้อยเหล่านี้ พร้อมที่จะเสี่ยงกับมันอีกหรือไม่?

ประสบการณ์ของ Zettler ไม่แนะนำ เขาได้เฝ้าดูเพื่อนร่วมงานของเขาไล่ล่าเดิมพันอย่างสิ้นหวังในสกุลเงินดิจิทัลและหุ้นที่ผันผวนโดยหวังที่จะก้าวไปสู่ความร่ำรวย เขากล่าว “ผมคิดว่าพวกเขาหมดหวังกันแล้ว”

To the moon

ในช่วงความบ้าคลั่งของหุ้น Meme ในช่วงต้นปี 2021 เรื่องราวของผลตอบแทนมหาศาลได้กระตุ้นให้เกิดการแห่เข้ามาลงทุนกันอย่างบ้าคลั่ง บางคนเหมือนถูกหวยได้รับรางวัลใหญ่

นักลงทุนที่ซื้อหุ้น GameStop เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2019 สามารถเปลี่ยนเงินทุน 10,000 ปอนด์เป็น 168,744 ปอนด์ภายในเดือนเดียวเมื่อหุ้นมีมแตะจุดสูงสุดในวันที่ 29 มกราคม 2020 ซึ่งราคาหุ้นถีบตัวเพิ่มขึ้นเกือบ 1,600 เปอร์เซ็นต์

แต่ก็มีโอกาสในการขาดทุนมหาศาลเช่นกัน นักลงทุนที่ซื้อที่จุดสูงสุดแล้วขายในปลายเดือนกุมภาพันธ์ ทุนของพวกเขาจะลดลงจาก 10,000 ปอนด์เหลือเพียงแค่ 3,129 ปอนด์ในหนึ่งเดือนหลังจากร่วงลง 69 เปอร์เซ็นต์ตามการวิเคราะห์ของ Boring Money

ถึงกระนั้น นักลงทุนรุ่นเยาว์จำนวนมากก็มั่นใจกับการซื้อขายของพวกเขา พวกเขากล่าวว่าอัตราต่อรองนั้นคุ้มค่ากับการเสี่ยง

เหล่านักลงทุนจำนวนมากจำการฟื้นตัวที่ไม่เท่าเทียมกันจากวิกฤตปี 2008 เมื่อรัฐบาลให้เงินช่วยเหลือ ตามมาด้วยภาวะกระทิงในตลาดที่ยืดเยื้อมานานนับทศวรรษ ทิ้งให้ผู้ที่ไม่ได้ลงทุนอยู่เบื้องหลัง

เมื่อตลาดร่วงลงเนื่องจากโควิด-19 ในเดือนมีนาคม 2020 พวกเขาไม่อยากพลาดเป็นครั้งที่สอง มันถึงเวลาที่พวกเขาต้องเดิมพันครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง

การซื้อขายหุ้นแบบไม่มีค่าคอมมิชชันในช่วงก่อนเกิดโรคระบาดได้เพิ่มแรงกระตุ้นให้กับพฤติกรรมการลงทุนที่คล้ายกับการซื้อลอตเตอรี

ในปี 2015 Robinhood แพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่นได้เปิดตัวขึ้นโดยสัญญาว่าจะ “ทำให้ทุุกอย่างเป็นประชาธิปไตย” ในตลาดการเงิน

Robinhood แพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่นได้เปิดตัวขึ้น (CR:CNBC)
Robinhood แพลตฟอร์มนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่มีค่าคอมมิชชั่นได้เปิดตัวขึ้น (CR:CNBC)

สี่ปีต่อมา โบรกเกอร์เกือบทุกแห่งในสหรัฐฯ ได้ยกเลิกค่าคอมมิชชั่นสำหรับการซื้อขายหุ้น แอปที่เหมือนเกมของ Robinhood ช่วยให้ลูกค้าสามารถลงทะเบียนและเริ่มซื้อขายหุ้นบนโทรศัพท์ได้ภายในไม่กี่นาที

แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยน cryptocurrency เช่น Coinbase ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อจำนวนเหรียญดิจิทัลในตลาดเพิ่มขึ้น ความคลั่งไคล้ “เหรียญมีม” ที่ขับเคลื่อนโดยผู้ทรงอิทธิพลอย่าง Elon Musk ได้นำเสนอสิ่งใหม่ๆ มากมาย ตั้งแต่การตั้งชื่อตามคนดัง (Coinye West) ไปจนถึง “เหรียญสุนัข” Shiba Inu และ dogecoin ในเดือนเมษายน 2013 มีเพียงเจ็ด cryptocurrencies สำหรับการขุดและซื้อขาย แต่ในทุกวันนี้มีเป็นหมื่นเหรียญให้เลือกสรรค์

การมีส่วนร่วมเป็นเรื่องง่าย “เว็บไซต์มีแค่ห้าปุ่ม”  Luke Hawley หนุ่มวัย 21 ปีกำลังจะเข้าสู่ปีสุดท้ายที่วิทยาลัย Endicott ในแมสซาชูเซตส์ซึ่งกำลังศึกษาด้านการเงินกล่าว “การซื้อ Shiba Inu บน Coinbase ง่ายกว่าการซื้อหุ้น”

Hawley กล่าวว่าเป็นเรื่องปกติในมหาวิทยาลัยของเขาที่จะพูดคุยเกี่ยวกับการพนันและการเก็งกำไร “ผู้คนคิดว่า ‘โอเค ฉันมีเงินสองพันในธนาคารบนโลกแห่งความเป็นจริงที่กำลังพังทลาย’” เขากล่าว “มี Fomo มากมาย” เขากล่าวเสริมเกี่ยวกับแนวคิดที่จะเปลี่ยนเงินเดิมพันเล็กน้อยให้เป็นเงินก้อนโต เพราะมันคือการพนันดี ๆ นี่เอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งชายหนุ่มได้รับความสนใจจากการลงทุนแบบ moonshot แบบนี้ นักลงทุน cryptocurrency ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย และมากกว่า 90% ของการซื้อขายใน Gamestop และ AMC ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ชายในช่วงที่ความคลั่งไคล้หุ้นมีมพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุด

ตามที่นายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ของสหราชอาณาจักร Interactive Investor กล่าว ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเหตุผลหนึ่งที่การลงทุนเหล่านี้ได้รับการปฏิบัติเหมือนการพนันทั่วไปก็เพราะว่าแอปนายหน้าให้ความรู้สึกเหมือนเป็นแพลตฟอร์มการพนัน เพียงแต่มันไม่มีกำแพงด้านกฎระเบียบเลย

“แพลตฟอร์มที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เส้นแบ่งระหว่างการเล่นเกม การพนัน และการลงทุน แคบลงไปเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพลตฟอร์มที่เปิดใช้งานการใช้สกุลเงินดิจิทัล” Jack Symons หัวหน้าผู้บริหารของแอป Gamban ในสหราชอาณาจักรกล่าว

แอป Gamban อนุญาติให้ผู้ใช้บล็อกแอปการพนันบนโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ของพวกเขา Gamban เริ่มบล็อกนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และแพลตฟอร์ม crypto เมื่อฤดูร้อนที่แล้ว “บางคนอาจบอกว่านี่เป็นแนวทางที่ตรงไปตรงมา แต่การพนันดูไม่เหมือนที่เคยเป็น มันไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนกับในคาสิโนหรือบนผ้าสักหลาดสีเขียว” Symons กล่าวในเดือนตุลาคม

เมื่อปลายปีที่แล้ว สายด่วนการพนันที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาบอกกับ Financial Times ว่ามีการเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในจำนวนการโทรที่มาจากผู้ที่เสพติดการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลรายวัน มากกว่าการพนันแบบดั้งเดิมหรือแม้กระทั่งการพนันกีฬา เหตุผลหนึ่งอาจเป็นเพราะการลงทุนไม่ได้มีตราบาปทางสังคมเหมือนกับการพนัน

“ถ้าคุณพูดว่า ‘พ่อของฉันใช้เวลาทั้งวันเล่นการพนัน’ [ฉัน] จะพูดว่า ‘โอ้ ฉันเสียใจด้วยสำหรับครอบครัวของคุณ’” เขากล่าว แต่ “ถ้ามีคนพูดว่า ‘พ่อของฉันใช้เวลาทั้งวันในการซื้อขาย FX’ คุณจะคิดว่าเขาคือหมาป่าแห่งวอลล์สตรีท . . ไม่ใช่การพนัน แต่เป็นการลงทุน และการลงทุนเป็นวิธีที่คุณจะรวย”

Diamond hands

ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากการล่มสลายของ cryptocurrency บางแห่ง และส่วนที่มีการเก็งกำไรมากที่สุดของตลาดได้รับผลกระทบมากที่สุด

แต่เมื่อราคาร่วงลง ความพยายามของบริษัท crypto บางแห่งในการเกลี้ยกล่อมนักลงทุนให้รักษาศรัทธาและยึดมั่นในสิ่งที่พวกเขามองข้าม ได้แสดงให้เห็นถึงพลังที่เพิ่มขึ้นของชุมชนออนไลน์

เด็กอายุต่ำกว่า 25 ปีมีแนวโน้มที่จะหันไปหาคำแนะนำทางการเงินจากโซเชียลมีเดียเป็นสองเท่ามากกว่ากลุ่มอายุอื่น ๆ และมีแนวโน้มที่จะทำเช่นนั้นมากกว่าการขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญถึงสามเท่าตามการสำรวจโดย OpenMoney ที่ปรึกษาของสหราชอาณาจักร

หัวข้อเกี่ยวกับ Robinhood เพิ่มขึ้นเมื่อชุมชนออนไลน์บน Twitter และ Reddit เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในการลงทุน ฟอรัมย่อยของ Reddit เช่น r/WallStreetBets ให้ข้อมูลผู้เชี่ยวชาญสำหรับนักลงทุนที่อยากจะเป็น อำนวยความสะดวกในการสนทนาและดึงความสนใจจากพวกเขา

ฟอรัมย่อยของ Reddit เช่น r/WallStreetBets ที่กลุ่มรุ่นใหม่คลั่งไคล้ (CR:Business Insider)
ฟอรัมย่อยของ Reddit เช่น r/WallStreetBets ที่กลุ่มรุ่นใหม่คลั่งไคล้ (CR:Business Insider)

การสูญเสียครั้งใหญ่อาจถูกหัวเราะเยาะจากเพื่อน ๆ “diamond hands” กลายเป็นอีโมจิสำหรับการยืนหยัดสู้แม้ทุกอย่างจะพังทลายลงก็ตาม

ผลการศึกษาของนักวิชาการที่มหาวิทยาลัยซิดนีย์เมื่อปีที่แล้วพบว่าผู้ที่มีอายุระหว่าง 18 ถึง 24 ปีมีแนวโน้มที่จะตัดสินใจเสี่ยงมากขึ้นเมื่อพวกเขาคิดว่าเพื่อนของพวกเขากำลังดูอยู่

Agnieszka Tymuła หัวหน้านักวิจัยในการศึกษากล่าวว่าชุมชนออนไลน์ของนักลงทุนได้ขยายพฤติกรรมแบบเดียวกันนี้ให้มากขึ้น: “ผู้คนต้องการเสี่ยง เพื่อคว้าชัยชนะครั้งใหญ่และโพสต์โชว์เกี่ยวกับเรื่องนี้”

การพูดคุยถึงกลยุทธ์ “moonshot” ฟอรัมบนเว็บจะสนับสนุนให้สมาชิกรู้สึกว่าโอกาสในการชนะนั้นมากกว่าที่เป็นจริงอย่างมาก กฎระเบียบไม่ได้มีการติดตามการแพร่กระจายของข้อมูลที่ผิด ๆ เหล่านี้แต่อย่างใด คนส่วนใหญ่มักจะโชว์แต่พอร์ตที่ตัวเองทำกำไร

นักศึกษาวิทยาลัยบางคนกล่าวว่าพวกเขาคุ้นเคยกับอันตรายของสิ่งที่เรียกว่า “rug-pulls ” ของคริปโตเคอเรนซีมากขึ้น เมื่อนักพัฒนาเปิดตัวสินทรัพย์ดิจิทัล ผลักดันราคาให้สูงขึ้นผ่านผู้มีอิทธิพลในโซเชียลมีเดีย แล้วหายไปพร้อมกับผลกำไรของพวกเขา

Harrison Turner จูเนียร์วัย 19 ปีจากวิทยาลัย Montgomery รัฐแอละแบมากล่าวว่า “มันเป็นเรื่องแย่แน่นอนหากลุกช้าแล้วโดนจ่ายรอบวง” อย่างไรก็ตาม เขาพูดว่าเขาเข้าใจแรงจูงใจของผู้มีอิทธิพล: “เขาเห็นโอกาสแล้วเขาก็คว้ามันไว้”

ไม่เสี่ยง = รวยช้า

แม้จะมีสภาพแวดล้อมการลงทุนที่ไม่เป็นมิตรมากขึ้น แต่การเก็งกำไรที่มีความเสี่ยงสูงมันแทบไม่ลดลงไปเลย “มันใช้งานได้ดีอย่างน่าทึ่งสำหรับบางคน และนิสัยเก่าๆ ก็แก้ยาก มันเสพติดไม่ต่างจากการพนัน”

Steve Sosnick หัวหน้านักยุทธศาสตร์ของโบรกเกอร์อินเทอร์แอคทีฟแพลตฟอร์มการซื้อขายของสหรัฐฯ กล่าว “พวกเขายังคงใช้มาร์จิ้นในการเก็งกำไร แม้ว่าอัตราจะสูงขึ้นก็ตาม”

ในเดือนพฤษภาคม จำนวนเงินที่ยืมเพื่อซื้อขายด้วยมาร์จิ้นอยู่ที่ 25% เหนือระดับก่อนเกิดโรคระบาด

ผู้จัดการความมั่งคั่งแบบดั้งเดิมไม่สบายใจเกี่ยวกับโอกาสที่สินทรัพย์ดิจิทัลจะเข้าสู่กระแสหลัก เกือบครึ่งหนึ่งของผู้เลือกกองทุนกล่าวว่าพวกเขารู้สึกกดดันที่จะเสนอ cryptocurrencies เพื่อดึงดูดนักลงทุนรุ่นเยาว์ตามการวิจัยของ Natixis ถึงกระนั้น 70% กล่าวว่าพวกเขาคิดว่าคนทั่วไปไม่ควรไปยุ่งเกี่ยวกับสินทรัพย์ที่มีความผันผวนเช่นนี้

“Cryptocurrency ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบสำหรับความไม่เท่าเทียมกันของรายได้” Georgia Lee Hussey ผู้จัดการความมั่งคั่งและผู้ก่อตั้ง Modernist Financial กล่าว “หากกลยุทธ์การลงทุนของคุณเซ็กซี่ แสดงว่าคุณกำลังทำผิดอย่างมหันต์”

นายหน้ายังกังวลว่านักลงทุนที่ขาดทุนมหาศาลอาจถอยห่างจากตลาดโดยสิ้นเชิง โดยเสริมในมุมมองของพวกเขาว่า เกมการเงินเหล่านี้เป็นสิ่งหลอกลวง

บนแพลตฟอร์มโซเชียล Fidelity ได้นำเอาสินทรัพย์ดิจิทัลและการเข้าถึงโซเชียลมีเดียมาใช้ในความพยายามที่จะเชื่อมต่อกับนักลงทุนรุ่นใหม่และโน้มน้าวให้พวกเขาเข้ามาลงทุนกับบริษัทเพิ่มมากขึ้น

“นักลงทุนรุ่นเยาว์มักกล่าวว่าความกังวลอันดับต้น ๆ ของพวกเขาคือความมั่นคงทางการเงิน ทำอย่างไรถึงจะมีเงินเพียงพอให้ใช้ชีวิตได้อย่างสุขสบาย พวกเขาจึงจะ ‘โอเค’”

Kelly Lannan หัวหน้าฝ่ายลูกค้าใหม่แห่ง Fidelity กล่าว “มันเป็นพื้นฐานมาก . . เราได้ยินสิ่งนั้นมากขึ้นกับกลุ่มคนรุ่นนี้”

ในขณะที่ Zettler กล่าวว่าเขา รู้สึกเบื่อมากขึ้นกับการลงทุนของเขา แต่คนอื่น ๆ เช่น Turner ยังคงสบายใจที่จะเสี่ยงทุกอย่าง เขาสูญเสียเงินแทบหมดตัวไปแล้วครั้งหนึ่งโดยคิดผิดกับการเดิมพันแบบมีม แต่บอกว่าเขาสามารถหาเงินได้มากพอที่จะใส่เงินสองสามพันดอลลาร์ในบัญชีนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มเข้าไปอีก “เงินจะมาและออกไป” เขากล่าว เขารู้ว่าเขาอาจจะสูญเสียมันไปทั้งหมด เขาไม่แคร์

และอีกครั้งที่เขาพูดว่าเขาอาจจะโชคดีถูกหวยอีกครั้งก็เป็นได้ (To The Moon)

References :
https://www.ft.com/content/4fa06516-119b-4722-946b-944e38b02f45
https://gizmodo.com/people-are-shelling-out-six-figures-for-nft-rocks-1847508926
https://www.ft.com/content/081c4208-8599-4509-bf1b-5a0abc0b19ed
https://www.independent.co.uk/space/diamond-hands-meaning-elon-musk-b1850265.html
https://www.ft.com/content/bce2ef2a-77d8-485e-ba69-92579f8fceb6

Geek Book EP11 : The Code Breaker การแข่งขันทางวิทยาศาสตร์ที่ดุเดือดเหนือเทคโนโลยีการแก้ไขยีนที่ทรงพลัง

The Code Breaker หนังสือที่เกี่ยวข้องกับผู้บุกเบิกการตัดต่อยีน ศาสตราจารย์ เอ็มมานูเอล ชาร์เพนทิเยร์ ชาวฝรั่งเศส และศาสตราจารย์ เจนนิเฟอร์ เดาด์นา ชาวอเมริกัน เป็นสองนักชีวเคมีและพันธุศาสตร์หญิง ที่สามารถพิชิตรางวัลโนเบลสาขาเคมีประจำปีนี้ไปครอง ด้วยผลงานการคิดค้นและพัฒนาเทคนิคใหม่เพื่อตัดต่อข้อมูลพันธุกรรมหรือจีโนม (Genome) ซึ่งวิธีนี้มีชื่อเรียกกันว่า “คริสเปอร์-แคสไนน์” (CRISPR-Cas9)

แม้เทคนิคนี้จะเพิ่งคิดค้นขึ้นมาในช่วงปี 2012 แต่ก็มีการนำไปใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางและหลากหลายอย่างยิ่งในปัจจุบัน โดยคณะกรรมการผู้ตัดสินรางวัลโนเบลสาขาเคมีของปีนี้กล่าวว่า “การที่เราตัดต่อแก้ไข DNA ตรงจุดไหนก็ได้ตามต้องการนั้น เท่ากับเราสามารถจะสร้างรหัสแห่งชีวิตเสียใหม่ และปฏิวัติวงการชีววิทยาศาสตร์”

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3cteis0

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/3zrrmat

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://bit.ly/3yKq2O0

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/3yTZNVG

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/BflHEE6s3b0

สนใจสั่งซื้อหนังสือได้ที่ :
Kinokuniya -> https://bit.ly/3RLp90r
Asiabooks -> https://bit.ly/3uYPCxE