Sheryl Sandberg x Facebook กับบริษัทที่เธอมีส่วนสร้างมา สู่การจากลาที่แสนเจ็บปวด

ต้องบอกว่าการจากลาของ Sheryl Sandberg ของ Facebook นั้น สร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนจำนวนมาก แต่ก็ต้องบอกว่ามันได้เริ่มมีกระบวนการในการลดบทบาทของเธอมาหลายปีแล้ว

สิ่งแรกที่น่าสนใจก็คือ ในงาน World Economic Forum ล่าสุดในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นปีแรกที่ Sandberg นั้นไม่ได้อยู่ท่ามกลางกลุ่มผู้นำธุรกิจระดับโลก ที่เธอมักจะมีบทบาทในฐานะหญิงแกร่งแห่งวงการธุรกิจเสมอในเวทีนี้

แต่ปีนี้กลายเป็น Chris Cox หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Meta และหัวหน้าฝ่ายกิจการระดับโลกอย่าง Nick Clegg ซึ่งได้รับเลื่อนตำแหน่งเป็นประธานในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ทำหน้าที่แทนเธอ

Sandberg ในวัย 52 ปี อยู่ในสหรัฐอเมริกาเพื่อร่วมงานค้างคาวมิตซ์วาห์ของลูกสาวเธอ ซึ่งเธอได้กล่าวกับคนใกล้ตัวเธอว่า เธอรู้สึกโล่งใจที่ไม่ต้องไปดาวอส ซึ่งเป็นงานไฮไลท์ของปฏิทินประจำปีของเธอมาหลายปีแล้ว

ตั้งแต่ Facebook ได้เบนเข็มไปโฟกัสในธุรกิจ Metaverse แบบเต็มตัวดูเหมือนว่าบทบาทของ Sandberg จะลดลงไป

วิสัยทัศน์สุดบ้าคลั่งดังกล่าวของ Mark Zuckerberg นั้นเดิมพันด้วยเงินทุนจำนวนมหาศาลของบริษัท และมีโอกาสสูงที่จะใช้เวลาไม่ต่ำกว่าทศวรรษในการทำให้มันเป็นจริง Sandberg เองก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุมกับกลุ่มผู้นำที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของบริษัทใหม่ในหลายๆ ครั้ง

 Mark Zuckerberg นั้นเดิมพันด้วยเงินทุนจำนวนมหาศาลกับ Metaverse (CR:Techgist Africa)
Mark Zuckerberg นั้นเดิมพันด้วยเงินทุนจำนวนมหาศาลกับ Metaverse (CR:Techgist Africa)

ความสัมพันธ์ของเธอกับสมาชิกคณะกรรมการบางคน รวมถึง Zuckerberg เองก็เริ่มมีความตึงเครียดในบางครั้ง ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจลาออก

ต้องเรียกได้ว่า Facebook คงไม่มีวันเดินมาถึงวันนี้ ในการสร้างเครื่องจักรทำเงินจากโฆษณา ซึ่ง Sandberg เป็นหัวเรือหลักในการผลักดันธุรกิจของ Facebook มาถึงจุดนี้

ในปีที่แล้วรายได้จากธุรกิจโฆษณามีสัดส่วนประมาณ 98% ของบริษัทที่มีตอนนี้มีมูลค่ากว่า 118 พันล้านดอลลาร์

Sandberg ได้กล่าวถึง การมีส่วนร่วมในการสร้าง Meta ให้เป็นบริษัทที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกถือเป็นความภาคภูมิใจของเธอ

แต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีนั้น เธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องมากนัก และความฝันใหม่ของ Meta ในการสร้างประสบการณ์เสมือนจริงในโลก Metaverse นั้นยังเพิ่งเริ่มตั้งไข่

แม้ Sandberg เองจะพยายามสนับสนุนแนวคิดดังกล่าวเต็มที่ก็ตาม แต่ก็ไม่มีความชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวพร้อมสำหรับการสร้างรายได้ให้กับ Meta มากน้อยขนาดไหน

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของ Sandberg คงเป็นหลังการเลือกตั้งในปี 2016 ที่บริษัทติดหล่มในข้อกล่าวหาว่าไม่สามารถป้องกันการแทรกแซงการเลือกตั้งของรัสเซียได้ จน Donald Trump สามารถเอาชนะการเลือกตั้งไปได้ในท้ายที่สุด

ซึ่งการโต้เถียงเกี่ยวกับการเลือกตั้งเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคมปี 2018 เมื่อ สำนักข่าวใหญ่อย่าง The Guardian และ The New York Times รายงานว่าบริษัทที่ปรึกษาทางการเมืองอย่าง Cambridge Analytica ได้เข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้ Facebook 50 ล้านคนอย่างไม่ถูกต้อง

ข้อมูลดังกล่าวถูกนำไปใช้เพื่อกำหนดเป้าหมายผู้มีสิทธิเลือกตั้งบน Facebook เพื่อให้พวกเขาสนับสนุน Donald Trump

ผลกระทบจาก Cambridge Analytica

หลังจากากรล่มสลายของ Cambridge Analytica ดูเหมือน Mark Zuckerberg จะโทษไปที่ Sandberg ที่ปล่อยให้เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้น

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่แตกร้าวระหว่าง Mark และ Sandberg และทำให้เธอรู้สึกสั่นคลอนกับสถานะของเธอที่ Facebook

เรื่องอื้อฉาวดังกล่าวส่งผลให้ Sandberg ถูกวอชิงตันเรียกตัวไปเป็นพยานเกี่ยวกับอิทธิพลของต่างชาติในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของอเมริกา

Mark Zuckerberg ให้การเป็นพยานในวุฒิสภาในปี 2018 (CR:Zuma Press)
Mark Zuckerberg ให้การเป็นพยานในวุฒิสภาในปี 2018 (CR:Zuma Press)

ซึ่ง Sandberg เองได้ถูกโจมตีเพิ่มเติมโดยรายงานของ The New York Times ในปี 2018 ที่กล่าวหาว่าเธอดูแลแคมเปญวิ่งเต้นเชิงรุกเพื่อต่อสู้กับผู้ที่มาวิจารณ์ Facebook

Sandberg เองรู้สึกไม่พอใจที่เธอถูกตำหนิสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นในส่วนของธุรกิจที่เธอเองไม่ได้ควบคุมแบบเต็มตัว

หลังจากนั้น อิทธิพลโดยรวมของเธอในบริษัทก็ลดลง ส่วนหนึ่งเนื่องจาก Mark Zuckerberg เองได้ทำการควบรวมอำนาจการดำเนินงานของบริษัทในทุกด้านอย่างเข้มงวดมากยิ่งขึ้น

รวมถึงผลกระทบครั้งใหญ่จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Apple เกี่ยวกับการเก็บรวบรวมและการใช้ข้อมูลเพื่อกำหนดเป้าหมายในการโฆษณา

ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา Meta ได้ประกาศการเติบโตของรายได้ที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัวสู่สาธารณะเมื่อทศวรรษที่แล้ว

ตั้งแต่วันที่ 2 กุมภาพันธ์ มูลค่าของ Meta ลดลง 341 พันล้านดอลลาร์ จากจุดสูงสุดเมื่อวันที่ 7 เมษายน 2021

ก้าวต่อไปของ Sandberg

Sandberg กล่าวว่า เธอตั้งตารอที่จะใช้เวลามากขึ้นในการทำงานกับมูลนิธิของเธอและจะมุ่งเน้นไปที่ประเด็นการกุศลและบทบาทของผู้หญิงต่อไป เธอบอกว่าเธอไม่แน่ใจว่าชีวิตของเธอหลังจากออกจาก Facebook จะเป็นอย่างไร

ข้อมูลจาก Wall Street Journal ได้กล่าว หลังจากที่เธอประกาศลาออกจาก Facebook มีบริษัทยักษ์ใหญ่ติดต่อเธอ เพื่อประเมินความสนใจของเธอในตำแหน่งคณะกรรมการและบทบาทซีอีโอ

ส่วนงานด้านการเมืองนั้น แม้เธอจะเคยเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของ Larry Summeres รัฐมนตรีกระทรวงการคลังในสมัยประธานาธิบดีคลินตันในช่วงปี 1999 ถึง 2001

Sandberg เองก็เคยได้รรับการพิจารณาเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หากฮิลลารี คลินตัน สามารถเอาชนะการเลือกตั้งในปี 2016 ได้สำเร็จ แต่สุดท้าย Donald Trump เป็นฝ่ายได้รับชัยชนะไป

Sandberg เคยได้รรับการพิจารณาเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของคลินตัน (CR:CNBC)
Sandberg เคยได้รรับการพิจารณาเป็นแคนดิเดตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของคลินตัน (CR:CNBC)

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Business Insider ได้วิเคราะห์ไว้ว่า ในตอนนี้ได้ผ่านพ้นเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเริ่มต้นอาชีพทางการเมืองของเธอไปแล้ว และที่สำคัญเธอก็มีแผลจากเรื่อง Cambridge Analytica ที่เป็นเรื่องยากที่จะได้รับการยอมรับจากแวดวงการเมืองของอเมริกานั่นเองครับผม

References :
https://www.businessinsider.com/sheryl-sandberg-steps-down-coo-meta-facebook-future-in-politics-2022-6
https://www.theguardian.com/books/2019/oct/04/shoshana-zuboff-surveillance-capitalism-assault-human-automomy-digital-privacy
https://www.wsj.com/articles/why-sheryl-sandberg-quit-facebook-meta-11654215712