ประวัติ Vladimir Putin ตอนที่ 9 : Kremlin Inc

ต้องบอกว่านับตั้งแต่ Putin ขึ้นครองอำนาจในวาระที่สองของการเป็นประธานาธิบดี เขาก็ได้เปลี่ยนผู้บริหารทั้งในรัฐวิสาหกิจของรัฐ รวมถึงคณะรัฐมนตรีต่าง ๆ ด้วยพันธมิตรของเขาเองจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และ กลุ่ม KGB

หนึ่งในภารกิจสำคัญลำดับแรก ๆ ในวาระที่สองก็คือ การรวบรวมแหล่งผลิตเงินสดและสินทรัพย์ทางการเงินที่มีอยู่ทั้งหมดให้มาดูแลโดยคนวงในของกลุ่ม Siloviki ของเขา

แน่นอนว่ามันคงไม่สามารถทำได้ง่าย ๆ หากทีมงานของตระกูล Yeltsin ยังมีอำนาจอยู่ ไม่ว่าจะเป็น Kasyanov และ Voloshin ซึ่งก่อนหน้านี้ ต้องมีการรับรองจากทีมงานของตระกูล Yeltsin Putin ถึงจะดำเนินการได้

แต่ในวาระที่สอง ทีมงานของ Yeltsin ถูกกำจัดไปทีละคน ๆ และถูกแทนที่ด้วยพันธมิตรของ Putin ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลพื้นที่ทางเศรษฐกิจ ในขณะที่กลุ่ม Siloviki กำลังเข้ายึดระบบศาล บริการภาษีของรัฐบาลกลาง และหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐบาลก่อนหน้านี้ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้

มันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่กลายเป็นที่รู้จักในนาม ‘Kremlin Inc’ โดยเหล่าผู้จงรักภักดีของ Putin ได้เข้ามารับผิดชอบภาคยุทธศาสตร์ของเศรษฐกิจ

กระบวนการนี้มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด เมื่อเขาตั้งพันธมิตร KGB ที่ใกล้ชิดเขาที่สุด ไม่เพียงแต่รับผิดชอบในอุตสาหกรรมพลังงานที่ควบคุมโดยรัฐอย่าง Gazprom และ Rosneft แต่ยังรวมถึงบริษัทของรัฐอีกหลายแห่ง

อย่างแรกเลยก็คือ Aeroflot สายการบินที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นศักดินาของตระกูล Yeltsin ซึ่ง Viktor Ivanov สหาย KGB ของ Putin จากเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ได้เข้ามาดูแลในตำแหน่งประธานเมื่อปลายปี 2004

จากนั้นก็มี Russian Railways ซึ่งเป็นอาณาจักรการขนส่งทางรถไฟอันยิ่งใหญ่ที่มีพนักงาน 1.3 ล้านคน และรายได้รวมเกือบ 2% ของ GDP รัสเซีย ซึ่ง Vladimir Yakunin อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของ KGB ผู้ซึ่งเคยเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Bank Rossiya และเป็นสมาชิกของสหกรณ์ Ozero dacha ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานในเดือนมิถุนายน 2005

Andrei Akimov อดีตนายธนาคารของรัฐโซเวียตที่มีความสัมพันธ์กับหน่วยข่าวกรองต่างประเทศ ถูกส่งตัวกลับจากเวียนนาและได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้ดูแล Gazprombank

ส่วน Andrei Kostin อดีตนักการทูตโซเวียตที่เคยประจำอยู่ที่สถานทูตลอนดอน เข้ารับตำแหน่งที่ Vneshtorgbank หรือ VTB ซึ่งเป็นทายาทสายตรงของของธนาคารการค้าต่างประเทศของสหภาพโซเวียต

Putin ได้แต่งตั้ง Sergei Chemezov เพื่อนร่วมงานที่สนิทที่สุดของเขาที่เดรสเดน เป็นหัวหน้างานส่งออกอาวุธของรัฐ Rosoboronexport ในปี 2004

ผู้คนจาก KGB และนักการเงินของ KGB ได้ออกมาอยู่ในหน้าฉากแบบเต็มตัวแล้วในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในวาระที่สองของ Putin เหล่าผู้มีอำนาจในยุค 1990 ได้กลับมาทวงคืนอำนาจของตนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในเดือนพฤศจิกายน 2005 ประมาณหนึ่งปีนับตั้งแต่การปฏิวัติสีส้มที่ได้ส่งยูเครนออกจากวงโคจรของรัสเซียไปยังอ้อมแขนของตะวันตก Oleh Rybachuk เสนาธิการของประธานาธิบดี Viktor Yushchenko ประธานาธิบดีของยูเครนกำลังมุ่งไปยังมอสโกด้วยความประหม่าเป็นอย่างยิ่ง

Oleh Rybachuk เสนาธิการของประธานาธิบดี Viktor Yushchenko (CR:Bank Union)
Oleh Rybachuk เสนาธิการของประธานาธิบดี Viktor Yushchenko (CR:Bank Union)

จุดประสงค์ของการมาเยือนของเขาคือเพื่อจัดการเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงใหม่ในเรื่องการจัดหาก๊าซจากรัสเซียที่จะส่งไปยูเครน

ต้องบอกว่ายูเครนเองก็พึ่งพารัสเซียสำหรับก๊าซส่วนใหญ่ในประเทศ และสถานการณ์ในตอนนั้นเศรษฐกิจของประเทศก็เริ่มชะลอตัวลงแล้ว

เจ้าหน้าที่ของเครมลินได้เตือนว่าพวกเขาจะมีการขึ้นราคาก๊าซอย่างมีนัยสำคัญ และรัสเซียไม่จำเป็นต้องอุดหนุนเศรษฐกิจของยูเครนอีกต่อไป เพราะ Yushchenko เป็นพวกโปรตะวันตก โดยอ้างว่า ผู้นำของยูเครนได้รับเงินเดือนจากชาวอเมริกันไมว่าจะโดยตรงหรือแอบแฝง

Gazprom ที่เป็นศูนย์กลางของการค้าก๊าซระหว่างอดีตสาธารณรัฐโซเเวียต ที่มีก๊าซสำรองจำนวนมหาศาล และเครือข่ายท่อส่งก๊าซที่กว้างขวางครอบคลุมรัสเซีย ได้กลายเป็นกลไกสำคัญที่มีอิทธิของรัสเซียที่มีต่อเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ

ในขณะที่สาธารณรัฐเอเชียกลางมีก๊าซสำรองของตนเอง แต่ทั้ง จอร์เจีย เบลารุส และยูเครน ต้องพึ่งพา Gazprom และบริษัทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนใหญ่ Gazprom จะให้สิทธิ์ในราคาพิเศษ เช่นเดียวกับตอนที่รัฐเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโซเวียต

ยูเครนมีความโดดเด่นในฐานะที่เป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งที่สำคัญสำหรับก๊าซรัสเซียไปยังยุโรป ซึ่งเป็นความต้องการสูงถึง 25% ของทั้งทวีปยุโรป แต่ในขณะที่ผู้นำคนใหม่เอนเอียงไปทางตะวันตก เคริมลินก็เลิกอุดหนุนเพิ่มเติมเหมือนในอดีตแทบจะทันที

เมื่อ Rybachuk ไปถึงเครมลิน Putin ได้แสดงออกอย่างชัดเจนว่ารัสเซียจะขึ้นราคาก๊าซ และยูเครนต้องยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว มิฉะนั้นจะถูกตัดการส่งก๊าซทันที

แต่ในการประชุมต่อมา Dmitry Medvedev ซึ่งเป็นเสนาธิการของเครมลิน และเป็นประธานคณะกรรมการของ Gazprom ได้เปิดช่องทางสำหรับการประนีประนอม หากยูเครนตกลงที่จะซื้อก๊าซเพิ่มผ่านผู้ค้าบางรายที่เครมลินเลือกแทนที่จะซื้อจาก Gazprom

Medvedev กล่าวว่าข้อตกลงใหม่ รัฐบาลยูเครนจะได้รับเงิน 500 ล้านดอลลาร์ต่อไตรมาสหรือ 2 พันล้านดอลลาร์ต่อปี ในขณะที่รับประกันราคาก๊าซที่มีราคาถูกอย่างต่อเนื่อง

‘เขาบอกผมว่านี่คือส่วนแบ่งที่จะเป็นของเรา (รัฐบาลยูเครน)’ Rybachuk กล่าว

Rybachuk แทบไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยิน สิ่งที่เขาได้รับฟังดูเหมือนเป็นแผนสำหรับการจ่ายใต้โต๊ะ มันเป็นข้อตกลงที่จะทำการคอร์รัปชั่นต่อรัฐบาล ซึ่ง Medvedev และเครมลินยืนกรานว่าพ่อค้าคนกลางชื่อ Rosukrenergo และความเป็นเจ้าของจะถูกปกปิดเป็นความลับ

สิ่งที่ Medvedev กำลังอธิบายคือรูปแบบล่าสุดของแผนงานใต้ดินที่ดำเนินการโดยเครมลินเพื่อแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่างรัสเซีย , ยูเครน และ เติร์กเมนิสถาน ก๊าซราคาถูกจำนวนมากจากเติร์กเมนิสถานสามารถส่งผ่านเครือข่ายท่อส่งก๊าซของรัสเซียและผสมกับก๊าซของรัสเซียแล้วส่งไปยังยูเครน

นั่นทำให้ราคาโดยรวมต่ำลง แม้ว่ารัสเซียจะขึ้นราคาแล้วก็ตามที แทนที่จะซื้อขายก๊าซโดยตรงผ่าน Gazprom ที่มีการกำหนดราคาที่โปร่งใส จะถูกขายผ่านตัวกลาง เปิดทางให้ผลกำไรหลายพันล้านดอลาร์ถูกดูดออกไป และอาจจะส่งเป็นเงินใต้โต๊ะ

Rosukrenergo เปรียบเสมือนกองทุนโคลนหรือ Kremlin Inc ที่สามารถนำไปใช้เป็นเครื่องมือที่มีอิทธิพลทางการเมืองเพื่อซื้อและทุจริตกับเจ้าหน้าที่ เพื่อบ่อนทำลายประชาธิปไตยในรัฐเพื่อนบ้านของรัสเซีย และเป็นศูนย์กลางของระบอบ KGB ของ Putin

เมื่อ Rybachuk เดินทางกลับไปยังเคียฟโดยคาดหวังให้ Yushchenko ปฏิเสธโครงการดังกล่าว ซึ่งสัญญาการจัดหาก๊าซธรรมชาติของยูเครนกับรัสเซีย ซึ่งกำหนดราคาไว้ที่ระดับต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ต่อพันลูกบาศก์เมตร จะมีผลบังคับใช้จนถึงเพียงแค่ปี 2009

เมื่อ Rybachuk กลับมา เขาได้ขอให้ Yushchenko ถามพันธมิตรตะวันตกของยูเครน ทั้งกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และ กระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี ว่าจะสามารถหาก๊าซทดแทนมาให้ยูเครนได้หรือไม่หากรัสเซียตัดการส่งก๊าซ

ภายในสองสัปดาห์ Rybachuk และครอบครัวของเขาเดินทางไปพักผ่อนช่วงวันหยุดปีใหม่ที่สโลวีเนีย โดยเชื่อว่า Yushchenko ไม่มีทางยอมแพ้ต่อแรงกดดันของรัสเซีย เขาคิดว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่รัสเซียจะใช้มาตรการรุนแรงเช่น การตัดการจ่ายก๊าซ

แต่เมื่อเขาเปิดโทรทัศน์ในวันปีใหม่ พาดหัวข่าวของ CNN พบว่าวิกฤติได้เกิดขึ้นแล้ว รัสเซียปิดการจ่ายก๊าซให้ยูเครน และเนื่องจากยูเครนเป็นเส้นทางหลักที่สำคัญสำหรับก๊าซของรัสเซีย มันจะส่งผลไปทั่วยุโรปอย่างชัดเจน

ฤดูหนาวในปีนั้นหนาวผิดปรกติ และผู้นำชาวตะวันตกต่างตกตะลึง ในวันเดียวกันนั้นเอง ที่รัสเซียเข้ารับตำแหน่งประธานของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม G8 ซึ่งควรจะเป็นการประกาศความก้าวหน้าครั้งใหญ่สำหรับการรวมประเทศเข้ากับเศรษฐกิจโลก

การปิดก๊าซในวันนั้นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนมาก ๆ ว่ารัสเซียทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองอย่างไร มันเป็นการบ่อนทำลายระบบโลกเพื่อให้เหมาะกับตัวเองมากกว่าที่จะปรับให้เข้ากับกฎของตะวันตก

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า การปิดการจ่ายก๊าซดังกล่าว ทำให้เกิดคำถามร้ายแรงเกี่ยวกับการใช้เรื่องของพลังงานเพื่อมากดดันหวังผลทางการเมือง

Rybachuk ยังคาดหวังให้ตะวันตกมาสนับสนุน เขารู้ว่ารัสเซียไม่สามารถปิดก๊าซได้นานกว่าสามวัน ไม่เช่นนั้น เครือข่ายท่อส่งน้ำมันจะเสียหาย

เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ก๊าซก็ถูกเปิดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง Yushchenko ได้ตกลงกับข้อตกลงที่ Medvedev  สร้างเงื่อนไขที่น่าประหลาดใจ แทนที่จะสูญเสียส่วนแบ่งของตลาดที่มีอยู่แล้ว Rosukrenergo จะได้รับการผูกขาดแทน Gazprom ในการจัดหาก๊าซทั้งหมดไปยังยูเครนแทน

Dmitry Medvedev (ซ้าย) ซึ่งเป็นเสนาธิการของเครมลิน และเป็นประธานคณะกรรมการของ Gazprom (CR:Wikimedia)
Dmitry Medvedev (ซ้าย) ซึ่งเป็นเสนาธิการของเครมลิน และเป็นประธานคณะกรรมการของ Gazprom (CR:Wikimedia)

มันกลายเป็น Model ใหม่ที่ทางเครมลินเสนอให้กับยูเครน โดยก๊าซของรัสเซียจะถูกรวมเข้ากับก๊าซที่มาจากเอเชียกลางที่ถูกกว่า ทำให้ยูเครนจ่ายเพียงแค่ 95 ดอลลาร์ต่อพันลูกบาศก์เมตรโดยรวม

แต่สำหรับ Rybachuk มันชัดเจนว่ามันมีกลิ่นตุ ๆ ของเรื่องการทุจริตเกิดขึ้น ต้องบอกว่าแม้ยูเครนผ่านการปฏิวัติสีส้มมาแล้ว แต่ดูเหมือนหลายๆ อย่างมันจะไม่เปลี่ยนไปเลย ทั้งที่การปฏิวัติดังกล่าวต้องการทำให้ยูเครนมีความโปร่งใสมากขึ้น ใช้เศรษฐกิจแบบตะวันตก แต่สุดท้ายมันก็ซ้ำรอยเดิมจากผลประโยชน์ที่เกิดขึ้น

Rybachuk กล่าวว่า เขาจะไม่มีวันลืมคำพูดที่เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเครนกล่าวกับเขาเมื่อเขากลับมาที่เคียฟ “ยินดีต้อนรับสู่สโมสรทุจริต”

ต้องบอกว่าข้อตกลงดังกล่าวทำให้รัฐบาลยูเครนอยู่ในความโกลาหล ทำให้เกิดความแตกแยกขึ้นระหว่าง Yushchenko และนายกรัฐมนตรี Yulia Tymoshenko ที่มาจากคณะปฏิวัติสีส้ม ซึ่งต่อต้าน Rosukrenergo เพราะมันเป็นองค์กรที่เป็นตัวแทนของ Kremlin Inc

นับตั้งแต่ช่วงเวลาของการลงนามในข้อตกลงดังกล่าว พันธมิตรที่สนับสนุนตะวันตกของยูเครนก็เริ่มแตกแยกมากขึ้นเรื่อย ๆ และประเทศก็ตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายทางการเมือง เมื่อรัฐสภาลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลและการเลือกตั้งครั้งใหม่ก็เกิดขึ้นในเดือนมีนาคม 2006

Viktor Yanukovych ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่สนับสนุนรัสเซีย อดีตนายกรัฐมนตรีที่ถูกโค่นอำนาจโดยการปฏิวัติสีส้ม กลับมาอยู่ในเส้นทางที่รุ่งเรืองอีกครั้ง

Yushchenko ถูกบ่อนทำลาย โดยข้อกล่าวหาในเรื่องข้อตกลงก๊าซกับ Rosukrenergo ที่ส่อแววว่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น นั่นทำให้ Yanukovych ได้กลับมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

ความฝันของปฏิวัติสีส้มของยูเครนในการสร้างความสัมพันธ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดตะวันตก ดูเหมือนจะจบลงแล้ว มันเป็นเวลาเพียงแค่หนึ่งปีหลังจากเริ่มขึ้นเท่านั้น

ต้องบอกว่าการดำเนินการต่าง ๆ ผ่าน Kremlin Inc นั้น เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความพยายามของ Putin ในการฟื้นฟูอิทธิพลทั่วโลกของรัสเซีย

ในรัสเซียเอง การเปลี่ยนแปลงดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยกลุ่ม KGB ของ Putin ที่เข้าครอบครองพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น

เมื่อสิ้นสุดวาระที่สองของ Putin ในตำแหน่งประธานาธิบดี เศรษฐกิจของรัสเซียมีความคล้ายคลึงกับระบบศักดินามากขึ้น

การจัดการด้านกฎหมายกับ Khodorkovsky ทำให้เหล่าผู้ประกอบการที่เหลืออยู่ในยุค Yeltsin เริ่มสาบานตนเข้าสู่ระบอบการปกครองของ Putin ทีละคน ๆ

Gusinsky และ Berezovsky มหาเศรษฐีด้านสื่อที่ทำตัวออกนอกลู่นอกทางถูกเนรเทศ ทรัพย์สินของพวกเขาถูกเข้ายึดโดยรัฐ

การรวมทรัพย์สินกำลังเกิดขึ้นทั่วไปในทุก ๆ อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคโลหะเชิงกลยุทธ์ และผู้นำหน้าใหม่ที่ปรากฎออกมาทั้งหมดก็น้อมรับอำนาจอยู่แทบเท้าของเครมลินแทบจะทั้งหมด

และกลายเป็น Roman Abramovich มหาเศรษฐีค้าน้ำมันที่ได้เข้ามายึดครองอาณาจักรธุรกิจของ Berezovsky เขาเป็นนายหน้าที่มีอำนาจและเป็นเจ้าของกระเป๋าเงินของตระกูล Yeltsin มาอย่างยาวนาน ผู้ซึ่งแสดงความจงรักภักดี ซื่อสัตย์ และเปิดเผยมากที่สุด และตอนนี้เขากำลังจะบุกไปที่ลอนดอน หนึ่งในใจกลางของเมืองหลวงอันยิ่งใหญ่ของกลุ่มโลกตะวันตก เพื่อทำภารกิจบางอย่าง

-> อ่านตอนที่ 10 : Londongrad

ย้อนไปอ่านตั้งแต่ตอนแรก & Credit แหล่งข้อมูลบทความ