ประวัติ Vladimir Putin ตอนที่ 4 : Submariner, Soldier, Trader and Spy

หมู่เกาะต่าง ๆ เป็นที่ตั้งของท่าเรือในเมืองเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก และประวัติศาสตร์อันวุ่นวายของรัสเซียผ่านช่องทางต่างเหล่านี้เกิดขึ้นมาโดยตลอด ตั้งแต่ปีเตอร์มหาราชก่อตั้งเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 18

พระองค์ทรงทำเช่นนั้นด้วยความหวังว่าจะเป็นท่าเรือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญระหว่างแผ่นดินยูเรเชียนของประเทศอันกว้างใหญ่กับตลาดตะวันตก

เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กจึงถูกทำให้กลายเป็นหน้าต่างทางทิศตะวันตกของรัสเซียเสมอมา ซึ่งเป็นเมืองท่าที่ยกระดับประเทศจากยุคกลาง ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม

เมื่อระบอบคอมมิวนิสต์ของรัสเซียล่มสลาย ท่าเรือเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กก็กลับมามีบทบาทที่สำคัญอีกครั้ง มันกลายเป็นศูนย์กลางของพันธมิตรระหว่าง KGB และกลุ่มอาชญากรที่จะขยายอิทธิพลไปทั่วรัสเซีย

มันเป็นจุดเริ่มต้นของพันธมิตรทางธุรกิจของรองนายกเทศมนตรี Vladimir Putin ซึ่งทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้นำกลุ่มอาชญากรที่ควบคุมเมืองอยู่ รวมถึงผู้ค้าน้ำมันที่ถูกผูกขาดในการส่งออกผ่านคลังน้ำมัน ความสัมพันธ์ที่หลอมรวมเข้าด้วยกันของข้อตกลงการแลกเปลี่ยนและการส่งออก กลายเป็นต้นแบบที่สำคัญสำหรับการบริหารรัสเซียของ Putin

กลุ่ม KGB ได้เข้ามายึดครองเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กในทศวรรษที่ 1990 โดยมี Putin เป็นศูนย์กลางของกลุ่ม แม้ในมอสโก KGB จะอยู่ในเงามืดเป็นส่วนใหญ่ แต่ในเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กพวกเขาจะปรากฎกายชัดเจนมากยิ่งขึ้น

แม้เศรษฐกิจของเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กจะเล็กกว่ามอสโกมาก แต่สำนักงานของนายกเทศมนตรีก็ควบคุมธุรกิจส่วนใหญ่ของเมือง และที่สำคัญนายกเทศมนตรี Anatoly Sobchak ไม่ค่อยสนใจในการดำเนินงานประจำวันของเมือง เขาปล่อยให้ Putin เป็นผู้บริหารคณะกรรมการความสัมพันธ์ต่างประเทศ ซึ่งดูแลการค้าทั้งหมดและธุรกิจส่วนใหญ่ของเมือง

สิ่งที่เกิดขึ้นจากความโกลาหลหลังการล่มสลาย และความไร้ประสิทธิภาพของ Sobchak มันได้สร้างพันธมิตรใหม่ระหว่าง Putin และ KGB ของเขารวมถึงกลุ่มอาชญกรที่พยายามบริหารเศรษฐกิจของเมืองส่วนใหญ่เพื่อประโยชน์ของตนเอง

ซึ่งแทนที่จะพยายามกำหนดกฎระเบียบเพื่อประโยชน์ของประชาชนที่กำลังลำบากในเมือง ระเบียบที่เกิดขึ้นที่พวกเขากำหนดส่วนใหญ่ก็ทำเพื่อพวกพ้องของเขาเองแทบจะทั้งสิ้น

การล่มสลายหมายถึงโอกาสใหม่ ๆ ของเครือข่ายเหล่านี้ สำหรับการสร้างกองทุนเชิงกลยุทธ์ที่จะรักษาเครือข่ายของพวกเขาและรักษาตำแหน่งของพวกเขาในอนาคต

โดยกองทุนเหล่านี้มีรากฐานมาจากแผนการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ของบริษัทที่เป็นมิตรกับ KGB ต่อมาก็ขยายไปถึงท่าเทียบเรือ รวมถึงคลังน้ำมัน ทุกอย่างดำเนินการผ่านเครือข่ายนี้ และที่สำคัญมันคือธุรกิจที่ทำรายได้มหาศาลอีกด้วย

ต้องบอกว่าเหล่า KGB ที่เข้ายึดครองเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก และ Putin มีความเข้าใจในตลาดเชิงพาณิชย์มากกว่ารุ่นก่อน ๆ เป็นอย่างมาก

Putin ยอมรับหลักการของระบบทุนนิยมอย่างรวดเร็วและแทบจะลืมความเชื่อเดิม ๆ ของพรรคคอมมิวนิสต์ไปทันที

พันธมิตรของ Putin เริ่มย้ายมาควบคุมท่าเรือ ซึ่งทั้งคลังน้ำมันและกองเรือถือเป็นส่วนหนึ่งของรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อกองเรือเลนินกราดบอลติก หรือ BMP ซึ่งสำหรับ KGB แล้วนั้น BMP เป็นทรัพย์สินทางยุทธศาสตร์มาช้านาน

ในสมัยโซเวียต KGB ได้ควบคุมเรือเดินสมุทรในฐานะผู้ช่วยทางการค้า พวกเขารู้ดีถึงเส้นทางการค้า สินค้า ของเถื่อน และการไหลเวียนของเงิน

ในยุครุ่งเรือง เรือหลายร้อยลำได้ออกเดินทางจากเมืองแห่งนี้ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ทั้ง น้ำมัน โลหะ และเมล็ดพันธุ์พืช ในขณะที่ฝั่งขาเข้า เรือที่เดินทางไกลที่สุดจากอเมริกาใต้ มีการบรรทุกผลไม้ น้ำตาล และสินค้าลักลอบน้ำเข้า ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานใต้ดิน

ในสมัยนั้น BMP เป็นตัวแทนของกระแสเงินสดเชิงกลยุทธ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมือง แม้กระทั่งในปี 1991 ซึ่งเป็นปีแห่งการล่มสลายของสหภาพโซเวียต กำไรสุทธิของ BMP ก็อยู่ที่หลายร้อยล้านดอลลาร์

BMP ไม่เพียงแต่เป็นเจ้าของเรือโดยสารและสินค้าเกือบสองร้อยลำเท่านั้น แต่ยังควบคุมท่าเรือน้ำในเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กทั้งหมด รวมทั้งคลังน้ำมัน เช่นเดียวกับท่าเรือใกล้เคียงในวีบอร์กและคาลินินกราด ซึ่งได้กลายเป็นกุญแจสู่ความมั่งคั่งของเมือง

ต้องบอกว่าในเวลานั้น Tambov กำลังกลายเป็นกลุ่มอาชญกรที่มีอำนาจที่สุดของเมือง Vladimir Kumarin ผู้นำของกลุ่ม Tambov เคยรับโทษจำคุกในปี 1991 หลังจากการสู้รบที่รุนแรงกับกลุ่มมาเฟียอีกกลุ่มหนึ่งของเมือง

หลังจากที่เขาออกมาจากคุกด้วยความช่วยเหลือของ Putin กองกำลังของ Tambov ก็เริ่มเข้าควบคุมธุรกิจเชื้อเพลิงและพลังงานทั้งหมดของเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก

Vladimir Kumarin ผู้นำของกลุ่ม Tambov  (CR:eng.agromassidayu.com)
Vladimir Kumarin ผู้นำของกลุ่ม Tambov (CR:eng.agromassidayu.com)

การต่อสู้กับแก๊งคู่แข่งยังดำเนินต่อไป ในปี 1994 Kumarin สูญเสียแขนข้างหนึ่งจากการถูกโจมตีด้วยระเบิด เขาได้ก่อตั้งบริษัทด้านพลังงานเชื้อเพลิงแห่งเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก หรือ PTK ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นผู้ผูกขาดการค้าขายน้ำมันของเมือง

ดูเหมือนว่า Putin จะเป็นศูนย์กลางของแผนปฏิบัติการเหล่านี้ เป็นผู้ให้การสนับสนุนด้านลอจิสติกส์จากสำนักงานของนายกเทศมนตรี และเป็นผู้ออกใบอนุญาตให้กลุ่ม Tambov เข้ามาควบคุมท่าเรือและคลังน้ำมัน รวมถึงให้สัญญาพิเศษแก่ PTK ของ Kumarin ในการจัดหาเชื้อเพลิงสำหรับ รถพยาบาล รถประจำทาง รถแท็กซี่ และรถตำรวจของเมือง

อีกคนที่มีบทบาทมาก ๆ ก็คือ Gennady Timchenko อดีตเจ้าหน้าที่ KGB ที่รู้จักกับ Putin ตั้งแต่สมัยเรียนสายลับด้วยกันที่ Red Banner Academy

การควบคุมการส่งออกผ่านท่าเทียบเรือเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กมีความสำคัญมากจน Timchenko หันไปขอความช่วยเหลือจาก Putin ในเดือนมกราคม 1992 โดยพวกเขาได้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับคณะกรรมการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของ Putin ในชื่อ ‘Golden Gates’

ต้องบอกว่าฝ่ายบริหารของเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กที่เป็นพันธมิตรกับกลุ่ม Tambov ได้ฝังตัวอยู่ลึกเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐานของเมืองด้วยความช่วยเหลือจากคนของ Putin ในศาลากลาง

กลุ่มอาชญากรที่รวมตัวกันเป็นทีมงานที่ Putin ต้องการเพื่อช่วยเหลือในการควบคุมมวลชน ไม่ว่าคนที่อยู่บนท้องถนน หรือ คนที่อยู่ในเรือนจำก็ตามที มันเป็นวิธีปฏิบัติทั่วไปของ KGB ที่ Putin เคยทำมาตั้งแต่อยู่ในเยอรมันตะวันออก นั่นคือการทำงานกับผู้คน

ด้วยความยุ่งเหยิงของความสัมพันธ์เหล่านี้ นำไปสู่โครงสร้างที่จัดตั้งขึ้นสำหรับ เศรษฐกิจในเงามืดของพรรคคอมมิวนิสต์ในวันสุดท้ายของการปกครอง

Bank Rossiya ซึ่งเป็นธนาคารขนาดเล็กในเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวกลางที่สำคัญในข้อตกลงการแลกเปลี่ยนน้ำมันสำหรับอาหาร เช่นเดียวกับสถาบันและบริษัทหลายแห่งที่พรรคตั้งขึ้นในยุคที่ระบอบการปกครองกำลังจะล่มสลาย

เมื่อสหภาพโซเวียตล่มสลายลง การควบคุมของธนาคาร Rossiya ได้ส่งผ่านไปยังตัวแทนของ KGB อย่างเงียบ ๆ ผู้ถือหุ้นรายใหม่ของบริษัทประกอบด้วยเจ้าหน้าที่อาวุโสของ KGB และนักฟิสิกส์ที่มี connection กับ KGB ซึ่งคนเหล่านี้เชี่ยวชาญด้านโลหะหายาก วัสดุที่หายากมาก ซึ่งการค้าขายในสิ่งเหล่านี้ต้องได้รับการจัดการโดยสมาชิกของ KGB เท่านั้น

Vladimir Yakunin เจ้าหน้าที่อาวุโสของ KGB กลับมาที่เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กในเดือนกุมภาพันธ์ 1991 เขาย้ายมาจากการเป็นสายลับที่องค์กรสหประชาชาติในนิวยอร์ก

Yakunin ได้เข้ามาร่วมงานที่สถาบันเทคโนโลยีและฟิสิกส์ Ioffe อันทรงเกียรติของเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งเขาเคยทำงานดูแลงานระหว่างประเทศของสถาบันก่อนที่จะถูกส่งไปนิวยอร์ก

ในกลุ่มของพวกเขาคือ Yury Kovalchuk ซึ่งเป็นนักฟิสิกส์ชั้นนำในสมัยนั้น ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Andrei Fursenko ซึ่งทั้งคู่เป็นรองผู้อำนวยการของสถาบัน Ioffe ในด้านเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งจะนำไปใช้ในระบบเลเซอร์และดาวเทียม

มันเป็นสาขาที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษจาก KGB ความเชี่ยวชาญของพวกเขาทำให้ได้รับข้อตกลงจากนายพลอาวุโสของ KGB ซึ่งหนึ่งในกิจการร่วมค้าที่พวกเขาสร้างขึ้นสามารถทำกำไรได้สูงถึง 24 ล้านรูเบิล ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มหาศาลในยุคนั้น และช่วยผลักดันให้พวกเขาเข้ามาดูแล Bank Rossiya

ตั้งแต่ต้น Bank Rossiya มีส่วนเกี่ยวข้องกับคณะกรรมการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ดำเนินการโดย Putin สำนักงานอยู่ในสถาบัน Smolny ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นสำนักงานใหญ่ของนายกเทศมนตรี

และที่แห่งนี้เริ่มมีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในการสร้างกระแสเงินสดให้กับ Putin การร่วมทุนทั้งหมดได้รับการจัดตั้งขึ้นตามการอนุมัติของคณะกรรมการของ Putin และส่วนใหญ่ถูกสั่งให้เปิดบัญชีกับ Bank Rossiya

มีเงินหลายล้านดอลลาร์ถูกดูดออกจากงบประมาณของเมืองผ่านบัญชีของ Bank Rossiya ไปยังเครือข่ายของบริษัทที่เชื่อมโยงกับ Putin เงินสดถูกส่งผ่านกองทุนที่เรียกว่า Twentieth Trust เรียกได้ว่าตอนนั้นทั้ง Putin และ KGB ได้ควบคุมเศรษฐกิจของทั้งเมืองไว้ในกำมือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Bank Rossiya หนึ่งในสถาบันทางการเงินที่สำคัญของเครือข่าย Putin (CR:TASS)
Bank Rossiya หนึ่งในสถาบันทางการเงินที่สำคัญของเครือข่าย Putin (CR:TASS)

Putin มักจะเลือกไปพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์ บนชายฝั่งของทะเลสาป Komsomolskoye ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องการตกปลาที่ยอดเยี่ยม ก่อนที่ Putin จะย้ายเข้าไป ถนนเส้นดังกล่าวเคยเป็นถนนลูกรังมาก่อน แต่ไม่นานหลังจากนั้นมันก็ถูกปูด้วยยางมะตอยและติดตั้งไฟฟ้าอย่างดี

ชาวบ้านแถวนั้นถูกบีบบังคับให้ย้ายออกไปทีละคน Putin ได้พาพันธมิตรของเขามาสร้างกระท่อมสไตล์ฟินแลนด์อันโอ่อ่าบนผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ริมทะเลสาบแห่งนี้

พวกเขาก่อตั้งกลุ่มที่กลายเป็นที่รู้จักกันในนามสหกรณ์ Ozero dacha และเปลี่ยนพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวที่มีรั้วลวดหนามสูงใหญ่กั้นไม่ให้คนภายนอกเข้ามา

ซึ่งทั้ง Yakunin , Fursenko และ Kovalchuk คนเหล่านี้ที่ใกล้ชิด Putin ก็ได้ย้ายเข้ามา ซึ่งกลุ่มพันธมิตรจาก Ozero dacha นี่เองที่ในตอนหลังที่ Putin ขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี ได้กลายเป็นกลุ่มก้อนที่สำคัญในการควบคุมเศรษฐกิจของประเทศ โดยมี Bank Rossiya เป็นแกนหลักของอาณาจักรการเงินที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มนี้

ในฤดูร้อนปี 1996 Anatoly Sobchak ได้พ่ายแพ้การเลือกตั้งครั้งใหม่ในฐานะนายกเทศมนตรีของเซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก Putin ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมงานหาเสียงของ Sobchak ต้องมีส่วนรับผิดชอบ

มีเสียงกระซิบกระจายไปทั่วว่าความพ่ายแพ้ของ Sobchak นั้นมาจากประธานาธิบดี Boris Yeltsin ผู้ซึ่งต้องการให้เขาออกไป เพราะความมีสเน่ห์ของ Sobchak นั้นสามารถท้าทายอำนาจของ Yeltsin ในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีใหม่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าได้

Putin ตกงานแทบจะไม่ถึงเดือน ก่อนที่เขาจะถูกเชิญไปที่มอสโก เพื่อรับตำแหน่งในฐานะหัวหน้าฝ่ายบริหารเครมลิน

แม้ว่าการแต่งตั้งของ Putin จะถูกขัดขวางโดย Anatoly Chubais รองนายกรัฐมนตรีคู่ใจของ Yeltsin แต่กลายเป็นว่า Putin ได้ถูกขอให้เป็นหัวหน้าแผนกทรัพย์สินต่างประเทศในตำนานของเครมลินแทน

เรียกได้ว่ามันเป็นการเลื่อนตำแหน่งที่ทรงเกียรติอย่างแท้จริง เพราะได้ดูแลทรัพย์สินในต่างประเทศจำนวนมหาศาลของสหภาพโซเวียตหลังจากการล่มสลาย

ไม่ว่าจะเป็นกิจการร่วมค้า เครือข่ายฐานทัพอาวุธและสถานที่ปฏิบัติงานนอกชายฝั่งอื่น ๆ ที่เป็นความลับ แม้ว่ามันจะเป็นอาณาจักรที่หลายสิ่งหลายอย่างได้สูญหายไปแล้ว แต่มันก็เป็นแกนกลางเชิงกลยุทธ์ของความมั่งคั่งของประเทศ

และเพียงหนึ่งปีต่อมา เขาได้รับเลื่อนตำแหน่งให้เป็นรองเสนาธิการคนแรกของเครมลินที่ได้ดูแลภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นบทบาทที่ทรงพลังที่สุดเป็นอันดับสามในเครมลินรองจากประธานาธิบดี

หลังผ่านไปอีกสามเดือนเขาก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้า FSB ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สืบทอดจาก KGB สำหรับทั่วทั้งรัสเซีย ตอนนั้นเขาเป็นเพียงแค่ผู้พันเท่านั้น และแทบจะไม่มีใครเคยได้รับตำแหน่งนี้ทั้งที่ยังไม่ขึ้นเป็นนายพล นั่นทำให้เหล่านายพลใน FSB ต่างตกตะลึง

ซึ่งหลังจากขึ้นครองตำแหน่งสูงสุดของ FSB Putin ก็ได้ใช้อำนาจของเขาในการจัดการศัตรูเก่าที่เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก ทั้งนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชน ที่ชอบออกมาต่อต้านเรื่องการทุจริจในเมือง หรือ อดีตคู่แค้นทางการเมืองของ Putin

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับการผงาดของ Putin เป็นลางไม่ดีเลย ประเทศก็กำลังเผชิญกับวิกฤติทางการเงินครั้งใหม่ และไม่มีใครสังเกตเห็นสัญญาณเตือนที่ปรากฎขึ้น สุขภาพของ Yeltsin ก็กำลังย่ำแย่ ประเทศกำลังจะถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ

ไม่นานหลังจากความผิดพลาดทางการเงินที่ทำลายเศรษฐกิจรัสเซียในเดือนสิงหาคม 1998 เจ้าหน้าที่ KGB กลุ่มเล็ก ๆ และชาวอเมริกันคนหนึ่งมารวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารค่ำแบบส่วนตัว

ในหมู่พวกเขามีอดีตหัวหน้า KGB อย่าง Vladimir Kryuchkov , Robert Engineer อดีตหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของโมนาโกผู้ซึ่งขลุกอยู่ในฐานะผู้แจ้งข่าวของ FBI และ Igor Prelin ผู้ช่วยของ Kryuchkov

Prelin บอกกับแขกคนอื่นๆ ว่าในไม่ช้า KGB จะกลับสู่อำนาจ โดยเขาได้กล่าวว่า

“เรารู้จักใครบางคน คุณไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเขา เราจะไม่บอกคุณว่าเป็นใคร แต่เขาเป็นหนึ่งในพวกเรา และเมื่อเขาเป็นประธานาธิบดี พวกเรา (กลุ่ม KGB) จะกลับมาเรืองอำนาจอีกครั้ง”

–> อ่านตอนที่ 5 : The Art of War

ย้อนไปอ่านตั้งแต่ตอนแรก & Credit แหล่งข้อมูลบทความ