Darkside of Metaverse เมื่อนักประดิษฐ์ Augmented Reality เตือนว่ามันอาจจะเลวร้ายยิ่งกว่าโซเชียลมีเดีย

ต้องบอกว่าแก่นที่แท้จริงของเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) และ Metaverse คือเทคโนโลยีสื่อที่มุ่งนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบที่เป็นธรรมชาติที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยการผสานรวมภาพ เสียง และความรู้สึกที่จำลองขึ้นอย่างไร้รอยต่อเข้ากับการรับรู้ของเราเกี่ยวกับโลกแห่งความเป็นจริงรอบตัวเรา

นั่นหมายความว่า AR มีศักยภาพมากกว่าสื่อรูปแบบใดๆ ในปัจจุบันที่จะเปลี่ยนความรู้สึกของความเป็นจริง บิดเบือนวิธีที่เราตีความประสบการณ์ตรงในแต่ละวันของเรา ในโลกเสมือนแห่งใหม่นี้

เพียงแค่เดินไปตามถนนจะกลายเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างกายภาพและโลกเสมือน ผสานเข้าด้วยกันอย่างน่าเชื่อจนเส้นแบ่งระหว่างโรคจริงและโรคเสมือนจะหายไปในจิตใจของเรา รอบๆ ตัวของเราจะเต็มไปด้วยบุคคล สถานที่ สิ่งของ และกิจกรรมที่ไม่มีอยู่จริง แต่สิ่งเหล่านี้กลับดูเหมือนเป็นของจริงสำหรับเรา

Louis Rosenberg นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และผู้พัฒนาระบบ AR ที่ใช้งานได้ครั้งแรกที่ห้องปฏิบัติการวิจัยกองทัพอากาศ ได้เขียนบทความซึ่งเตือนเรื่องเทคโนโลยี Metaverse — โลก VR และ AR ที่ดื่มด่ำกำลังได้รับการพัฒนาโดยบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Facebook และมองว่าพวกเขาสามารถสร้างสิ่งที่ดูเหมือน Cyberpunk dystopia ในชีวิตจริงได้  

อร์และผู้พัฒนาระบบ AR ออกมาเตือนเรื่อง Metaverse (CR:Vocal.media)
อร์และผู้พัฒนาระบบ AR ออกมาเตือนเรื่อง Metaverse (CR:Vocal.media)

“ผมกังวลเกี่ยวกับการใช้ AR อย่างถูกกฎหมายโดยผู้ให้บริการแพลตฟอร์มที่ทรงพลังซึ่งจะควบคุมโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด” Rosenberg กล่าว

ลองนึกภาพว่าคุณทำงานอยู่เบื้องหลังเคาน์เตอร์ขายปลีก AR จะเปลี่ยนวิธีการสร้างลูกค้าใหม่ของคุณ นั่นเป็นเพราะว่าข้อมูลส่วนตัวจะลอยอยู่รอบตัวพวกเขา แสดงให้เห็นรสนิยมและความสนใจของพวกเขา พฤติกรรมการใช้จ่าย ประเภทของรถที่พวกเขาขับ ขนาดบ้านของพวกเขา แม้แต่รายได้รวมต่อปีของพวกเขา 

คงจะเป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงเมื่อหลายสิบปีก่อนที่จะจินตนาการว่าองค์กรต่างๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้ แต่ทุกวันนี้ เรายอมรับว่ามันเป็นราคาของการเป็นผู้บริโภคในโลกดิจิทัลไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

และด้วยเทคโนโลยี AR ข้อมูลส่วนบุคคลจะติดตามเราทุกที่ เปิดเผยพฤติกรรมของเราและลดความเป็นส่วนตัวของเรา สิ่งนี้จะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นหรือไม่? ผมไม่คิดอย่างนั้น แต่นี่คือที่ที่เรากำลังมุ่งหน้าไปในโลกของ Metaverse 

Metaverse สามารถทำให้ความเป็นจริงหายไปได้

เขายังกังวลด้วยว่า Metaverse “จะทำให้ความเป็นจริงหายไป” โดยการสร้างระบบที่ผู้คนไม่อยากก้าวออกจากอุปกรณ์ของพวกเขาเพื่อโต้ตอบในโลกแห่งความเป็นจริง บางคนอาจจะมีสภาพสังคม สภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้ายในชีวิตจริง แต่ในโลกเสมือนมันคืออีกโลกหนึ่งของเขาที่เขาไม่อยากเดินจากมา

แนวคิดก็คือว่า Metaverse สามารถเติบโตจนถึงจุดที่มันส่งผลกระทบโดยพื้นฐานในทุกด้านของชีวิตเรา และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนส่วนใหญ่จะหนีออกจากชีวิตเสมือนเหล่านั้น นั่นหมายความว่าเราทุกคนต้องเผชิญหน้ากับความหลอกลวงที่บุคคลที่สามอาจต้องการแสดงให้เราเห็น เนื่องจากมี AR ซ้อนทับอยู่เหนือทุกสิ่งนั่นเอง

บทสรุป

แน่นอนว่าทุก ๆ เทคโนโลยีมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียของมัน Metaverse และ เทคโนโลยี AR สามารถเป็นพลังที่ดี ทำให้โลกเป็นสถานที่มหัศจรรย์และขยายความหมายของการเป็นมนุษย์ของเราได้ในอนาคต 

แต่เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น ก็ต้องมีดำเนินการอย่างรอบคอบ คาดการณ์ปัญหาที่อาจจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของมนุษย์เราเหมือนกับที่เคยเกิดปัญหากับเครือข่ายโซเชียลมีเดียซึ่งมันควรที่จะเป็นเทคโนโลยีที่ยกระดับชีวิตมนุษย์ของเรา 

ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้เราได้เรียนรู้ความเลวร้ายที่คาดไม่ถึงของโซเชียลมีเดีย ซึ่งความตั้งใจที่ดีนั้นมันคงไม่เพียงพอต่อการป้องกันไม่ให้ระบบถูกนำไปใช้กับปัญหาเชิงโครงสร้างที่ร้ายแรงกับสังคมมนุษย์ ซึ่งเมื่อปัญหาเชิงโครงสร้างเหล่านั้นทำงานไปแล้ว มันก็ยากที่จะแก้ไขความเสียหาย ซึ่งหมายความว่ามันจำเป็นต้องได้รับการแก้ไขให้ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้นนั่นเองครับผม

References : https://futurism.com/the-byte/ar-pioneer-warns-metaverse
https://bigthink.com/the-future/metaverse-augmented-reality-danger/

Geek Monday EP110 : Sony x Ericsson กับความแตกต่างทางวัฒนธรรม สู่ผลลัพธ์ที่ 1+1 ไม่เท่ากับ 2 เสมอไป

ทุกวันนี้ เป็นเรื่องปกติที่บริษัทจากประเทศและภาคส่วนต่างๆ จะทำงานร่วมกัน ในปี 2001 บริษัทร่วมทุน Sony Ericsson ได้รับการจัดตั้งขึ้นโดยบริษัทอิเล็กทรอนิกส์สัญชาติญี่ปุ่น Sony Corporation และบริษัทโทรคมนาคมของสวีเดน Ericsson จุดมุ่งหมายของความร่วมมือนี้คือการผลิตโทรศัพท์มือถือที่มีโซลูชันการสื่อสารแบบมัลติมีเดียให้กับลูกค้าทั่วโลก

จากมุมมองของพวกเขาทั้งสอง การทำงานร่วมกันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะดำเนินการ เนื่องจากปัญหาและความขัดแย้งมากมาย Sony-Ericsson จึงไม่สามารถบรรลุผลกำไรสูงสุดและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้ตามที่คาดไว้ และสุดท้ายก็ต้องปิดฉากการร่วมมือกันในท้ายที่สุด

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

🎧 ฟังผ่าน Podbean : 
https://bit.ly/3C9lW1O

🎧 ฟังผ่าน Apple Podcast :
https://apple.co/2lEqPPg

🎧 ฟังผ่าน Google Podcast : 
http://bit.ly/2kxHtQ3

🎧 ฟังผ่าน Spotify : 
https://spoti.fi/2m0PTzR

🎧 ฟังผ่าน Youtube 
https://youtu.be/7Q3nCp99DHU

References Image : https://mgronline.com/cyberbiz/detail/9510000066210