สี่แสนแปดหมื่นล้านต่อปี กับรายได้ Passive Income ของ Apple iOS ที่ได้รับจาก Google

ต้องบอกว่ามันเป็นเรื่องราวที่สนใจที่สุดเรื่องนึงในแวดวงเทคโนโลยีโลก นั่นก็คือความสัมพันธ์ระหว่าง Apple และ Google ที่เป็นพี่ใหญ่ในวงการมือถือโลกผ่านแพล็ตฟอร์ม Android และ iOS และมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดมาอย่างยาวนาน

ในหนังสือชีวประวัติของ Steve Jobs ที่เขียนโดย Walter Isaccson นั้น Steve Jobs ได้กล่าวแม้กระทั่งว่า “ผมต้องการทำลาย Android เพราะมันเป็นผลิตภัณฑ์ที่ขโมย ไอเดียจาก iOS ของ Apple”

แต่ด้วยปรัชญาในเรื่องการดูแลแพล็ตฟอร์มที่แตกต่างกันออกไปอย่างชันเจน Android ที่เป็นระบบเปิดแบบเสรี ผู้ผลิตมือถือเจ้าไหนก็สามารถนำมันไปใช้ได้ เพียงแค่ใส่บริการของ Google Service เครื่องจักรทำเงินของพวกเขาเข้าไปเท่านั้น

ส่วน Apple เป็นระบบปิด มาตั้งแต่แรกอย่างชัดเจน และแคร์ในเรื่องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเป็นอย่างมาก การขยับปรับนโยบายแต่ละครั้งสะเทือนไปทั้งวงการ ตัวอย่างล่าสุดที่เกิดกับ Facebook ก็น่าจะรู้ว่า Apple นั้นมีอิทธิพลมากแค่ไหนในวงการมือถือโลก

แต่มันมีเรื่องนึง ที่ดูเหมือนไม่สมเหตุสมผล จากประวัติของบริษัททั้งคู่ ที่เป็นคู่รักคู่แค้นกันมาอย่างยาวนาน เมื่อ Apple นั้นทำเงินได้อย่างมากมายกับการที่แลกให้ Google เป็นเครื่องมือการค้นหาเริ่มต้นบน iPhone และ อุปกรณ์ iOS ทั้งหมด

มันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมาก ๆ กับความสัมพันธ์แบบสมประโยชน์ของทั้งคู่ในกรณีนี้ เนื่องจาก Google ได้จ่ายเงินให้ Apple มากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อให้ Google เป็นเครื่องมือการค้นหาเริ่มต้นนี้

หนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี!!! แน่นอนว่าคุณอ่านไม่ผิด มันเทียบกับเงินราว ๆ 320,000 ล้านบาทต่อปี ที่ Apple ได้เงินกินเปล่าแบบฟรี ๆ จาก Apple ในกรณีนี้

แม้หลายคนอาจจะคิดว่า ผู้ใช้ iPhone ส่วนใหญ่ก็น่าจะใช้ Google อยู่แล้ว มันเป็นเรื่องที่ดีกว่าหาก Apple รับเงินกินเปล่ามาแบบฟรี ๆ โดยไม่ได้กระทบกับการใช้งานของสาว Apple แต่อย่างใด

มีงานวิจัยที่ระบุว่า ค่าธรรมเนียมดังกล่าวจะเพิ่มเป็น 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ราว ๆ 480,000 ล้านบาทในปี 2021 และเพิ่มเป็น 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2022

รายได้จำนวนมหาศาลที่ Apple ได้รับจากการเป็นค่าตั้งต้นการค้นหาให้กับ Google (CR:AppleToolBox)
รายได้จำนวนมหาศาลที่ Apple ได้รับจากการเป็นค่าตั้งต้นการค้นหาให้กับ Google (CR:AppleToolBox)

ซึ่งแม้ว่า Apple จะไม่ได้แยกรายได้จากบริการต่างๆ ออกมาอย่างชัดเจนนักในงบการเงินของบริษัท แต่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า ข้อตกลงกับ Google เป็นส่วนที่ทำกำไรได้มากที่สุดจากธุรกิจบริการของบริษัท เพราะมันแทบจะไม่มีต้นทุนเลยนั่นเอง

ซึ่งต้องบอกว่ารายได้จากธุรกิจบริการนั้นเป็นส่วนสำคัญที่สุดส่วนหนึ่งของการเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ของ Apple ในยุค CEO อย่าง Tim Cook ที่สามารถสร้างรายได้จากธุรกิจบริการแบบพุ่งกระฉูด

และแน่นอนว่า มันก็ส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของ Apple เช่นเดียวกัน เพราะทำให้ลูกค้าของพวกเขานั้น สูญเสียความเป็นส่วนตัวของข้อมูลอย่างชัดเจนไปให้กับ Google ซึ่งเปรียบเสมือนว่า Apple ก็ทำรายได้จากข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ผ่านเครือข่ายการค้นหาของ Google นั่นเอง

แต่ Apple ก็คงคิดถี่ถ้วนเป็นอย่างดีแล้ว เพราะ Google มันกลายเป็นบริการสามัญประจำเครื่อง ที่ทุกคนทั่วโลกใช้กันหมด และไม่มีคู่แข่งคนใดมาทาบรัศมีกับประสิทธิภาพการค้นหาของ Google ได้เลย

และเงิน กว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (สี่แสนแปดหมื่นล้านบาท) ก็เป็นตัวเลขไม่ใช่น้อยที่ Apple จะได้รับจาก Google ในปีนี้ และเป็นอีกหนึ่งช่องทางรายได้ที่สำคัญที่แทบจะไม่มีต้นทุน ซึ่งมันก็เปรียบเสมือน Passive Income ที่หลาย ๆ ธุรกิจต่างถวิลหา และ Apple ก็จะได้รับมันในทุกๆ ปีจาก Google นั่นเองครับผม

References : https://www.inc.com/jason-aten/why-apple-has-most-to-lose-from-googles-fight-with-justice-department.html
https://gizmodo.com/google-will-continue-to-pay-apple-billions-to-keep-you-1847564608
https://www.inc.com/jason-aten/apple-just-traded-your-privacy-for-15-billion.html
https://www.inc.com/jason-aten/one-number-explains-why-this-was-apples-most-impressive-quarter-ever.html