Bitcoin Story ตอนที่ 3 : Turning Point

Laszlo Hanecz สถาปนิกซอฟต์แวร์วัยยี่สิบแปดปีที่เกิดในฮังการี ซึ่งอาศัยอยู่ในฟลอริดาได้ยินเรื่องเกี่ยวกับ Bitcoin จากเพื่อนเขียนโปรแกรมที่เขาเคยพบในการแชทผ่านอินเทอร์เน็ตหรือที่เรียกว่า IRC 

ซึ่งในไม่ช้าเขาก็รู้ว่ามีการทดลองที่น่าสนใจเกี่ยวกับสิ่ง ๆ นึงที่เรียกว่า Bitcoin และเขาก็ได้ตัดสินใจที่จะค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม

เขาเริ่มต้นด้วยการซื้อเหรียญจาก NewLibertyStandard จากนั้นสร้างซอฟต์แวร์เพื่อให้รหัส Bitcoin สามารถทำงานบน Macintosh ได้ แต่เช่นเดียวกับนักเขียนโค้ดเก่ง ๆ หลายคน Laszlo ได้สร้างโปรเจ็กต์ใหม่ด้วยความคิดของแฮ็กเกอร์เพื่อตรวจสอบว่าเขาอาจทำลายมันได้อย่างไรเพื่อทดสอบความแข็งแกร่ง

ช่องโหว่ที่ชัดเจนคือระบบการสร้างหรือขุด Bitcoins หากผู้ใช้ทุ่มพลังคอมพิวเตอร์จำนวนมากไปยังเครือข่าย อาจทำได้รับ Bitcoins ใหม่ในปริมาณที่ไม่สมส่วน

แม้ว่า Satoshi Nakamoto ได้ออกแบบกระบวนการขุดเพื่อให้การแข่งขันแฮชฟังก์ชั่นมีความยากขึ้นหากคอมพิวเตอร์ใดชนะการแข่งขันขุดบ่อยกว่าเครื่องอื่นในทุกๆสิบนาที แต่ผู้ใช้เหล่านั้นด้วยคอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดยังคงมีโอกาสที่ดีกว่ามากในการชนะเหรียญส่วนใหญ่

ซึ่งในตอนนั้นต้องบอกว่าไม่มีใครมีแรงจูงใจในการทุ่มพลังคอมพิวเตอร์จำนวนมากในการขุดเนื่องจาก Bitcoins แทบจะไม่มีค่าอะไรเลย แต่ Laszlo ตัดสินใจที่จะทดสอบช่องโหว่นี้ 

เขาเข้าใจว่าทุกคนในเครือข่ายพยายามที่จะชนะการแข่งขันทางคอมพิวเตอร์ด้วยหน่วยประมวลผลกลางหรือ CPU ในคอมพิวเตอร์ของพวกเขา แต่ CPU นั้นจำเป็นต้องใช้ในงานระบบพื้นฐานอื่น ๆ ของคอมพิวเตอร์เป็นส่วนใหญ่ดังนั้นฟังก์ชันแฮชของคอมพิวเตอร์จึงไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ

ในทางกลับกันหน่วยประมวลผลกราฟิกหรือ GPU ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้ในการแก้ปัญหาซ้ำ ๆ ที่จำเป็นในการประมวลผลภาพและวิดีโอซึ่งคล้ายกับสิ่งที่จำเป็นในการชนะฟังก์ชันการแข่งขันแฮชของ Bitcoin

Laszlo หาวิธีกำหนดเส้นทางกระบวนการขุดผ่าน GPU ของคอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว GPU ของ Laszlo ได้รับรางวัลมากที่สุดคือบล็อกละ 50 Bitcoins ในแต่ละวันจากจำนวนประมาณ 140 บล็อกที่ปล่อยออกมาทุกวัน

เขาก็เริ่มชนะหนึ่งหรือสองบล็อกต่อชั่วโมงและบางครั้งก็มากกว่านั้น ในวันที่ 17 พฤษภาคมปี 2009 เขาสามารถเอาชนะได้ถึง 28 บล็อก; ชัยชนะเหล่านี้ทำให้เขาได้รับเหรียญใหม่ 1,400 เหรียญในวันนั้นเพียงวันเดียว

Satoshi รู้ว่ามีคนมองเห็นโอกาสนี้ ในที่สุดเมื่อ Bitcoin ประสบความสำเร็จมากขึ้นและไม่แปลกใจเลยที่ Laszlo ส่งอีเมลถึงเขาเกี่ยวกับโครงการของเขา แต่ในการตอบสนองต่อ Laszlo นั้น Satoshi โมโหกับสิ่งที่ Laszlo ทำอย่างชัดเจน เพราะหากมีคนรับเหรียญทั้งหมดจะมีแรงจูงใจน้อยกว่าสำหรับคนใหม่ที่จะเข้าร่วม

แต่ Satoshi ยังยอมรับว่าการมีพลังในการประมวลผลบนเครือข่ายทำให้เครือข่ายแข็งแกร่งขึ้นตราบใดที่คนที่มีอำนาจเช่น Laszlo ต้องการเห็น Bitcoin ประสบความสำเร็จ 

พวกเขาไม่สามารถประสบความสำเร็จได้หากไม่มีการสนับสนุนจาก 50 เปอร์เซ็นต์ของคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น ๆ ในเครือข่าย แบบจำลองนี้ทำให้เครือข่ายมีช่องโหว่หากบุคคลหรือกลุ่มหนึ่งจับกลุ่มได้มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของพลังการประมวลผล ในสิ่งที่เรียกว่าการโจมตี 51 เปอร์เซ็นต์

หากผู้สนับสนุน Bitcoin เช่น Laszlo สามารถเพิ่มพลังในการประมวลผลได้มากมาย นั่นจะทำให้คนอื่นๆ ที่คิดร้าย สร้างพลังงานในการประมวลผลมากกว่า 51 เปอร์เซ็นต์ได้ยากขึ้น และ Laszlo มีความสนใจสูงสุดกับเครือข่ายของกลุ่ม Bitcoin ซึ่งเห็นได้ชัดในฟอรัมว่าเขาเป็นคนอารมณ์ดีและสนใจในความคิดมากกว่าความมั่งคั่งส่วนตัวหรือความสำเร็จ

ในขณะที่เขาขุดเหรียญเขากระตือรือร้นที่จะแสดงให้เห็นว่า Bitcoin สามารถนำไปใช้ในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างไร 

สิ่งที่ Laszlo ตั้งเป้าไว้คือการส่งอาหารเพื่อแลกกับ Bitcoins โดยที่ไม่ต้องสั่งหรือเตรียมเองเช่นสั่ง “อาหารเช้า” ที่โรงแรม

จากการกักตุน Bitcoins ไว้ประมาณ 70,000 Bitcoins ในตอนนั้นเขาได้เสนอ 10,000 Bitcoins สำหรับพิซซ่า สองสามวันแรกไม่มีใครสนใจ เพราะท้ายที่สุดแล้วบุคคลที่ได้รับเหรียญไปจะทำอะไรกับเหรียญเมื่อ Laszlo ส่งเหรียญให้พวกเขาไป? 

Laszlo Hanecz ผู้ที่เชื่อว่า Bitcoin นั้นมีค่าด้วยการแลกกับพิซซ่า
Laszlo Hanecz ผู้ที่เชื่อว่า Bitcoin นั้นมีค่าด้วยการแลกกับพิซซ่า (CR:cointelegraph)

แต่เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2010 ผู้ชายคนหนึ่งในแคลิฟอร์เนียเสนอให้โทรหา Papa John’s ที่อยู่ไม่ไกลจากที่พักของ Lazlo ไม่นานต่อมาคนส่งของมาเคาะประตูบ้านสี่ห้องนอนของ Laszlo ในย่านชานเมืองแจ็กสันวิลล์โดยนำพิซซ่าสองชิ้นที่เต็มไปด้วยท็อปปิ้ง

ต่อมา Laszlo พบผู้รับข้อตกลงหลายรายซึ่งหมายความว่าสองสามสัปดาห์เขาไม่ได้กินอะไรเลยนอกจากพิซซ่า 

แต่เขาได้แสดงให้เห็นแล้วว่า Bitcoins สามารถใช้งานได้ในโลกแห่งความเป็นจริงได้สำเร็จ เมื่อเขาโพสต์ภาพจากงานเลี้ยงหนึ่งของเขา Martti Malmi (อีกหนึ่งนักพัฒนาในกลุ่ม Bitcoins) ส่งเสียงเชียร์ว่า “ขอแสดงความยินดี Laszlo ก้าวที่ยิ่งใหญ่มาถึงแล้ว”

Laszlo ได้พิสูจน์แล้วว่าสามารถจ่ายเงินสำหรับของจริงด้วย Bitcoins ได้ แต่เทคโนโลยีนี้ยังคงเป็นเพียงโครงการทดลองที่อาศัยความปรารถนาดีของผู้ใช้อย่างที่ Papa John’s ทำ

แต่โครงการที่โดดเด่นที่สุดที่เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยน Bicoin ให้กลายเป็นเงินจริง ๆ คือ โครงการ Bitcoin faucet ซึ่งเป็นเว๊บไซต์ที่ให้ Bitcoins ฟรี 5 เหรียญสำหรับทุกคนที่ลงทะเบียน

ผู้สร้างโครงการคือ Gavin Andresen โปรแกรมเมอร์ในแมสซาชูเซตส์ซึ่งยินดีจ่ายเงิน 50 เหรียญเพื่อแลกกับ 10,000 Bitcoins

เขาได้ยินเกี่ยวกับเทคโนโลยีครั้งแรกในเดือนพฤษภาคมจากรายการเล็ก ๆ บนเว็บไซต์ของ InfoWorld  โดย Gavin เขียนไว้ในฟอรัมว่า “ผมต้องการให้โครงการ Bitcoin ประสบความสำเร็จและผมคิดว่ามันมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้นหากผู้คนสามารถหาเหรียญจำนวนหนึ่งมาทดลองใช้ แน่นอนว่าอาจเป็นเรื่องน่าผิดหวังที่ต้องรอจนกว่าโหนดของคุณจะสร้างเหรียญขึ้นมา (ซึ่งจะทำให้คุณหงุดหงิดมากขึ้นในอนาคต) และการซื้อ Bitcoins นั้นก็ยังค่อนข้างยุ่งยาก”

ในการเริ่มเข้าร่วมโครงการ Bitcoin Gavin ได้เริ่มส่งอีเมลถึง Satoshi อย่างรวดเร็วเพื่อแนะนำการปรับปรุงโค้ดของตัวเองและในเวลาไม่นานก็กลายเป็นบุคคลแรกนอกเหนือจาก Satoshi หรือ Martti ที่ทำการเปลี่ยนแปลง Source Code ของ Bitcoin อย่างเป็นทางการ

สิ่งที่มีค่ามากกว่าการเขียนโปรแกรมของ Gavin คือความปรารถนาดีและความซื่อสัตย์ของเขาซึ่งทั้งสองอย่างนี้ Bitcoin จำเป็นอย่างยิ่งในการได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้รายใหม่

Gavin Andresen อีกหนึ่งผู้มีบทบาทสำคัญกับ Bitcoin ในยุคกแรก ๆ
Gavin Andresen อีกหนึ่งผู้มีบทบาทสำคัญกับ Bitcoin ในยุคกแรก ๆ (CR:coindesk.com)

เนื่องจาก Satoshi ยังคงเป็นเพียงเงา แน่นอนว่า Satoshi ได้ออกแบบซอฟต์แวร์ของเขาให้เป็นโอเพ่นซอร์สเพื่อให้ผู้ใช้ไม่ต้องเชื่อใจเขา แต่ผู้คนไม่ได้แสดงความเต็มใจที่จะมอบเงินจริงให้กับเครือข่ายที่ดำเนินการโดยกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ออกนามจำนวนมาก

แต่สถานการณ์ของ Project Bitcoin กำลังจะถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อเว๊บไซต์ชื่อดังอย่าง Slashdot ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวสำหรับนักคอมพิวเตอร์ทั่วโลกกำลังจะโพสต์บทความเกี่ยวกับโครงการ Bitcoin ซึ่งจะทำให้ Bitcoin ได้รับความสนใจจากทั่วโลก

“Slashdot ที่มีผู้อ่านที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีหลายล้านคน น่าจะยอดเยี่ยม บางทีอาจจะดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้!” Martti เขียนในฟอรัม “ผมแค่หวังว่าเซิร์ฟเวอร์จะสามารถยืนหยัดเพื่อรับกลุ่มผู้คนที่จะแห่กันเข้ามาจาก ‘slashdotted’ ได้”

หลังจากที่ Martti ได้แก้ไขบทความเวอร์ชันสุดท้าย โดยเป็นการกล่าวอย่างถ่อมตัวมากขึ้นว่า “ชุมชนมีความหวังว่าสกุลเงินใหม่นี้จะอยู่นอกเหนือการเข้าถึงของรัฐบาลใด ๆ ”

เมื่อบทความออนไลน์ได้ไม่นานหลังเที่ยงคืนในเฮลซิงกิไม่มีอะไรมากไปกว่าย่อหน้าเดียวที่ทีม Bitcoin ส่งมา

“Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลบนเครือข่ายแบบเพียร์ทูเพียร์ที่ไม่มีธนาคารเป็นตัวกลางและไม่มีค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรม”

ขาประจำอย่าง Laszlo ที่อยู่ในช่องแชท Bitcoin เพื่อตอบคำถามและทำหน้าที่เป็นไกด์นำทางสำหรับมือใหม่ หลังจากที่พวกเขาได้อ่านเรื่องราวจากบทความใน Slashdot  

Martti ได้มองไปที่ตัวนับ ซึ่งใช้ติดตามจำนวนผู้ใช้ในฟอรัมและช่องแชท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งหลังจากบทความได้ถูกปล่อยออกไป มีคำถามเกิดขึ้นมากมายรวมถึงการถกเถียงที่เกิดขึ้นในกระดานสนทนาของพวกเขา

และเว็บไซต์ Bitcoin ซึ่งทำงานบนเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่สามารถรองรับผู้ชมได้มากกว่าหนึ่งร้อยคนในแต่ละครั้งก็เริ่มสะดุด ภายในหนึ่งชั่วโมงก็ถึงขีดจำกัด และไซต์ทั้งหมดก็ล่มไปในที่สุด 

Martti พยายามขยายขีดความสามารถของไซต์กับ บริษัท hosting แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในกระดานสนทนา ทั้งความคิดเห็นเชิงบวกและเชิงลบที่ปรากฏขึ้นอย่างบ้าคลั่ง หลังจากบทความของ Slashdot ออนไลน์นั้น ไม่ได้ทำให้ความกระตือรือร้นของเขาลดลงไปเลย เพราะนี่คือสิ่งที่เขาและทีมงาน Bitcoin รอคอยมาหลายเดือนแล้วนั่นเอง

ต้องบอกว่าสถานการณ์มาถึงตอนนี้ เรียกได้ว่าโครงการ Bitcoin ที่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจ และยังไม่รู้ว่าจะหามูลค่ามันได้จากที่ใด กำลังจะถึงจุดเปลี่ยน เมื่อได้สื่อชื่อดังอย่าง Slashdot ตีพิมพ์บทความออกไป แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อกับโครงการ Bitcoin โปรดอย่าพลาดติดตามต่อในตอนหน้านะครับผม

–> อ่านตอนที่ 4 : Final Messages

Credit แหล่งข้อมูลบทความ