ในวันที่ 22 ตุลาคม 2009 เพียงแค่สามสัปดาห์หลังจากที่ Low ได้ยักยอกเงินมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ จากกองทุน 1MDB เขาก็ได้บินไปฉลองที่อเมริกาทันที และที่นั่นก็คือเมืองแห่งแสงสีอย่าง ลาสเวกัส
และก็เป็นหนึ่งในโรงแรมใหม่ล่าสุดอย่าง Palazzo โรงแรมระดับหรู และมีคาสิโนที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแห่งที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา Low ได้มีการจ้างนางแบบสาวในลาสเวกัสกว่า 20 คนมาร่วมงานปาร์ตี้ฉลอง ที่เป็นความลับ
เมื่อถึงเวลา 20.00 น. เหล่าสาว ๆ ก็เข้ามาถึงห้อง VIP โดยข้างใน รอบ ๆ โต๊ะมีชาวเอเชียจำนวนหนึ่งกำลังเล่นโป๊กเกอร์พร้อมด้วย Leonardo DeCapio แม้เหล่านางแบบหลายคนจะเคยพบกับนักแสดงชื่อดังมาก่อน แต่การปรากฏตัวของเขาในงานนี้ทำให้บางคนรู้สึกประหลาดใจ
โดยในห้องนั่งเล่นของห้องสวีทดังกล่าว มีโซฟานุ่ม ๆ และประตูที่เปิดออกไปที่ระเบียงสระว่ายน้ำ ที่สามารถมองเห็นบรรยากาศเมืองลาสเวกัสยามค่ำคืน พนักงานโรงแรมได้สร้างฟลอร์เต้นรำแบบชั่วคราวพร้อมกับลูกบอลดิสโก้ห้อยอยู่เหนือศรีษะ และทาง Palazzo นั้นได้มีการจัดการ์ดมาคุมเข้มให้กับแขก VIP กลุ่มนี้ เป็นพิเศษ
ต้องบอกว่าในช่วงเวลานั้น ช่วงปลายปี 2009 Low สามารถเข้าถึงเงินสดได้มากกว่าใครในโลก และเขาไม่อายที่จะใช้จ่ายมันอย่างบ้าคลั่ง Low ได้เริ่มจัดปาร์ตี้ พบปะคนสำคัญทั้งดารา นักธุรกิจ นายธนาคาร และบุคคลสำคัญอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้าง Connection ใหม่ ๆ
ต้องบอกว่าแผนการของ Low ในศตวรรษที่ 21 นั้น เป็นความพยายามระดับโลกที่ทำได้สำเร็จอย่างแท้จริง ที่เขาแทบจะไม่ต้องผลิตสินค้าใด ๆ เลย กับการเสกเงินเหมือนมีเวทมนต์ ด้วยการเปลี่ยนเงินสดจากกองทุนของรัฐที่มีการควบคุมที่หละหลวมในประเทศกำลังพัฒนา และ เคลื่อนย้ายมันไปสู่มุมมืดของระบบการเงิน
ในระหว่างเดือนตุลาคม 2009 ถึง มิถุนายนปี 2010 ในระยะเวลาเพียงแค่ 8 เดือน Low และ ผู้ติดตามของเขาใช้เงินไปกว่า 85 ล้านดอลลาร์ในการเล่นการพนันในเวกัส , เครื่องบินไอพ่นส่วนตัว , เช่าบ้านพักตากอากาศ รวมถึง Apartment สุดหรูใจกลางกรุงนิวยอร์ก Park Imperial
แต่เขาก็มีความฝันอย่างนึงตั้งแต่เรียนที่ Wharton ที่อยากจะพบเจอนางแบบคนดัง ที่เขาใฝ่ฝัน ซึ่งเธอผู้นั้นก็คือ Paris Hilton
ซึ่งตอนนี้เรื่องเงินก็ไม่ใช่ปัญหาของ Low อีกต่อไป ในเดือนพฤศจิกายนปี 2009 Low ได้ส่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปที่ LA เพื่อพา Paris Hilton ไปยังแวนคูเวอร์ เพื่อพาเธอไปยัง Whistler สกีรีสอร์ตชื่อดังของแคนาดา
โดย Low ได้ติดต่อผ่านผู้จัดการส่วนตัวของ Hilton โดยจ่ายเงินประมาณ 100,000 ดอลลาร์ เพื่อมาพักผ่อนที่ โดย Hilton ได้พาเพื่อนของเธอ Joey McFarland ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการจ้างดาราสำหรับงานปาร์ตี้และอีเว้นท์มาด้วย
ที่รีสอร์ตดังกล่าว มีการรวมตัวกันของเหล่าคนสนิทของ Low เพื่อมาพักผ่อน ที่สกีรีสอร์ตแห่งนี้ Low ได้พาเพื่อนสนิท ทั้ง Al Wazzan เพื่อนร่วมชั้น Wharton ชาวคูเวต รวมถึง Riza Aziz ลูกเลี้ยงของนายกรัฐมนตรี Najib มาร่วมพักผ่อนในทริปนี้ด้วยกัน
ซึ่ง Riza นั้น อาศัยอยู่ในลอสแองเจลิส และพร้อมที่จะช่วย Low ลงทุนเงินบางส่วน ซึ่งที่ รีสอร์ต Whistler นีเองที่ทำให้ทั้งคู่คิดไอเดียเกี่ยวกับการสร้างภาพยนต์ ซึ่งมี McFarland ที่มีความสนใจในเรื่องดังกล่าวมาร่วมกันออกไอเดียด้วย
ซึ่งหลังจากจบทริปที่แคนาดา Low ก็ได้เริ่มทำความสนิทสนมกับ Hilton อย่างต่อเนื่อง มีการจ่ายเงินให้เธอจำนวนมหาศาล ในงานฉลองวันเกิดของ Hilton มีของขวัญวันเกิดอย่าง นาฬิกา Cartier สุดหรู พร้อมด้วยเงินสดกว่า 250,000 ดอลลาร์ให้ Hilton เพื่อไปใช้เล่นบาคาร่า เรียกได้ว่า Low จ่ายเงินให้ Hilton อย่างเต็มที่ โดยไม่ได้สนใจอะไรเลยด้วยซ้ำ
ด้วยความที่เขาเป็นคนจ่ายหนัก โดยเฉพาะที่คาสิโน ทำให้หลาย ๆ คนเริ่มจับตามามอง Low เพราะเขาดูเหมือนไม่สนใจอะไรเลยกับการจ่ายเงินจำนวนมหาศาล แม้จะเสียการพนันสูงถึง 2 ล้านดอลลาร์ เขาก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายแต่อย่างใด มีข่าวลือในแวงวงคาสิโนว่า เขาอาจจะเป็นพ่อค้าอาวุธ หรือ อาจจะเป็นทายาทกษัตริย์แห่งมาเลเซีย เลยเสียด้วยซ้ำในขณะนั้น
เมื่อเข้าสู่ปี 2010 Low ก็ได้ซื้อบ้านหรูมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ใน ลอนดอน ลอสแองเจลิส และ นิวยอร์ก ให้กับ Najib และครอบครัวของเขา โดยมีการซื้อ อาคาร Park Laurel ในเมืองนิวยอร์ก ที่มีมูลค่ากว่า 36 ล้านดอลลาร์ สำหรับ Riza Aziz ลูกเลี้ยงของ Najib
เรียกได้ว่าเป็นการเอาใจ Najib อย่างเต็มที่ เพราะท้ายที่สุดอสังหาเหล่านี้ Riza ก็จะกลายเป็นเจ้าของในท้ายที่สุด ซึ่งเงินส่วนใหญ่ก็มาจากเงินที่ขโมยมาจากกองทุน 1MDB นั่นเอง โดยที่ทาง Najib เองนั้น ก็ไม่ได้สนใจถึงแหล่งที่มาของเงินในการซื้อสินทรัพย์เหล่านี้ ในขณะนั้น
แม้จะซื้อบ้านหลายหลัง แต่ Low ก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเดินทางไปทั่วโลก มีการเดินทางไปยัง มาเลเซียเพื่อพบนายกรัฐมนตรี Najib และเขาจะบินต่อไปยัง สิงค์โปร์ ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ รวมถึง อาบูดาบี สวิส แล้วบินวนกลับมาที่ลอสแองเจลิส เพื่อเดินทางไปเล่นการพนันที่เวกัส เรียกได้ว่าเป็นตารางการบินที่บ้าคลั่งมาก ๆ ที่คนส่วนใหญ่คงไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน
ซึ่งการเดินทางที่เยอะขนาดนี้ ทำให้ Low ได้ตัดสินใจซื้อเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว Bombardier Global 5000 เครื่องบินสุดหรูของเหล่ามหาเศรษฐี เนื่องด้วยเขาอาศัยอยู่ในเครื่องบินเจ็ตมากกว่าบ้านหลาย ๆ หลังที่เขาซื้อมา ทำให้ภายในเครื่องบินนั้นตกแต่งเต็มไปด้วย เตียง และ ออฟฟิสขนาดเล็ก เครื่อง Fax และ WI-FI ซึ่งเขาใช้เวลาทำงานส่วนใหญ่อยู่บนเครื่องบิน
ต้องเรียกได้ว่า มันเป็นชีวิตที่ไม่ธรรมดา Low ได้สร้างความประทับใจที่แตกต่างให้กับเหล่าผู้คนที่ได้มีโออาสพบเขา ซึ่งต้องบอกว่า แผนการของ Low นั้นประสบความสำเร็จอย่างสูงมาก ๆ และมาไกลเกินกว่าที่เขาคิดไว้ เพราะทุกอย่างมันดูเหมือนง่ายไปหมดสำหรับเขา แต่หารู้ไม่ว่า สถานการณ์ที่ มาเลเซีย เริ่มมีความสงสัย ถึงทรัพย์สินที่ได้มาของ Low และ วิธีการลงทุนของ 1MDB ของ Low เสียแล้ว แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อ กับผู้ชายที่เสกเงินได้ดั่งมีเวทย์มนต์อย่าง Jho Low โปรดอย่าพลาดติดตามตอนต่อไปครับผม
–> อ่านตอนที่ 8 : Where’s Our Money?
<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :Prologue *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***
Credit แหล่งข้อมูลบทความ
References Image : https://www.businesstimes.com.sg/asean-business/malaysian-playboy-financier-jho-low-in-cross-hairs-after-poll-upset