ประวัติ Jho Low ตอนที่ 7 : Money Magic

ในวันที่ 22 ตุลาคม 2009 เพียงแค่สามสัปดาห์หลังจากที่ Low ได้ยักยอกเงินมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ จากกองทุน 1MDB เขาก็ได้บินไปฉลองที่อเมริกาทันที และที่นั่นก็คือเมืองแห่งแสงสีอย่าง ลาสเวกัส

และก็เป็นหนึ่งในโรงแรมใหม่ล่าสุดอย่าง Palazzo โรงแรมระดับหรู และมีคาสิโนที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแห่งที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา Low ได้มีการจ้างนางแบบสาวในลาสเวกัสกว่า 20 คนมาร่วมงานปาร์ตี้ฉลอง ที่เป็นความลับ

เมื่อถึงเวลา 20.00 น. เหล่าสาว ๆ ก็เข้ามาถึงห้อง VIP โดยข้างใน รอบ ๆ โต๊ะมีชาวเอเชียจำนวนหนึ่งกำลังเล่นโป๊กเกอร์พร้อมด้วย Leonardo DeCapio แม้เหล่านางแบบหลายคนจะเคยพบกับนักแสดงชื่อดังมาก่อน แต่การปรากฏตัวของเขาในงานนี้ทำให้บางคนรู้สึกประหลาดใจ

โดยในห้องนั่งเล่นของห้องสวีทดังกล่าว มีโซฟานุ่ม ๆ และประตูที่เปิดออกไปที่ระเบียงสระว่ายน้ำ ที่สามารถมองเห็นบรรยากาศเมืองลาสเวกัสยามค่ำคืน พนักงานโรงแรมได้สร้างฟลอร์เต้นรำแบบชั่วคราวพร้อมกับลูกบอลดิสโก้ห้อยอยู่เหนือศรีษะ และทาง Palazzo นั้นได้มีการจัดการ์ดมาคุมเข้มให้กับแขก VIP กลุ่มนี้ เป็นพิเศษ

ต้องบอกว่าในช่วงเวลานั้น ช่วงปลายปี 2009 Low สามารถเข้าถึงเงินสดได้มากกว่าใครในโลก และเขาไม่อายที่จะใช้จ่ายมันอย่างบ้าคลั่ง Low ได้เริ่มจัดปาร์ตี้ พบปะคนสำคัญทั้งดารา นักธุรกิจ นายธนาคาร และบุคคลสำคัญอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้าง Connection ใหม่ ๆ

ต้องบอกว่าแผนการของ Low ในศตวรรษที่ 21 นั้น เป็นความพยายามระดับโลกที่ทำได้สำเร็จอย่างแท้จริง ที่เขาแทบจะไม่ต้องผลิตสินค้าใด ๆ เลย กับการเสกเงินเหมือนมีเวทมนต์ ด้วยการเปลี่ยนเงินสดจากกองทุนของรัฐที่มีการควบคุมที่หละหลวมในประเทศกำลังพัฒนา และ เคลื่อนย้ายมันไปสู่มุมมืดของระบบการเงิน

ในระหว่างเดือนตุลาคม 2009 ถึง มิถุนายนปี 2010 ในระยะเวลาเพียงแค่ 8 เดือน Low และ ผู้ติดตามของเขาใช้เงินไปกว่า 85 ล้านดอลลาร์ในการเล่นการพนันในเวกัส , เครื่องบินไอพ่นส่วนตัว , เช่าบ้านพักตากอากาศ รวมถึง Apartment สุดหรูใจกลางกรุงนิวยอร์ก Park Imperial

แต่เขาก็มีความฝันอย่างนึงตั้งแต่เรียนที่ Wharton ที่อยากจะพบเจอนางแบบคนดัง ที่เขาใฝ่ฝัน ซึ่งเธอผู้นั้นก็คือ Paris Hilton

ซึ่งตอนนี้เรื่องเงินก็ไม่ใช่ปัญหาของ Low อีกต่อไป ในเดือนพฤศจิกายนปี 2009 Low ได้ส่งเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวไปที่ LA เพื่อพา Paris Hilton ไปยังแวนคูเวอร์ เพื่อพาเธอไปยัง Whistler สกีรีสอร์ตชื่อดังของแคนาดา

Paris Hilton สาวในฝัน ของ Jho Low
Paris Hilton สาวในฝัน ของ Jho Low

โดย Low ได้ติดต่อผ่านผู้จัดการส่วนตัวของ Hilton โดยจ่ายเงินประมาณ 100,000 ดอลลาร์ เพื่อมาพักผ่อนที่ โดย Hilton ได้พาเพื่อนของเธอ Joey McFarland ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการจ้างดาราสำหรับงานปาร์ตี้และอีเว้นท์มาด้วย

ที่รีสอร์ตดังกล่าว มีการรวมตัวกันของเหล่าคนสนิทของ Low เพื่อมาพักผ่อน ที่สกีรีสอร์ตแห่งนี้ Low ได้พาเพื่อนสนิท ทั้ง Al Wazzan เพื่อนร่วมชั้น Wharton ชาวคูเวต รวมถึง Riza Aziz ลูกเลี้ยงของนายกรัฐมนตรี Najib มาร่วมพักผ่อนในทริปนี้ด้วยกัน

ซึ่ง Riza นั้น อาศัยอยู่ในลอสแองเจลิส และพร้อมที่จะช่วย Low ลงทุนเงินบางส่วน ซึ่งที่ รีสอร์ต Whistler นีเองที่ทำให้ทั้งคู่คิดไอเดียเกี่ยวกับการสร้างภาพยนต์ ซึ่งมี McFarland ที่มีความสนใจในเรื่องดังกล่าวมาร่วมกันออกไอเดียด้วย

ซึ่งหลังจากจบทริปที่แคนาดา Low ก็ได้เริ่มทำความสนิทสนมกับ Hilton อย่างต่อเนื่อง มีการจ่ายเงินให้เธอจำนวนมหาศาล ในงานฉลองวันเกิดของ Hilton มีของขวัญวันเกิดอย่าง นาฬิกา Cartier สุดหรู พร้อมด้วยเงินสดกว่า 250,000 ดอลลาร์ให้ Hilton เพื่อไปใช้เล่นบาคาร่า เรียกได้ว่า Low จ่ายเงินให้ Hilton อย่างเต็มที่ โดยไม่ได้สนใจอะไรเลยด้วยซ้ำ

ด้วยความที่เขาเป็นคนจ่ายหนัก โดยเฉพาะที่คาสิโน ทำให้หลาย ๆ คนเริ่มจับตามามอง Low เพราะเขาดูเหมือนไม่สนใจอะไรเลยกับการจ่ายเงินจำนวนมหาศาล แม้จะเสียการพนันสูงถึง 2 ล้านดอลลาร์ เขาก็ไม่ได้รู้สึกเสียดายแต่อย่างใด มีข่าวลือในแวงวงคาสิโนว่า เขาอาจจะเป็นพ่อค้าอาวุธ หรือ อาจจะเป็นทายาทกษัตริย์แห่งมาเลเซีย เลยเสียด้วยซ้ำในขณะนั้น

เมื่อเข้าสู่ปี 2010 Low ก็ได้ซื้อบ้านหรูมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ใน ลอนดอน ลอสแองเจลิส และ นิวยอร์ก ให้กับ Najib และครอบครัวของเขา โดยมีการซื้อ อาคาร Park Laurel ในเมืองนิวยอร์ก ที่มีมูลค่ากว่า 36 ล้านดอลลาร์ สำหรับ Riza Aziz ลูกเลี้ยงของ Najib

เรียกได้ว่าเป็นการเอาใจ Najib อย่างเต็มที่ เพราะท้ายที่สุดอสังหาเหล่านี้ Riza ก็จะกลายเป็นเจ้าของในท้ายที่สุด ซึ่งเงินส่วนใหญ่ก็มาจากเงินที่ขโมยมาจากกองทุน 1MDB นั่นเอง โดยที่ทาง Najib เองนั้น ก็ไม่ได้สนใจถึงแหล่งที่มาของเงินในการซื้อสินทรัพย์เหล่านี้ ในขณะนั้น

แม้จะซื้อบ้านหลายหลัง แต่ Low ก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเดินทางไปทั่วโลก มีการเดินทางไปยัง มาเลเซียเพื่อพบนายกรัฐมนตรี Najib และเขาจะบินต่อไปยัง สิงค์โปร์ ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ รวมถึง อาบูดาบี สวิส แล้วบินวนกลับมาที่ลอสแองเจลิส เพื่อเดินทางไปเล่นการพนันที่เวกัส เรียกได้ว่าเป็นตารางการบินที่บ้าคลั่งมาก ๆ ที่คนส่วนใหญ่คงไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน

Bombardier Global 5000 เปรียบเหมือนบ้านหลังที่สองของ Low
Bombardier Global 5000 เปรียบเหมือนบ้านหลังที่สองของ Low

ซึ่งการเดินทางที่เยอะขนาดนี้ ทำให้ Low ได้ตัดสินใจซื้อเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว Bombardier Global 5000 เครื่องบินสุดหรูของเหล่ามหาเศรษฐี เนื่องด้วยเขาอาศัยอยู่ในเครื่องบินเจ็ตมากกว่าบ้านหลาย ๆ หลังที่เขาซื้อมา ทำให้ภายในเครื่องบินนั้นตกแต่งเต็มไปด้วย เตียง และ ออฟฟิสขนาดเล็ก เครื่อง Fax และ WI-FI ซึ่งเขาใช้เวลาทำงานส่วนใหญ่อยู่บนเครื่องบิน

ต้องเรียกได้ว่า มันเป็นชีวิตที่ไม่ธรรมดา Low ได้สร้างความประทับใจที่แตกต่างให้กับเหล่าผู้คนที่ได้มีโออาสพบเขา ซึ่งต้องบอกว่า แผนการของ Low นั้นประสบความสำเร็จอย่างสูงมาก ๆ และมาไกลเกินกว่าที่เขาคิดไว้ เพราะทุกอย่างมันดูเหมือนง่ายไปหมดสำหรับเขา แต่หารู้ไม่ว่า สถานการณ์ที่ มาเลเซีย เริ่มมีความสงสัย ถึงทรัพย์สินที่ได้มาของ Low และ วิธีการลงทุนของ 1MDB ของ Low เสียแล้ว แล้วจะเกิดอะไรขึ้นต่อ กับผู้ชายที่เสกเงินได้ดั่งมีเวทย์มนต์อย่าง Jho Low โปรดอย่าพลาดติดตามตอนต่อไปครับผม

–> อ่านตอนที่ 8 : Where’s Our Money?

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :Prologue *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***

Credit แหล่งข้อมูลบทความ

References Image : https://www.businesstimes.com.sg/asean-business/malaysian-playboy-financier-jho-low-in-cross-hairs-after-poll-upset

ประวัติ Jho Low ตอนที่ 6 : The First Heist

เพียงไม่กี่เดือน หลังจากที่ Najib Razak ได้ขึ้นครองตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย Low ก็ได้กลายมาเป็นผู้ช่วยอย่างไม่เป็นทางการของ Najib และยังช่วยจัดแจงให้ Najib นั้นได้ออกไปเยือนตะวันออกกลาง

Najib นั้น มีความทะเยอทะยานอย่างยิ่งที่จะเปลี่ยนประเทศมาเลเซียให้กลายเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในยุคของเขา และมันทำให้เขาต้องการแหล่งเงินทุนที่สำคัญ

และนั่นก็คือ กองทุน 1MDB ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีนั้นเป็นกองทุนที่ควรลงทุนในเรื่องพลังงานสะอาด การท่องเที่ยว เพื่อสร้างงานที่มีคุณภาพสูํงสำหรับชาวมาเลเซียทุกคน ไม่ว่าจะเป็นชาติพันธุ์ใด มาเลย์ อินเดีย หรือ จีน ดังนั้นสโลแกนที่สำคัญของกองทุนนี้ก็คือ “One Malaysia” นั่นเอง

และคนที่จะมาดูแลกองทุนดังกล่าว ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน Low ที่สัญญากับนายกรัฐมนตรี ว่าจะทำการดูดเงินจากตะวันออกกลาง และ กู้ยืมเงินเพิ่มเติมจากตลาดโลก และยังสร้างจุดขายใหม่ให้กับกองทุนนี้จน Najib นั้นสนใจมาก ๆ

“ทำไมไม่ใช้กองทุนนี้เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเงินสำหรับการเมืองล่ะ?” ซึ่งผลกำไรจากกองทุนดังกล่าวนี้ จะช่วยให้ Najib สามารถใช้เพื่อชดเชย เหล่าผู้สนับสนุนทางการเมือง และผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เพื่อเรียกคืนความนิยมของพรรค UMNO ที่กำลังตำต่ำ

เจ้าชาย Turki Bin Abdullah Al Saud ลูกชายของกษัตริย์แห่งซาอุดิอาระเบีย Abdullah Abdulaziz Al Saud ได้กลายมาเป็น Connection คนสำคัญคนใหม่ของ Low ในการเชื่อมต่อกับประเทศซาอุดิอารเบีย

เจ้าชาย Turki Bin Abdullah Al Saud แห่งซาอุดิอารเบีย
เจ้าชาย Turki Bin Abdullah Al Saud แห่งซาอุดิอารเบีย

แม้สำหรับใครหลายคนแล้ว อาจจะคิดว่า เจ้าชาย Turki นั้น มีเงินมากมาย แทบจะใช้ไม่หมดก็ตามที แต่ตัวเจ้าชาย Turki นั้นกำลังเผชิญกับอนาคตที่ไม่มั่นคง เนื่องจาก กษัตริย์ Abdullah พระบิดาของเขากำลังอยู่ในวัยชรา และมีอายุถึง 90 ปีแล้ว รวมถึงมีลูกอีกยี่สิบคน ทำให้เจ้าชาย Turki นั้นก็ยังไม่แน่ใจว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร หากพ่อของเขาเสียชีวิต

ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 เจ้าชาย Turki และหุ้นส่วนทางการเงิน Tarek Obaid ได้ก่อตั้ง PetroSaudi International บริษัทสำรวจน้ำมันขึ้น เพื่อพยามเชื่อมโยงกับราชวงศ์ของเขา แนวคิดก็คือ PetroSaudi ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Al khobar ในประเทศซาอุดิอารเบีย โดยบริษัทดังกล่าวจะได้รับสิทธิ์ในการสำรวจน้ำมันในต่างประเทศ

ต้องบอกว่าเจ้าชาย Turki เป็นหนึ่งในบุคคลที่ Low กำลังตามหา และทั้งคู่ก็ได้มีโอกาสมาเจอกัน ผ่าน Sahle Ghebreyesus ซึ่งเป็นผู้ดูแล Service ในการจัดการเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ร้านอาหารสุดหรู หรือ ความต้องการอื่น ๆ ของบุคคลระดับ Superrich

ซึ่ง Ghebreyesus นั้นรู้จักทั้ง เจ้าชาย Turki และ Low ซึ่งเป็นขาปาร์ตี้ มาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่ Wharton ซึ่ง Low ได้ขอให้ Ghebreyesus นั้นจัดวันหยุดพักผ่อนให้กับ Najib , Rosmah และลูก ๆ ของพวกเขานอกชายฝั่งของประเทศฝรั่งเศสบนเรือสำราญสุดหรูอย่าง RM Elegan

ส่วนฝั่งเจ้าชาย Turki นั้น ก็มาในช่วงเวลาเดียวกัน โดยทำการเหมาเรือสำราญ Alfa Nero ที่มีค่าใช้จ่ายกว่า 500,000 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ ซึ่งแผนการของ Low ก็คือ นำ Najib และครอบครัว มาเจอกับเจ้าชาย Turki ให้มันดูเหมือนว่าเขาสามารถที่จะเชื้อเชิญคนระดับราชวงศ์ของซาอุดิอารเบีย มาพบกับ Najib ได้

ซึ่งเมื่อถึงวันที่ทั้งคู่ได้เจอกัน เจ้าชาย Turki และ Najib ได้เริ่มพูดคุยถึงความเป็นไปได้ที่ PetroSaudi จะร่วมมือกับกองทุน 1MDB ซึ่งทั้งคู่คุยกันถูกอกถูกคอ โดยมี Low คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งหลังจากการประชุมดังกล่าวเพียงไม่กี่วัน เจ้าชาย Turki ได้เขียนจดหมายถึง Najib โดยเสนอ การรวมธุรกิจเพื่อสร้างกองทุนที่มีศักยภาพ ขึ้นมา

โดยแผนการก็คือ การให้ PetroSaudi นำทรัพย์สินน้ำมัน ซึ่งเป็นส่วนของสิทธิ์ในการพัฒนาแหล่งน้ำมันในประเทศเติร์กเมนิสถาน และ อาร์เจนติน่ามูลค่ารวม 2.5 พันล้านดอลลาร์เข้าร่วมทุน ในขณะเดียวกันทางกองทุน 1MDB จะทำการนำเงินสด 1 พันล้านดอลลาร์เข้าร่วมทุนในโครงการดังกล่าว

Patrick Mahony เป็นอีกหนึ่งคนที่มีบทบาทใน PetroSaudi ซึ่ง Tarek Obain หุ้นส่วนทางด้านการเงินของเจ้าชาย Turki นั้นเป็นคนชักชวนให้ Mahony มาทำงานที่ PetroSaudi โดยบทบาทของ Mahony คือการทำงานตามแผนงานเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของ PetroSaudi

เขาเป็นผู้ที่ผลักดันให้บริษัทซื้อสิทธิ์ในการสัมปทานแหล่งน้ำมันในอาร์เจนติน่า และ บรรลุข้อตกลงกับบริษัทในแคนาดา เพื่อพัฒนาพื้นที่นอกชายฝั่งขนาดใหญ่ในเติร์กเมนิสถาน

ด้วยข้อตกลงหลายพันล้านดอลลาร์ของกองทุน 1MDB นายกรัฐมนตรี Najib Razak นั้นจะดำรงตำแหน่งสูงสุดของกองทุนในฐานะประธานคณะที่ปรึกษา โดยมีอำนาจแต่งตั้งสมาชิกคณะกรรมการและยับยั้งการตัดสินใจเรื่องสำคัญ ๆ ของกองทุน

โดย 1MDB ได้มีการแต่งตั้ง Shahrol Halmi ซึ่งเป็นอดีตที่ปรึกษาของ Accenture ในมาเลเซียเป็นผู้บริหารสูงสุด และยังมีการจ้างผู้บริหารมากความสามารถคนอื่น ๆ อย่างเช่น Casey Tang ซึ่งเป็นผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในมาเลเซีย ซึ่งมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร และ Jasmine Loo ทนายความมากฝีมืออันดับต้น ๆ ของมาเลเซีย ในฐานะที่ปรึกษาด้านกฏหมาย

แต่มีรายหนึ่งที่หายไปจาก List รายชื่อ ซึ่งนั่นก็คือ Jho Low นั่นเอง โดยเขาตัดสินใจที่จะไม่มีบทบาทอย่างเป็นทางการ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น เขาอยู่เบื้องหลังการตัดสินใจในทุก ๆ ครั้ง ของการดำเนินงานของกองทุน 1MDB

หลังจากนั้นพวกเขาได้ตัดสินใจที่จะไปจัดตั้งบัญชีธุรกิจสำหรับนิติบุคคลใหม่ในเจนีวาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยใช้ธนาคาร BSI ที่เป็นธนาคารเอกชนขนาดเล็กของสวิส Low และ Mahony เดินทางไปเจนีวา เพื่ออธิบายต่อธนาคารว่ากิจการใหม่นี้ จะใช้เงิน 1 พันล้านดอลลาร์จากกองทุน 1MDB ในประเทศมาเลเซีย และจะมีการตัดค่าธรรมเนียมในการช่วยจัดการข้อตกลงร่วมกัน เหมือนที่เขาพยายามทำในช่วงการลงทุนของ Mubadla ก่อนหน้านี้

อย่าไรก็ตามแผนการของ Low ดูเหมือนจะถูกขัดขวางจาก BSI เพราะทาง BSI ตะลึงกับข้อตกลงที่แปลกประหลาดเช่นนี้ และปฏิเสธคำขอในการสร้างบัญชี นายธนาคาร BSI นั้นไม่อยากทำธุรกรรมดังกล่าว เพราะดูแล้วมีความน่าสงสัยมากเกินไป

ซึ่งหลังจากประสบปัญหากับ BSI ทาง Low และ Mahony ก็หันไปหาธนาคาร JP Morgan (Swiss) โดย JP Morgan นั้นตกลงที่จะเปิดบัญชีให้ และมีการถามคำถามเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับสาเหตุที่กองทุน 1MDB ต้องการมาเปิดบัญชีที่นี่

BSI จากสวิส ที่ปฏิเสธการทำธุรกรรมที่น่าสงสัย
BSI จากสวิส ที่ปฏิเสธการทำธุรกรรมที่น่าสงสัย

และมีการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาของ PetroSaudi อย่างบริษัท White & Case ที่เป็นสำนักงานกฏหมายที่กรุงลอนดอน โดยทาง White & Case ก็ยินดีที่จะเอาใจลูกค้าของเขา เพื่อรับค่านายหน้าจำนวนมหาศาล

White & Case ได้ทำการช่วย PetroSaudi เตรียมการนำเสนอข้อเสนอทางการเงินที่เป็นสไลด์แผนภาพกระแสเงินที่ดูเป็นมืออาชีพ ที่แสดงให้เห็นว่า PetroSaudi นั้น จะนำทรัพย์สินอัดฉีดเข้าไปในกองทุนอย่างไร และ ฝั่งของ 1MDB นั้น จะวางเงิน 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อใช้ในกิจการร่วมค้า ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิ้น อย่างไร ซึ่งในการนำเสนอนั้น ยังมีการระบุถึงจำนวนเงิน 700 ล้านดอลลาร์ ที่มีความน่าสงสัย ที่กิจการร่วมค้าดังกล่าวจะคืนให้กับ PetroSaudi ที่ดูเหมือนเป็นการชำระคืนเงินกู้ให้กับ PetroSaudi แต่หารู้ไม่ว่าความจริงแล้วนั้น เงินกู้ก้อนนี้มันไม่ได้มีอยู่จริง

ต้องบอกว่ากระบวนการทั้งหมดนั้น Low จัดการมันได้อย่างรวดเร็วมาก ในเวลาเพียงแค่เดือนกว่า ๆ เท่านั้น หลังจากการคุยกันครั้งแรกของ เจ้าชาย Turki กับ Najib ที่เรือสำราญ Alfa Nero เมื่อเข้าถึงช่วงเดือนสิงหาคม ข้อตกลงร่วมทุนมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ก็เสร็จสิ้น ซึ่งโดยปรกติแล้วข้อตกลงระดับนี้ที่มีความซับซ้อนมาก ๆ ทั้งด้านข้อกฏหมาย และ การประเมินสินทรัพย์ต่าง ๆ ต้องใช้เวลานานมาก ๆ ในการปิดดีล แต่ด้วยความสามารถขั้นเทพของ Low ทำให้จัดการทุกอย่างได้ในระยะเวลาเพียงเดือนเศษ ๆ เพียงเท่านั้น

และในที่สุดทางฝั่งกองทุน 1MDB เหล่าคณะกรรมการที่ Najib ตั้งขึ้นมา ก็ได้อนุมัติเงินจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์ไปยังกิจการร่วมค้ากับ PetroSaudi ได้อย่างง่ายดาย Low มีการแจ้งรายละเอียดข้อตกลงต่าง ๆ ให้ Najib ได้ทราบถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้น แต่มันเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก ที่ไม่มีใครสงสัยถึงเงินจำนวน 700 ล้านดอลลาร์ ที่ดูเหมือนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยจากการทำธุรกรรมในครั้งนี้

มาถึงตอนนี้ เราจะได้เห็นถึงความซับซ้อนของโลกการเงิน และ ความอัจฉริยะขั้นเทพของ Low ในการจัดการเรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงความโลภของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ได้รับจากเงินค่านายหน้าจำนวนมหาศาลที่ทำให้ ไม่มีใครสนใจถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับ Low และกิจการร่วมทุนครั้งนี้ ที่ถือเป็นความสำเร็จเป็นรูปธรรมครั้งแรกของ Low โปรดอย่าพลาดติดตามตอนต่อไปครับผม

–> อ่านตอนที่ 7 : Money Magic

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :Prologue *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***

Credit แหล่งข้อมูลบทความ

References Image : https://www.sarawakreport.org/iba/2015/07/akai-dai-jho-low-gambar-nusui-pasal-semua-utai/