David Baszucki ผู้ก่อตั้ง Roblox แพลตฟอร์มสร้างวีดีโอเกมที่ใหญ่ที่สุดในโลก

วีดีโอเกมเป็นหนึ่งในสิ่งที่คู่กับวัยเด็กของทุก ๆ คน แต่การสร้างเกมนั้นดูเหมือนจะเป็นวิธีการที่มีความซับซ้อน ซึ่งคงเป็นเรื่องดีถ้ามีแพลตฟอร์มที่ช่วยสร้างเกมด้วยวิธีง่าย ๆ ซึ่งนั่นเป็นจุดกำเนิดของ Roblox ที่ก่อตั้งโดย David Baszucki นักธุรกิจอินเทอร์เน็ตชาวอเมริกันในปี 2006

Baszucki เกิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม ปี 1963 ในประเทศแคนาดา เขาจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมปลายจากโรงเรียน อีเด็นแพรี ในรัฐ มินนิโซตา และได้เข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ในสาขา Computer Science และศึกษาต่อในปริญญาโทในด้านวิศวกรรมไฟฟ้า จนจบในปี 1985

เขาได้เริ่มต้นธุรกิจของตัวเองครั้งแรก หลังจากเรียนจบมา 4 ปี โดยในปี 1989 เขากับพี่ชายได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัทที่มีชื่อว่า ‘Knowledge Revolution’ โดยได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวแรกก็คือ Interactive Physics เป็นแอปพลิเคชั่นที่ช่วยให้ผู้ใช้เรียนรู้ฟิสิกส์

ถัดจากนั้นอีก 1 ปี ได้เปิดตัว ‘Working Model’ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชั่น อีกตัวที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ ฟิสิกส์เชิงกล ได้ และได้เริ่มสร้างแอปการศึกษาที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น จนในที่สุดก็ถูกซื้อกิจการโดยบริษัท MSC Software ในปี 1998

โดยหลังจากที่ถูกซื้อกิจการ Baszucki ได้เข้าร่วมกับ MSC Software ในฐานะรองประธานของบริษัท และอยู่ต่อที่ MSC อีกสองปี จนถึง ปี 2000 เขาก็ได้ออกมาเพื่อเริ่มต้นธุรกิจใหม่อีกครั้ง

โดยเขาได้ตั้งบริษัทด้านการลงทุนที่มีชื่อว่า Baszucki & Associates และเขายังได้ไปจัดรายการวิทยุที่มีชื่อว่า KSCO Radio Santa Cruz ในช่วงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึง กรกฏาคมปี 2003 อีกด้วย

Baszucki ได้รับแรงบันดาลใจจากความสำเร็จของการปฏิวัติในด้านความรู้และเรื่องของฟิสิกส์ที่เป็นที่นิยมเมื่อครั้งที่ประสบความสำเร็จกับ Knowledge Revolution ซึ่งนั่นเองทำให้เขาเริ่มโปรเจคใหม่ในปี 2004 โดย Baszucki ได้ทำการก่อตั้งบริษัท DynaBlocks ร่วมกับ Erik Cassel

Interactive Physics ต้นกำเนิดของ Roblox
Interactive Physics ต้นกำเนิดของ Roblox

ต่อมาในปี 2005 บริษัทได้เปลี่ยนโฉมให้กลายเป็น Roblox และได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ และได้ผลิตเครื่องมือสร้างเกมที่มีชื่อว่า Roblox Studio ที่อนุญาตให้คนทั่วไปสามารถสร้างเกมและสร้างประสบการณ์การเล่นเกมบนแพลตฟอร์มได้ ผู้ใช้ยังสามารถเล่นเกมที่สร้างโดยนักพัฒนาคนอื่น ๆ บนแพลตฟอร์ม ในปี 2007 บริษัท ได้เปิดตัวสมาชิกระดับพรีเมียมคือ Builders Club ซึ่งมีการเสนอคุณสมบัติพิเศษให้กับสมาชิกเหล่านี้

แพลตฟอร์มดังกล่าวกลายเป็นสถานที่สำหรับเรียนรู้และสร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมใหม่ ๆ สำหรับวัยรุ่นและเด็กส่วนใหญ่ที่มาใช้งานแพลตฟอร์มนั้นมีอายุต่ำกว่า 13 ปี โดยในปี 2009 บริษัท ได้ระดมทุนจำนวน 2.2 ล้านเหรียญในการระดมทุนรูปแบบคราวด์ฟันดิ้ง ในปี 2011 บริษัท ได้เป็นเจ้าภาพ Hack Week ซึ่งเป็นกิจกรรมสำหรับนักพัฒนาที่นักพัฒนาเหล่านี้สามารถนำเสนอความคิดนอกกรอบบนแพลตฟอร์มของ Roblox ได้

บริษัท ได้เปิดตัวสกุลเงินเสมือนจริงของตัวเองชื่อว่า Robux ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นสามารถที่จะใช้เพื่อซื้อเกมบนแพลตฟอร์มของ Roblox ได้

ในเดือนธันวาคม 2012 Roblox เปิดตัวแพลตฟอร์มเวอร์ชัน iOS รวมถึงมีแนวคิดในการพัฒนาแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนสกุลเงินระบบ Developer Exchange ซึ่งผู้พัฒนาสามารถแลกเปลี่ยนสกุลเงินเสมือน Robux ได้แบบเรียลไทม์

ในปี 2015 Roblox ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่และปรับปรุงรูปแบบการเล่มใหม่ ๆ สำหรับการพัฒนาเกม ‘Smooth Terrain’ หลังจากนั้นในปี 2016 บริษัทได้เปิดตัว Roblox VR สำหรับ Oculus Rift ที่สามารถใช้เล่นเกม 3D มากกว่าสิบล้านเกมบนแพลตฟอร์ม Roblox ได้

Roblox VR กับการนำเทคโนโลยี VR มาใช้กับเกม
Roblox VR กับการนำเทคโนโลยี VR มาใช้กับเกม

บริษัท ยังระดมทุนได้ถึง 92 ล้านดอลลาร์ในรอบการระดมทุนอีกครั้งนำโดย Meritech Capital Partners และ Index Ventures ในเดือนมีนาคม 2017

ในปี 2017 มีเหล่านักพัฒนาในแพลตฟอร์ม Roblox ทั้งหมด 2 ล้านคนและมีผู้เล่นมากกว่า 56 ล้านคนต่อเดือน สามารถทำรายได้ 30 ล้านเหรียญสหรัฐ แพลตฟอร์มดังกล่าวช่วยให้วัยรุ่นหลายคนสามารถหารายได้มาช่วยเหลือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในครอบครัวได้

ซึ่งมีนักพัฒนจำนวนมากที่ได้จ่ายค่าเล่าเรียนด้วยเงินที่หามาจากแพลตฟอร์มนี้ และนักพัฒนายังมีโอกาสที่จะทำเงินได้สูงถึงกว่า 50,000 ดอลลาร์ต่อเดือนผ่านทางแพลตฟอร์ม Roblox เรียกได้ว่าเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้และสร้างรายได้ไปในตัวเลยทีเดียวสำหรับแพลตฟอร์ม Roblox

ในปี 2016 และ 2017 Roblox ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดของอเมริกาจากการจัดอันดับของ Inc. 5000 นอกจากนี้ยังได้รับรางวัลจาก ‘สมาคมพัฒนาเศรษฐกิจ (SAMCEDA) Award of Excellence’ ในปี 2017 อีกด้วย

Baszucki ยังได้รับรางวัลจำนวนมากจากผลงานการประดิษฐ์ของเขารวมถึง ‘San Mateo Visionary Hero Award’ สำหรับการมีส่วนร่วมของ Roblox ในเรื่องการศึกษาและการส่งเสริมให้เด็ก ๆ ได้พัฒนาเรื่องการเขียนโปรแกรม และที่สำคัญเขายังได้รับการเสนอชื่อให้เป็นหนึ่งใน ‘100 ผู้ประกอบการที่น่าสนใจที่สุด’ โดย Goldman Sachs (2017-18) อีกด้วย ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมาก ๆ ของ David Baszucki ผู้ก่อตั้ง Roblox นั่นเองครับ

References : https://roblox.fandom.com/wiki/History_of_Roblox https://en.wikipedia.org/wiki/Roblox https://en.wikipedia.org/wiki/David_Baszucki https://venturebeat.com/2018/09/05/david-baszucki-interview-how-roblox-plans-to-outpace-the-growth-of-minecraft/

Geek Monday EP30 : World War III เมื่อเทคโนโลยีใหม่ ๆ กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดในการชี้ขาดชัยชนะของสงครามยุคใหม่

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ผู้นำการรบในอนาคต จะกลายมาเป็น AI ที่คอย วิเคราะห์แผนการรบที่ดีที่สุด ก่อนที่จะส่ง อาวุธ หรือ ทหารเข้าไปรบ จริง ๆ มันคงไม่เกิดเหตุการณ์แบบสงครามโลกครั้งที่สอง อย่างที่อ่าว omaha beach ในวัน D-Day ของสงครามโลกครั้งที่ 2  ซึ่งชัดเจนว่าเป็นการวางแผนการรบที่ผิดพลาดของ เหล่าเสนาธิการทหารฝ่ายพันธมิตร

การผิดพลาดดังกล่าวนั้น ทำให้เสียกำลังพลไปอย่างมากมาย ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ในอนาคตนั้น หากมีการวิเคราะห์ผ่าน AI หรือ Machine Learning  โดยการ Training Data ที่ดีมากพอ สุดท้าย Strategy ที่ดีที่สุดในการรบนั้น ก็ไม่ได้มาจากสมองมนุษย์อย่างเราๆ  แน่นอน นายพล AI จะเป็นคนสั่งการมนุษย์เองว่าให้รบยังไง ถึงจะชนะสงครามได้

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ

ฟังผ่าน Podbean : http://bit.ly/37QUbxb

ฟังผ่าน Apple Podcast : https://apple.co/2lEqPPg

ฟังผ่าน Google Podcast : http://bit.ly/35TFzuO

ฟังผ่าน Spotify : https://spoti.fi/35SKUTn

ฟังผ่าน Youtube : https://youtu.be/8Ie-bF8NBD0

References : https://sputniknews.com/military/201811231070067598-royal-navy-ships-artificial-intelligece/

Movie Review : Ford v Ferrari ใหญ่ชนยักษ์ ซิ่งทะลุไมล์

ถือเป็นหนึ่งในหนังที่ผมสนใจมาก ๆ เลยทีเดียวสำหรับ Ford v Ferrari ใหญ่ชนยักษ์ ซิ่งทะลุไมล์ ที่ได้นักแสดงสุดยอดขวัญใจของผมอย่าง คริสเตียน เบล มารับบทนำ ซึ่งแน่นอนว่า เนื่องจากมันเป็นเรื่องราวที่มาจากเรื่องจริง ทำให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

หนังถ่ายเป็นการถ่ายทอด จากเรื่องจริงที่สุดเหลือเชื่อ! โดยหนังเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์แอคชั่น-ชีวประวัติ “Ford v Ferrari” เรื่องจริงของการแข่งขันเพื่อชิงความเป็นที่หนึ่งของสองยักษ์ใหญ่แห่งวงการรถยนต์อย่าง ฟอร์ด (Ford) และเฟอร์รารี่ (Ferrari) ในการแข่งขันรถซิ่งระดับโลก เลอม็องส์ (Le Mans) เมื่อปี 1966

โดย Ford v Ferrari กำกับฯโดย เจมส์ แมนโกลด์ ที่นอกจากนี้ยังได้ร่วมเขียนบทภาพยนตร์กับ เจสัน เคลเลอร์, เจส บัตเตอร์เวิร์ธ และจอห์น-เฮนรี่ บัตเตอร์เวิร์ธ โดยได้ คริสเตียน เบล และแมตต์ เดมอน มารับบทนำ พร้อมด้วยนักแสดงอีกคับคั่ง อาทิ จอน เบิร์นธัล, ไคทริโอน่า เบลฟ์, เทรซี่ เลตต์, จอช ลูคัส เป็นต้น เรียกได้ว่าแค่ชื่อนักแสดงก็น่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียว

ต้องบอกว่า หนังถ่ายทอดเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงได้น่าสนใจมาก ๆ แม้หนังจะยาวมาก ๆ กว่า 2 ชม. ครึ่ง แต่ต้องบอกว่า เป็นการดำเนินเรื่องที่ไม่มีจุดที่น่าเบื่อเลย ซึ่งปรกติหนังที่ทำจากเรื่องจริงนั้น จะมีจุดอ่อนอยู่ที่บทที่อาจจะพลิกแพลง อะไรมากไม่ได้นัก

แต่กับเรื่องนี้ ต้องบอกว่า คุณแทบจะุล้นไปหนังในตลอด 2 ชั่วโมงครึ่ง แบบไม่ได้พัก ตั้งแต่ต้นจนจบ ที่สำคัญมันได้ถ่ายทอดให้เห็นถึงจิตวิญญาณของชาวอเมริกันแท้ ๆ หากเขาคิดจะสู้กับใคร นั้น เขาไม่เคยแพ้อย่างแน่นอน ซึ่งยากที่ประเทศอื่นจะเลียนแบบได้

มันเป็นเรื่องของเกียรติ และ ศักดิ์ศรี ระหว่างสองค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ อย่าง Ford และ Ferrari ที่มีเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของผู้ก่อตั้งอย่าง Henry Ford และ Enzo Ferrari เป็นเดิมพัน ซึ่งเรียกได้ว่า มีฉากดราม่า ซึ่งเกี่ยวพันกับครอบครัวตระกูล Ford และ Ferrari เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั่นเอง

แต่สำหรับความสุดยอดที่สุดจากหนังเรื่องนี้ ต้องยกให้การแสดงของ คริสเตียน เบล ดาราขวัญใจของผมเลยทีเดียว ที่ต้องบอกว่า ถ่ายทอดการแสดงออกมาได้สุดยอดมาก ๆ เบลเป็นดาราอีกหนึ่งคนที่ เมื่อเข้าไปรับบทใด ๆ เขาจะเข้าถึงตัวละครนั้นได้อย่างสมจริงมาก ๆ แม้กระทั่งลักษณะทางกายภาพ ที่เขาก็ต้องลดน้ำหนักอีกครั้งเพื่อรับบทนี้ ให้เหมือนตัวตนของ เคน ไมลส์ ให้มากที่สุด

และการโคจรมาพบกันกับ แมตต์ เดมอน นั้นถือเป็นอีกคู่หนึ่งที่แสดงได้อย่างลงตัวมาก ๆ เรียกได้ว่า เป็นความสัมพันธ์แบบทั้งรัก ทั้งเกลียด ของเพื่อน ได้อย่างน่าสนใจเลยทีเดียว

ต้องบอกว่า แม้หนังจะสร้างจากเรื่องจริง แต่มันเป็นเรื่องจริง ที่ดำเนินเรื่องได้น่าสนใจ และมีการถ่ายทอดออกมาได้ดีมาก ๆ ทั้งเรื่องของบท และตัวละครต่าง ๆ ในเรื่อง ที่บทบาทสำคัญของทีมงานของ Ford ในหนังเรื่องนี้

สรุปหนังเรื่องนี้ สะท้อนอะไรหลาย ๆ อย่างของชนชาติอเมริกัน ที่การที่เขาก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งของโลกในหลาย ๆ เรื่องนั้น ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เพราะ DNA นักสู้ของพวกเขาที่เมื่อต้องออกไปรบ ไม่ว่าศึกใดก็ตาม เขาก็พร้อมที่จะเอาชนะเสมอไม่ว่าจะเป็นสงครามจริง ๆ หรือสงครามธุรกิจ อย่างที่เราได้เห็นความยิ่งใหญ่ของเขาในปัจจุบันนั่นเองครับ