Facebook AI กับการช่วยเลือกสิ่งที่คุณควรจะสวมใส่

เมื่อคุณคิดว่านักวิจัยได้ค้นพบการใช้งานที่แปลกประหลาดที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้สำหรับการใช้งานเทคโนโลยี Neural Network ซึ่งพบว่าในขณะนี้ มีการนำเอา AI ใหม่ ๆ ของ Facebook ไปสู่วงการแฟชั่น

และมันเกิดขึ้นแล้ว เมื่อ ตอนนี้ AI ตัวใหม่ของ Facebook เป็นโปรแกรมที่จะช่วยให้คุณกลายเป็น Fashionista ตัวยง

Facebook ได้ทำการทดลองฝึกอบรมในงานด้านแฟชั่น โดยได้มีการใช้ภาพหลายพันชุดที่ถือว่าเป็นรูปแบบ style ของชุดที่ “ทันสมัย” ที่สุดและให้ AI ทำการ Training ผ่านข้อมูลเหล่านี้ 

ซึ่งสิ่งที่เป็นนวัตกรรมใหม่เกี่ยวกับ AI ของ Facebook ในด้าน Fashion ก็คือ มันมีข้อเสนอแนะทางด้านการแต่งตัวที่ถือว่ามีความละเอียด ในเรื่อง style ของการแต่งตัวที่เหมาะกับคุณที่สุด

เมื่อ AI ใหม่ของ Facebook บุกวงการ Fashion
เมื่อ AI ใหม่ของ Facebook บุกวงการ Fashion

ตัวอย่างเช่น จะไม่แนะนำให้คุณออกไปซื้อชุดใหม่ทั้งหมด แต่จะแนะนำให้สลับหนึ่งหรือสองรายการของชุดที่คุณมีอยู่ และอาจมีข้อเสนอแนะที่ละเอียดยิ่งขึ้น เช่น แนะนำให้คุณสวมเสื้อหรือ พับแขนเสื้อ จะทำให้คุณดูดีกว่า 

นอกจากนี้ AI ตัวใหม่ดังกล่าวนั้นยังใช้เวลากับงานที่เป็นงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์สูงมากอย่างงานด้าน Fashion  โดย บริษัทได้จินตนาการถึง AI ในวันหนึ่งที่จะช่วยนักออกแบบแฟชั่นในการสร้างรูปลักษณ์ใหม่ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ผ่านความฉลาดของการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยี AI นั่นเอง

References : https://www.engadget.com

Geek Monday EP20 : 3D Printing Organs กับอนาคตการปลูกถ่ายอวัยวะ

ความสำเร็จใหม่ในการทดลองพิมพ์เนื้อเยื่อหลอดเลือดจากเซลล์ที่มีชีวิต กำลังพัฒนาไปสู่การพิมพ์เนื้อเยื่อแบบ 3 มิติ โดยใช้เทคโนโลยี 3D Printing และในที่สุดมันจะนำไปสู่ความสามารถในการผลิตอวัยวะจากตัวอย่างเซลล์ขนาดเล็กเพื่อปลูกถ่ายในมนุษย์

ตัวอย่างงานวิจัยในเรื่อง การพิมพ์ 3 มิติ ของหัวใจมนุษย์ขนาดเล็ก ซึ่งหัวใจเล็ก ๆ ดังกล่าวมีโครงสร้างเช่นเดียวกับหัวใจขนาดเต็มที่มีอยู่ในร่างกายมนุษย์ และกำลังเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันเพื่อสร้างหัวใจเทียมที่มีศักยภาพสูงสำหรับการปลูกถ่ายให้กับมนุษย์ในอนาคต

และการใช้เทคโนโลยี 3D Printing กับความคิดใหม่ ๆ ซึ่งท้ายที่สุดจะผลิตสมองเทียมหรือไตเทียม เพื่อใช้ในการจัดการกับความต้องการจากผู้ป่วยทั่วโลกได้อย่างแน่นอน

และบางทีใน 10 ปีข้างหน้านั้นอาจมีเครื่องพิมพ์อวัยวะในโรงพยาบาลที่ดีที่สุดทั่วโลกและขั้นตอนการปลูกถ่ายด้วยอวัยวะที่สร้างขึ้นจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เหล่านี้ จะดำเนินเป็นประจำจนกลายเป็นเรื่องปรกติไปในที่สุดในอนาคตนั่นเองครับ

เลือกฟังกันได้เลยนะครับ อย่าลืมกด Follow ติดตาม PodCast ช่อง Geek Forever’s Podcast ของผมกันด้วยนะครับ    

ฟังผ่าน Podbean : 
https://tharadhol.podbean.com/e/geek-monday-ep20-3d-printing-organs-transplant/

ฟังผ่าน Google Podcast : 
https://podcasts.google.com/?feed=aHR0cHM6Ly90aGFyYWRob2wucG9kYmVhbi5jb20vZmVlZC54bWw&episode=dGhhcmFkaG9sLnBvZGJlYW4uY29tL2dlZWstbW9uZGF5LWVwMjAtM2QtcHJpbnRpbmctb3JnYW5zLXRyYW5zcGxhbnQtOWE0ZWNjNjQwNmZhN2QyNmYwYzJjMTJmMzY3NDI3YmI

ฟังผ่าน Spotify : 
https://open.spotify.com/episode/6C2TtrT50NKnfVax3rXOa6

ฟังผ่าน Youtube :
https://youtu.be/aiBjY3YzApo

VR กับการจำลองความหลอนของคนติดยาเสพติด

เมื่อเรื่องราวที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดที่สุดกับวัฒนธรรมต่อต้านในยุค 60 อย่าง สารหลอนประสาทเช่น LSD และเห็ดวิเศษ/เห็ดเมา เริ่มเข้ามาสู่วิทยาศาสตร์กระแสหลัก ศูนย์การวิจัยที่กำลังเปิดตัวทั่วโลกและการศึกษาที่นับไม่ถ้วนดูเหมือนว่าจะ ลดทอนความได้เปรียบที่เป็นไปได้ของการทำให้สิ่งเสพติดเหล่านี้สร้างประสบการณ์ประสาทหลอนให้กับเหล่าผู้เสพ

ตอนนี้ NewAtlas ได้ตีพิมพ์เรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับขอบเขตใหม่ของการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องประสาทหลอน: นักเทคโนโลยีที่พยายามสร้าง “การเดินทาง” เหล่านี้โดยใช้เทคโนโลยี Virtual Reality

รายละเอียดเรื่องประสบการณ์ VR ออกแบบมาเพื่อทำให้เกิดความรู้สึกของการเดินทางg-เข้าสู่ภาวะประสาทหลอน ซึ่งนำโดยผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ฝรั่งเศส Jan Kounen ที่ได้สร้าง ประสบการณ์ VR ใน “ Ayahuasca ” ศิลปิน ซานเดอร์ บอส ในผลงาน Visionarium “

ในขณะที่ผลงานเหล่านี้ได้สร้างภาพบางส่วนได้อย่างไม่น่าเชื่ออย่างไรก็ตามพวกเขาขาดการทำซ้ำในด้านอื่น ๆ ของประสบการณ์ประสาทหลอนของการติดยาเสพติดจริง ๆ

“ สำหรับประสบการณ์ที่รุนแรงกว่านี้ เรายังไม่มีข้อมูลใด ๆ ในการจำลองสิ่งเหล่านั้นด้วย VR ในขณะนี้ ” Keisuke Suzuki หนึ่งในนักวิจัยของเครื่องประสาทหลอนกล่าวกับ Atlas

ถึงกระนั้น Suzuki ก็หวังว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในอนาคต

“ซึ่งสิ่งเหล่านี้นั้นจะมาเปลี่ยนแปลงของจิตสำนึกของเรา โดยอาจจะต้องรวมเอาเทคโนโลยี VR กับ เทคนิคด้านประสาทวิทยาอื่น ๆ รวมถึง เทคโนโลยีอื่น ๆ ให้สมจริงขึ้น เช่น การเชื่อมต่อสมองกับคอมพิวเตอร์” เขาบอกกับ NewAtlas  “ แต่มันยังคงต้องใช้เวลาและความพยายามในการไปให้ถึงระดับที่จำลองทุกอย่างได้เหมือนจริงสำหรับความหลอนของการติดยาเสพติดนั่นเอง”

References : https://newatlas.com