Elon Musk : มนุษย์เราสื่อสารช้าเกินไปสำหรับ AI ในอนาคตที่จะเข้าใจ

มีอุปสรรคทางภาษาที่สำคัญระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ ซึ่งแน่นอนการที่มนุษย์จะสื่อสารกับคอมพิวเตอร์นั้นทำได้โดยการสื่อสารผ่านภาษาทั้งในรูปแบบของข้อความและรูปภาพ ซึ่ง อินพุตทั้งหมดนั้นช้ากว่า การสื่อสารโดยตรงระหว่างมนุษย์ด้วยกันเอง

แต่กับคอมพิวเตอร์นั้นมีความสามารถในการรับรู้ในเวลาที่แตกต่างจากมนุษย์เป็นอย่างมาก นั่นเป็นเพราะความสามารถในการประมวลผลข้อมูลด้วยความเร็วสูงกว่าที่มนุษย์ทำได้นั่นเอง

และเมื่อนักวิทยาศาสตร์สามารถสร้าง AI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถเหนือมนุษย์ขึ้นมาได้สำเร็จ การสื่อสารระหว่างมนุษย์และเครื่องจักรอาจะต้องเลิกใช้วิธีการแบบเดิม ๆ ตามที่ Elon Musk ได้กล่าวไว้

ปัญหาเหล่านี้นั้น Musk เชื่อว่ามาจากความเร็วที่แตกต่างกันระหว่างมนุษย์และคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ  ซึ่งด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในปัจจุบันนั้น เหล่าวิศวกรคอมพิวเตอร์ได้สร้างตัวประมวลผลที่ทำงานด้วยความเร็วที่รวดเร็วกว่าในอดีตเป็นอย่างมาก

แต่ในทางตรงกันข้ามสมองมนุษย์ของเรากลับทำงานช้าลงมาก  ซึ่งด้วยความแตกต่างดังกล่าวนั้น Elon Musk คิดว่ามันสามารถที่จะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และ AI ในอนาคตได้

Musk อธิบายว่าคอมพิวเตอร์สามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วกว่ามนุษย์มากเพียงใดในระหว่างการนำเสนอเกี่ยวกับ AI เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามรายงานของ Business Insider

“ สำหรับคอมพิวเตอร์…สามารถประมวลผลข้อมูลในระดับมิลลิวินาที และสามารถทำงานได้อย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย แต่สำหรับมนุษย์ มันแทบจะไม่มีอะไรไปสู้คอมพิวเตอร์ได้เลย” Musk กล่าว 

โดย Musk อ้างว่า Neuralink ซึ่งเป็น บริษัทที่สร้างส่วนติดต่อของสมองกับคอมพิวเตอร์ของเขาอาจจะช่วยเราในการสื่อสารกับ AI ขั้นสูงในอนาคตได้ 

“คอมพิวเตอร์ในอนาคตก็จะอาจจะใจร้อนได้ ถ้าไม่มีอะไรตอบสนองมันได้รวดเร็วเพียงพอ” Musk กล่าวกับ Business Insider “ คอมพิวเตอร์มองการคุยกับเราเหมือนกับการพูดคุยกับต้นไม้ – แต่ไม่ใช่เลยนั่นคือมนุษย์ต่างหาก”

References : 
https://www.businessinsider.com
https://strangesounds.org/wp-content/uploads/2019/07/neuralink-elon-musk-wants-to-read-your-mind.jpg

Tesco Homeplus กับการยกร้านค้าเสมือนจริงมาไว้ในสถานีรถไฟใต้ดิน

ผู้คนมากมายต่างเคยชินกับการหยิบสินค้าจากไอคอนเล็ก ๆ บนหน้าจอโทรศัพท์ของพวกเขาเพื่อทำการสั่งซื้อสินค้า online และรอการส่งมอบหลังจากนั้นในอีกไม่กี่วัน แม้ประสบการณ์ชอปปิ้ง Online ดังกล่าวมันจะใช้งานได้ดีสำหรับสินค้าประเภท หนังสือของเล่นหรืออุปกรณ์เสริมของมือถือ

แต่สินค้าทั่วไปตามร้านขายของชำ เครื่องใช้สำนักงาน หรือของกระจุกกระจิกต่าง ๆ ที่เราต้องการในทันทีนั้น ประสบการณ์ชอปปิ้ง Online แบบเดิม ๆ อาจจะไม่ตอบโจทย์เลยเสียทีเดียว

Homeplus  (เป็น บริษัท ในเครือของเทสโก้ยักษ์ค้าปลีกในสหราชอาณาจักร) ผู้ค้าปลีกเกาหลีได้คิดค้นโซลูชันใหม่ในรูปแบบของร้านค้าเสมือนจริง โดยเฉพาะตู้ค้าปลีกที่มีภาพขนาดเท่าของจริงของผลิตภัณฑ์ที่วางขายจริง โดยจะมีการวางไว้ในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของผู้คนสูงเช่นสถานีรถไฟใต้ดิน ซึ่งลูกค้าเป้าหมายจะใช้เวลาระหว่างรอคอยชอปปิ้งสิ่งที่พวกเขาต้องการเหล่านี้ได้ทันที

การแสดงผลขนาดเต็มและเพิ่มส่วนของรหัส QR Code ที่สามารถสแกนได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้แอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน Homeplus ซึ่งจะส่งคำสั่งซื้อสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เลือกไปยังโฮมพลัสในทันที

เพิ่มส่วน QR Code ให้สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
เพิ่มส่วน QR Code ให้สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น

จากนั้นลูกค้าจะกำหนดเวลาในการรับสินค้าและเลือกจุดหมายปลายทางที่ผลิตภัณฑ์จะถูกส่งไปยังบ้านหรือสำนักงานของพวกเขา การผสมผสานที่น่าทึ่งของเทคโนโลยีเสมือนจริงทำให้โฮมพลัสสามารถขายผลิตภัณฑ์ในหลาย ๆ สถานที่ได้

แม้แต่สินค้าที่เน่าเสียง่ายก็สามารถขายได้โดยไม่ต้องแช่แข็งที่ร้าน ซึ่งลูกค้าสามารถสแกนบาร์โค้ดจากผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่มี เพื่อส่งคำสั่งซื้อได้แบบทันที ลองนึกภาพความสามารถในการสั่งอาหารและเครื่องใช้สำนักงานของคุณใหม่ทันทีที่มันหมด ซึ่งให้ประสบการณ์ร้านค้าปลีกแบบใหม่นั่นเอง 

น่าแปลกที่การเพิ่มขึ้นของเหล่าร้านค้าเสมือนจริงได้ทำงานร่วมกับร้านค้าออนไลน์ของโฮมพลัสที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยรายได้จากร้านค้าเสมือนจริงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังช่วยเพิ่มยอดขายจากร้านค้าออนไลน์ของพวกเขาได้อีกทางหนึ่งด้วย

ในขณะที่การขายสินค้าที่เน่าเสียง่ายจากร้านค้าเสมือนจริง และการทดลองเพิ่มเติมที่รวมเอาเทคโนโลยีเช่นรหัส QR Code กับการแสดงแบบเสมือนจริงนั้นก็เพื่อสร้างประสบการณ์การช็อปปิ้งแบบไฮบริดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง

References : 
https://www.extremetech.com