DeepMind AI กับการทำนายการสูญเสียเฉียบพลันของไต

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอเมริกา ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโรงพยาบาลต้องเผชิญคือการคาดการณ์เมื่อผู้ป่วยที่อ่อนแอและเสี่ยงต่อการเสียชีวิตแบบเฉียบพลัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของข้อมูลสุขภาพ และเป็นข้อมูลที่กว้างเกินไปสำหรับมนุษย์ที่จะตรวจสอบสิ่งเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในบทความที่ตีพิมพ์ในวันพุธในวารสาร Nature นักวิจัยที่ DeepMind อธิบายวิธีแก้ปัญหาที่เป็นไปได้: ระบบ Machine Learning ที่สามารถบีบอัดข้อมูลนับแสนในบันทึกของข้อมูลสุขภาพในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยเตือนแพทย์ถึงวิกฤตที่ใกล้จะเกิดขึ้นก่อนที่มันจะเกิดขึ้นจริงกับผู้ป่วย

เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของระบบนักวิจัยที่  DeepMind ในเมืองลอนดอน ใช้เพื่อคาดการณ์การโจมตีของการบาดเจ็บของไตเฉียบพลัน   ปัจจุบันจากข้อมูลพบว่าการทำงานของไตลดลงอย่างฉับพลันในผู้ป่วยหลายแสนคนในโรงพยาบาลทหารผ่านศึกทั่วสหรัฐอเมริกา และ พบว่า AI สามารถคาดการณ์ 90% ของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเหล่านี้ ที่จำเป็นต้องใช้การล้างไตโดยด่วนด้วยระยะเวลาไม่เกิน 48 ชั่วโมง เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วย

แต่แม้ระบบนั้นจะยังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบอยู่:  มีการแจ้งเตือนที่ถูกต้องทุกครั้ง เมื่อใช้กับผู้ป่วยที่การบาดเจ็บรุนแรงน้อย โดยระบบจะมีประสิทธิภาพสูงกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับแบบจำลองที่ใช้ในการประเมินความเป็นไปได้ของการบาดเจ็บของไตในโรงพยาบาลแบบทั่วไป ซึ่งการใช้เทคโนโลยีมาช่วยดังกล่าวนี้ จะเน้นความสามารถในการให้คำเตือนที่แม่นยำยิ่งขึ้นเพื่อให้แพทย์สามารถป้องกันอันตรายได้ทันท่วงที

“ ลักษณะการทำนายของสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นน่าประทับใจมาก” ดร. โจ บองเนอร์หัวหน้าแผนกเวชศาสตร์ไตที่บริกแฮมและโรงพยาบาลสตรีในบอสตัน  เขากล่าวว่า การแจ้งเตือนการบาดเจ็บของไตเฉียบพลันในระยะเวลา 48 ชั่วโมง  เมื่อการทำงานของไตลดลง และเหล่าของเสียที่สะสมอยู่ในเลือดนั้น อาจทำให้แพทย์สามารถตอบสนองโดยการควบคุมความดันโลหิตและลดการใช้ยาพิษที่อาจทำให้อวัยวะสูญเสียการทำงานได้ 

เขายังกล่าวอีกว่า“ เทคโนโลยีเหล่านี้จะนำไปใช้กับผู้ป่วยอื่น ๆ ในสถานที่อื่นนอกโรงพยาบาลทหารผ่านศึกหรือไม่”

นักวิจัย DeepMind ย้ำว่าระบบของพวกเขายังคงต้องได้รับการตรวจสอบในการดูแลทางคลินิกเพื่อให้แพทย์สามารถประเมินผลกระทบที่มีต่อผู้ป่วยได้อย่างเต็มที่ แต่พวกเขากล่าวว่าความสำเร็จในระยะแรกของวิธีการของพวกเขาชี้ไปสู่อนาคตซึ่งอัลกอริธึมสามารถคาดการณ์ได้จากข้อมูลบันทึกสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยทำนายวิกฤตการณ์ที่จะเกิดขึ้นในผู้ป่วยในโรงพยาบาล เช่น การเกิดโรคปอดบวม หัวใจวาย หรือภาวะติดเชื้อ ซึ่งเป็นภาวะที่เสี่ยงต่อการเสี่ยงชีวิตได้สูงมาก 

Deepmind ที่นำ AI มาใช้กับเทคโนโลยีทางการแพทย์
Deepmind ที่นำ AI มาใช้กับเทคโนโลยีทางการแพทย์

ในการศึกษาระบบ AI ได้รับการ Training จากข้อมูลจากผู้ป่วยมากกว่า 700,000 case ที่รักษาในโรงพยาบาลและคลินิกผู้ป่วยนอก มันทำนายความเป็นไปได้ของการบาดเจ็บของไตโดยมองหารูปแบบของจุดข้อมูลนับแสนที่อยู่ในบันทึกสุขภาพที่เป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์

แน่นอนว่ามันถูกออกแบบมาเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงในผู้ป่วยเมื่อเวลาผ่านไป ช่วยให้แพทย์คาดการณ์เพื่อปรับปรุงการรักษาอย่างต่อเนื่อง จากความน่าจะเป็นที่ผู้ป่วยจะได้รับบาดเจ็บจากภาวะไตเฉียบพลันภายใน 48 ชั่วโมง  ระบบยังสามารถระบุปัจจัยที่วิเคราะห์ข้อมูลมาจากข้อมูลสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยหาบทสรุปได้

นักวิจัย DeepMind กล่าวว่าขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบประสิทธิภาพของระบบในผู้ป่วยที่กว้างขึ้นและในสถานพยาบาลที่แตกต่างกัน อาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน ก่อนที่ AI จะสามารถนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ได้จริง ๆ 

References : 
https://www.statnews.com/2019/07/31/deepmind-artificial-intelligence-predicts-acute-kidney-injury/

Dog Mode กับฟังก์ชันความปลอดภัยสำหรับสุนัขในรถยนต์ Tesla

แผนการของ Tesla เพื่อให้สุนัขปลอดภัยในขณะที่เจ้าของกำลังออกจากรถไปทำธุระ ปล่อยให้เจ้าสุนัขตัวโปรดต้องอยู่ในรถ ซึ่งมีข้อบกพร่องที่เป็นอันตรายเป็นอย่างมาก  แต่โชคดีที่ บริษัทกำลังแก้ไขมันให้ปลอดภัยกับสุนัขมากที่สุด

ในเดือนกุมภาพันธ์เทสลาได้เพิ่มฟีเจอร์ Autopilot แบบใหม่ที่เรียกว่า“ Dog Mode ” ให้กับรถยนต์ของตน เมื่อเปิดใช้งานการตั้งค่าจะช่วยให้ผู้ขับขี่จอดรถของพวกเขา แต่ให้เครื่องปรับอากาศทำงานต่อไป  โดยเป็นแนวความคิดที่ว่าพวกเขาสามารถปล่อยให้สุนัข อยู่ในยานพาหนะได้อย่างปลอดภัยหากพวกเขาต้องการก้าวออกทำธุระข้างนอกในเวลาชั่วขณะ

ข้อความบนจอแสดงผลของคอนโซลกลาง จะสังเกตเห็นอุณหภูมิในรถยนต์ได้ ดังนั้นคนที่เดินผ่านไปผ่านมาบริเวณจะได้รู้ว่าสุนัขนั้นปลอดภัยที่อยู่ในยานพาหนะของ Tesla นั่นเอง

แต่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ราห์อูล ซูด เจ้าของเทสลาได้ทวีตข้อความที่แจ้งไปยังซีอีโอของเทสลา อย่าง อีลอนมัสค์ เพื่อแจ้งให้เขาทราบถึงข้อบกพร่องที่ร้ายแรงในฟีเจอร์นี้ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้

“ วันนี้ฉันใช้ “Dog Mode” และโชคดีที่ฉันได้เปิดค้างแอพไว้ เพราะความกลัว เนื่องจากรถของฉันมีอุณหภูมิอยู่ที่ 85 องศา และกำลังไต่ขึ้นไปเรื่อย ๆ !” ราห์อูล ซูด  ได้รายงานไปใน Twitter “  Dog Mode นั้นใช้งานได้เฉพาะในแบบอัตโนมัติ แต่หากคุณตั้งค่าพัดลมด้วยตนเองและปิดเครื่อง AC ไว้มันจะไม่ทำงานตามปรกติ “

Musk ตอบกลับอย่างรวดเร็วต่อทวีตของ ซูด ทำให้เขารู้ว่า Tesla จะต้องทำการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างรวดเร็วที่สุด  แต่อย่างน้อยตอนนี้ใครก็ตามที่วางแผนจะทิ้งสัตว์เลี้ยงไว้ใน Tesla ในขณะที่จะออกไปธุระข้างนอกนั้น จะต้องตรวจสอบอีกครั้งว่าพวกเขาจะไม่เปลี่ยนความเร็วพัดลมของรถด้วยตนเอง เพราะอาจจะเกิดภัยร้ายกับเจ้าสุนัขตัวน้อยของท่านได้

References : 
https://www.engadget.com/2019/08/01/tesla-fix-dog-mode/