แม้จะดูเหมือนทำธุรกิจที่แตกต่างกัน โดยพื้นฐานทางเทคโนโลยีของทั้งสองบริษัทที่แตกต่างกันระหว่าง Microsoft และ Google ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วนั้นมันไม่ได้เป็นการต่อสู้ด้านการตลาด , web browser หรือ ระบบปฏิบัติการ ซึ่งในช่วงแรกของการแข่งขันนั้น ทั้งคู่ทำธุรกิจที่แตกต่างกัน
แต่การเติบโตอย่างรวดเร็วของ Google และการค้นพบเครื่องจักรทำเงินอย่าง Search Engine นั้น มันทำให้ความต้องการด้านทรัพยากรบุคคลของ Google สูงขึ้นเป็นเงาตามตัว สงครามระหว่าง Microsoft และ Google จึงเป็นการดึงดูด และ รักษา เหล่าวิศวกรยอดอัจฉริยะทางด้านเทคโนโลยีที่เก่งที่สุดไว้กับตนนั่นเอง
ในปี 2005 นั้น Google ได้เริ่มรุกคืบเข้าสู่ฐานบัญชาการหลักของ Microsoft ที่รัฐวอชิงตัน ในเมืองซีแอตเติล โดยการเปิดสำนักงานแห่งใหม่ ไม่ไกลจากสำนักงานใหญ่ของ Microsoft
Google กำลังทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นคู่แข่งทีน่ากลัวของ Microsoft แม้จะเป็นบริษัทน้องใหม่ที่ก่อตั้งเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น ตอนนั้นราคาหุ้นของ Google ขึ้นไปสูงถึง 250 เหรียญ ทำให้มูลค่ากิจการเพิ่มขึ้นสูงถึง 7 หมื่นล้านเหรียญ และกำลังกลายเป็นบริษัทที่น่าดึงดูดใจของเหล่านักศึกษาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ที่อยากจะเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
แม้ดูเหมือน Microsoft นั้นจะเป็นบริษัที่ใหญ่กว่า และมีเงินและทรัพยากรที่มากกว่าเป็นอย่างมาก แต่ CEO ของ Google อย่าง เอริก ชมิดต์นั้น มองว่า Microsoft ที่มีรากเหง้าจากมรดกของ บิลล์ เกตส์ กำลังถูกท้าทายจากการปฏิวัติอินเทอร์เน็ตที่เกิดขึ้น
มันได้ทำให้ Microsoft กลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่เริ่มมีความหมายน้อยลงเรื่อย ๆ และในทางตรงกันข้าม Google กำลังทวีความสำคัญต่อโลกยุคใหม่ขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านการเติบโตอย่างรวดเร็วของอินเทอร์เน็ต
ตอนนี้สื่อทั้งหลายเริ่มกล่าวถึง Google มากขึ้นเรื่อย ๆ ถึงกับกล่าวว่า Google นั้นจะเข้ามาแทนที่ Microsoft เพื่อก้าวเป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์ เทคโนโลยี และ นวัตกรรม ที่ Google นั้นผลิตออกมาอย่างต่อเนื่อง
และมันเป็นเวลาเนิ่นนานแล้วตั้งแต่ปี 1998 ถึง ปี 2005 ที่หุ้นของ Microsoft นั้นแทบจะไม่เขยิบไปไหน แน่นิ่งอยู่ในตลาดหุ้นมาเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว Microsoft แทบจะไม่ได้ออกนวัตกรรมใหม่ใด ๆ ออกมาเลย พื้นฐานหลักของรายได้ Microsoft ยังมาจากระบบปฏิบัติการ Windows และชุดโปรแกรมสำนักงานอย่าง Microsoft Offices เพียงเท่านั้น
แม้ Microsoft พยายามทำลาย Google ด้วยเทคนิคแบบเดิม ๆ การออกผลิตภัณฑ์อย่าง MSN Search ออกสู่ตลาดไม่ได้สร้างความประทับใจให้ผู้ใช้เลยเสียด้วยซ้ำ แต่ทว่า Microsoft เป็นคนคอนโทรลระบบปฏิบัติการหลักอย่าง Windows
บิลล์ เกตส์ จึงคิดจะใช้แผนการที่เคยโค่น NetScape ได้สำเร็จ นั่นก็คือ การติดตั้งโปรแกรมค้นใน Windows รุ่นถัดไปซึ่งก็คือ Windows Vista ซึ่งเกตส์ วางแผนที่จะสร้างโปรแกรมการค้นหาที่ใช้งานง่ายที่สุด ฝังไว้ในระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเป็นหน้าต่างเพื่อเปิดสู่โลก Internet ของผู้ใช้งานแทบจะทุกคน
แต่เนื่องด้วยองค์กรที่เริ่มใหญ่ เทอะทะ ทำให้เริ่มขาดการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ออกมา แถมยังไม่มีผู้เชี่ยวชาญในการสร้างนวัตกรรมในการค้นข้อมูล ซึ่งขณะนั้น Google ได้พัฒนาไปไกลมาก ๆ แล้ว แถมวิศวกรรุ่นใหม่ ๆ ส่วนใหญ่เลือกที่จะทำการกับ Google ที่ดู Cool กว่าองค์กรยักษ์ใหญ่ที่คลานต้วมเตี้ยมอย่าง Microsoft
Google นั้นแตกต่างจากคู่แข่งที่ Microsoft เคยเจอและเคยบดขยี้มาอย่างสิ้นเชิง Google ได้ดึงดูดผู้ใช้คอมพิวเตอร์ จำนวนนับล้าน ๆ คนทั่วโลกด้วยสถาปัตยกรรมที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของ อินเทอร์เน็ต
ความแตกต่างอีกอย่างที่ชัดเจนคือ Google มุ่งเน้นที่จะให้ใช้งานบริการของตนเองแบบฟรี ๆ และยังไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆในการจำหน่ายและทำการตลาดแบบที่ Microsoft ทำ แถมอาวุธเด็ดของ Microsoft ที่เคยบดขยี้ NetScape อย่าง Internet Exproler นั้น ตอนนี้ได้ถูก Web Browser หน้าใหม่อย่าง Firefox ที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก Google และมีโปรแกรมค้นหาของ Google ติดตั้งไว้เป็น Default ด้วย
Google ก็ได้เริ่มแผนการใหม่ในการโจมตี Microsoft โดยตรงด้วยการเริ่มหาเหล่าวิศวกรที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบระบบปฏิบัติการ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมของ Microsoft มากกว่าจะเป็น Google
Google เริ่มจะไม่ได้สนใจแค่โปรแกรมค้นหาเพียงแต่อย่างเดียวอีกต่อไป กำลังรุกไล่ไปยังส่วนอื่น ๆ ของ ซอฟต์แวร์ ที่ดูมีแนวโน้มที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานออนไลน์ได้บนอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้สามารถที่จะเขียน โพสต์ แลกเปลี่ยน และพิมพ์เอกสารได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้ระบบปฏิบัติการ Windows และ ชุดโปรแกรมเอกสารอย่าง Microsoft Office อีกต่อไป ซึ่งนั่นคือฐานที่มั่นที่แข่งแกร่งที่สุดของ Microsoft นั่นเอง
Credit Image : dazeinfo.com
–> อ่านตอนที่ 12 : China Syndrome
<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :When Larry Met Sergey *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***