ประวัติ Google ตอนที่ 7 : Global Goooogling

เข้าสู่ปึ 2003 แต่ละวันจะมีค้นหาข้อมูลด้วยภาษาของตนเองนับสิบ ๆ ล้านครั้งต่อวัน โดย Google สามารถรองรับการใช้งานได้กว่า 100 ภาษา เหล่าผู้คนทั่วโลกต่างใช้ Google ในชีวิตประจำวัน ใช้งานค้นหาทุกอย่างใน Google ตั้งแต่เรื่องพื้นฐาน อย่างการทำอาหาร เรื่องที่อยู่อาศัย ไปจนถึง การค้นหาค้นคว้าเรื่องการศึกษา ความบันเทิง รวมถึงเรื่องเพศ ก็ตาม

นักธุรกิจ นักลงทุนทั่วโลก รวมถึงเหล่าทนายความของพวกเขา ต่างใช้ Google ในการหาข้อมูลของคู่ค้าก่อนเจรจาการค้าครั้งสำคัญอยู่เสมอ เหล่านักเขียนหนังสือ ต่างค้นหาข้อมูลต่าง ๆ รวมถึงข้อเท็จจริงโดยใช้ Google

แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่รัฐบาล ก็ยังใช้ Google ในการค้นหาเอกสารต่าง ๆ ด้วยตัวเองแทนใช้ผู้ช่วยเหมือนในอดีต วัยรุ่นผู้อยากรู้เนื้อเพลงยอดนิยม ก็แค่ค้นหา จากเนื้อเพลงบางส่วนได้จาก Google แม้กระทั่งสายลับ CIA ยังถึงกับใช้ Google ในการแกะรอยผู้ก่อการร้าย

การพัฒนาซอฟต์แวร์ก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว วิศวกรไม่ต้องไปนั่งหาข้อมูลในห้องสมุดเหมือนในอดีตอีกต่อไป ปัญหาทางคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะปัญหาเรื่อง Bug ต่าง ๆ สามารถค้นหาต้นตอได้ผ่าน Google 

คนป่วยใช้ Google ค้นหาโรคจากอาการของตน เหล่านักกีฬาค้นหาอุปกรณ์กีฬา หรือแม้กระทั่งตารางการแข่งขันก็สามารถหาได้จาก Google 

การท่องเที่ยวก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เดิมที่ต้องใช้หนังสือท่องเที่ยวเล่มหนาเต๊อะ แต่ตอนนี้สามารถวางแผนการท่องเที่ยวได้ผ่านการค้นหาข้อมูลสถานที่ต่างๆ  ผ่าน Google การท่องไปในโลกกว้างนั้นไม่ได้เป็นเรื่องยากอีกต่อไป แม้จะเข้าถึงยากเพียงใด ก็สามารถค้นหาข้อมูลได้ด้วย Google

ใช้ Google หาข้อมูลท่องเที่ยว
ใช้ Google หาข้อมูลท่องเที่ยว

และ ตอนนี้ Google กำลังเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตของคนเกือบครึ่งค่อนโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ไม่เคยมีผลิตภัณฑ์แบรนด์ใดได้รับการยอมรับเร็วไปกว่า Google ชื่อบริษัทไม่เพียงแต่กลายเป็นคำศัพท์คำหนึ่งที่เก็บลงในพจนานุกรมภาษาอังกฤษ แต่ยังถูกเก็บในพจนานุกรมภาษาอื่นๆ  อีกหลายภาษา

สิ่งที่การเดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ตได้เริ่มทำไว้ในทศวรรษ 1960 และสิ่งที่โทรศัพท์ระหว่างประเทศราคาถูกกับ email สั่งสมขึ้นในระยะเวลาหลายปีมานี้ได้ถูกผลักเข้าสู่อาณาจักรใหม่โดย Google 

มันได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ปัจจัยในเรื่องถิ่นฐานที่อยู่ที่เคยเป็นอุปสรรคในอดีตต่อทั้งการสื่อสารและค้าขายสินค้าได้หมดไป ผู้คนสามารถติดต่อกับคนแปลกหน้าที่อยู่อีกซีกโลกหนึ่งจากบ้านหรือสำนักงานตัวเอง สามารถที่จะทำความรู้จักพวกเขาได้ผ่าน Google รวมถึงสามารถที่จะดูหน้าตารายละเอียดผ่านรูปภาพได้ผ่านเครื่องมือการค้นหาด้วยภาพ 

แต่มันไม่ได้มีเฉพาะด้านดีเพียงเท่านั้น การค้นหาด้วย Google นั้นทำให้เกิดคำถามมากมายต่อเรื่องของความเป็นส่วนตัว แม้ Google จะนำเอาเทคโนโลยีใหม่ในการสื่อสารมาให้เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งมันได้กลายเป็นการบังคับกลาย ๆ ให้คนยอมรับในพฤติกรรมใหม่ ๆ 

แต่ปัญหาคือ อะไรคือเส้นแบ่งระหว่างความเป็นส่วนตัวกับสิทธิเสรีภาพในการค้นหาข้อมูล และปัญหาของการที่ข้อมูลที่ค้นหามาได้นั้นเป็นข้อมูลที่ล้าสมัยไปแล้ว บางครั้งก็เป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง การเกิดขึ้นของข่าวลือที่ไม่น่าเชื่อถือ Google ก็ถือเป็นส่วนนึงที่ทำให้ข่าวเหล่านี้ถูกส่งต่อแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วใน อินเทอร์เน็ต

ส่งที่ไม่ชอบธรรมในสายตาของคนคือ รูปภาพเก่าที่ไม่น่าดูก็ไปปรากฏอยู่ในโปรแกรมค้นภาพของ Google ด้วย แถมมันยังลบออกยากเสียด้วย คนมีชื่อเสียงหลายคนหากมีมีการทำผิดพลาดในอดีตจึงเลือกที่จะเปลี่ยนชื่อไปเลย เพื่อไม่ให้ไปปรากฏในผลการค้นหาเมื่อค้นด้วยชื่อใหม่

เหล่านักเรียนนักศึกษาทุกวัย กลายเป็นผู้ใช้ Google กันอย่างหนัก แม้เหล่าอาจารย์ทั้งหลายจะพยายามห้ามไม่ให้ใช้ Google ในการค้นหาข้อมูลในขณะเรียนอยู่ แต่มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปของมนุษย์เรานับแต่ Google ได้ถือกำเนิดขึ้น

สถานบันต่าง ๆ นั้นแม้จะส่งเสริมการใช้ห้องสมุด หรือการพบปะพูดคุยกันแบบซึ่ง ๆ หน้าเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเสียมากกว่า ซึ่งมันเป็นวิธีการหาข้อมูลแบบดั้งเดิมที่ผ่านการทดสอบของเวลามาเนิ่นนานแล้ว

Google ได้เปลี่ยนวิถีการเรียนรู้ของมนษย์เราไปอย่างสิ้นเชิง
Google ได้เปลี่ยนวิถีการเรียนรู้ของมนษย์เราไปอย่างสิ้นเชิง

เหล่านักศึกษาก็มีความเห็นที่ต่างกันในเรื่องของคุณประโยชน์ของ Google ส่วนนึงมองว่ามันได้ทำให้เกิดความเกียจคร้านขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการขโมยคัดลอก ไอเดียของผู้อื่น ขัดขวางกระบวนการเรียนรู้แบบดั้งเดิม 

แต่อีกส่วนหนึ่งก็ชื่นชมมัน มันทำให้กระตุ้นให้เกิดการสำรวจเอกสารเบื้องต้นและบทวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา และช่วยลดช่องว่างความแตกต่างระหว่างนักศึกษา ส่งเสริมสิทธิความเท่าเทียมในเรื่องการค้นหาข้อมูล ไม่ว่ามหาวิทยาลัย จะใหญ่หรือจะเล็ก จะรวยหรือจะจน เพราะ Google มันได้สร้างประชาธิปไตยของการเข้าถึงข้อมูลให้เกิดขึ้นมากับโลกเรานั่นเอง

–> อ่านตอนที่ 8 : April Fools

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :When Larry Met Sergey *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***

Credit แหล่งข้อมูลบทความ