ประวัติ Google ตอนที่ 4 : Divide and Conquer

เมื่อ บริน และ เพจ ออกจากสแตนฟอร์ด อย่างเป็นทางการใน ฤดูใบไม้ร่วงปี 1998 พวกเขาก็ได้ก่อตั้ง Google Inc. อย่างเป็นทางการในวันที่ 7 กันยายน ปี 1998 และ ใช้โรงรถในบ้านเช่าหลังหนึ่งที่พวกเขาเช่าใช้เป็นทีทำการบริษัท เฉกเช่นที่บริษัทใหม่ ๆ ในซิลิกอนวัลเลย์ทำเป็นส่วนใหญ่

โปรแกรมค้นหาของพวกเขานั้นเป็นที่รู้จักอยู่แล้วในสแตนฟอร์ด มีการค้นหาผ่าน google ในแต่ละวันราว ๆ 100,000 รายการ ผู้คนต่างหลงรัก google ตั้งแต่แรกพบ ด้วยความเรียบง่าย สะอาด และ ทำงานได้อย่างรวดเร็วของมัน มันเป็นการเติบโตแบบปากต่อปากแทบจะทั้งสิ้น โดยที่พวกเขาแทบจะไม่ต้องเสียเงินโปรโมตอะไรเลยด้วยซ้ำ

เพียงไม่นานก็มีการค้นหากว่า 100,000 ครั้งต่อวัน
เพียงไม่นานก็มีการค้นหากว่า 100,000 ครั้งต่อวัน

บรินและเพจ เริ่มพยายามสร้างวัฒนธรรมการทำงานแบบใหม่ เพื่อดึงดูดคนหนุ่มสาวเข้ามาเปลี่ยนโลกกับเขา ด้วยทุนทรัพย์ที่จำกัดทำให้ไม่สามารถจ่ายค่าจ้างแพง ๆ ได้ แต่พวกเขาได้ สร้างวัฒนธรรมอย่าง การให้หุ้น อาหารและเครื่องดื่มที่ฟรี และ เป้าหมายที่ใหญ่มากของพวกเขาที่จะให้คนทั่วโลกนับล้านได้ใช้งาน google มันก็เป็นแรงดึงดูดสำคัญให้เหล่าคนรุ่นใหม่สนใจจะมาทำงานกับ google มากยิ่งขึ้น

ซึ่งเพจและบริน นั้นคิดอยู่เพียงอย่างเดียวที่จะพัฒนาบริการของเขาให้ดีที่สุด เรื่องการหาเงินนั้นพวกเขายังไม่สนใจใด  ๆด้วยซ้ำในช่วงแรกของการก่อตั้ง Google พวกเขาต้องการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด ซึ่งทำให้มีผู้ใช้งานใหม่ ๆ เข้ามามาก และเพื่อให้มั่นใจในความแม่นยำ ความเร็วในการตอบสนอง ทั้งสองก็ได้ลงทุนสร้างฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์เพิ่มด้วยเงินที่่หามาได้แทบจะทั้งหมด

แต่การเติบโตอย่างรวดเร็วของ Google นั้นมันทำให้เงินจากนักลงทุนหมดลงไปอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน แม้พวกเขาใช้ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลราคาถูกและได้สร้างซอฟท์แวร์เลียนแบบการทำงานของซุเปอร์คอมพิวเตอร์ขึ้นมาเองเสียด้วยซ้ำ แต่การเติบโตอย่างรวดเร็วจนการค้นหาเพิ่มขึ้นถึง 500,000 รายต่อวันนั้น มันทำให้แค่เพียงสิ้นปี 1998 เงินลงทุนกว่า 1 ล้านเหรียญทีได้จาก เบ็คโตลส์ไฮม์ รวมถึงเงินส่วนตัวของทั้งสองก็หมดลงไปในที่สุด

และการที่จะได้เงินทุนมหาศาลมาหล่อเลี้ยงธุรกิจตั้งไข่ของพวกเขา ที่ยังไม่มีโมเดลทำเงินที่ชัดเจนนั้น ก็ต้องกระโจนเข้าหาบริษัทลงทุนยักษ์ใหญ่อย่าง Kleiner Perkins Caufield & Byers (KPCB) ของ จอห์น โดเออร์ รวมถึง sequoia capital ของ ไมเคิล โมริตซ์ ซึ่งทั้งสองเป็นนักลงทุนระดับตำนานของ ซิลิกอน วัลเลย์

KPCB ของ จอห์น โดเออร์
KPCB ของ จอห์น โดเออร์

แม้ทั้งสองบริษัทลงทุน ยักษ์ใหญ่ จะมีเหล่าบริษัทสตาร์ทอัพมากมาย มาเสนอให้ลงทุน แต่ดูเหมือนว่า Google จะแตกต่างออกไปจากบริษัทอื่น ๆ บรินและเพจ เดินเข้าไปหาพร้อมเทคโนโลยีการค้นหาที่เหนือกว่าโปรแกรมอื่นที่ทั้ง โดเออร์ และ โมริตซ์ เคยพบเจอมาก่อน

และเอกลักษณ์ที่แตกต่าง ความฉลาดสุด ๆ ของทั้งสอง การมีสายเลือดของสแตนฟอร์ดที่เข้มข้น มีไฟอยู่เต็มเปี่ยม โมริตซ์ เคยรู้จักทั้งคู่ผ่านการลงทุนที่ Yahoo ในช่วงก่อนหน้า ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่ต่อยอดเพื่อเสริมบริการของ Yahoo ได้อย่างดีเยี่ยม

ไมเคิล โมริตซ์ แห่ง sequoia capital ต้องการ google มาเสริมธุรกิจที่เคยลงทุนไป
ไมเคิล โมริตซ์ แห่ง sequoia capital ต้องการ google มาเสริมธุรกิจที่เคยลงทุนไป

โมริตซ์มองว่า การมีผู้ตั้งสองคนมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่าการมีผู้ก่อตั้งเพียงคนเดียว ซึ่งมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่ บิลล์ เกตส์ และ พอล อัลเลน แห่ง Microsoft , สตีฟ จ๊อบส์ และ สตีฟ วอซเนี๊ยก แห่ง apple

ส่วนฟากของจอห์น โดเออร์ นั้นชอบอยู่แล้วในเรื่องการเปลี่ยนแปลงระยะยาวของอินเทอร์เน็ต เขาไม่ซีเรียสในเรื่องการที่ยังไม่มี โมเดลธุรกิจที่จะทำเงินชัดเจนจาก gooogle จากผู้ก่อตั้งทั้งสอง และเขามีความสัมพันธ์ที่ดีผ่าน เจฟ เบซอส ที่ได้เป็นผู้ลงทุนระยะแรก ๆ ของ google ด้วย

ทั้งสองบริษัทนั้นพร้อมที่จะลงทุนกับ google เป็นอย่างยิ่ง แต่ปัญหาคือ นักลงทุนทั้งสองไม่ยอมลงทุนร่วมกันใน google ซึ่งมันเป็นสถานการณ์ที่ทำให้เกิดความยากลำบากในกาตัดสินใจของ ทั้งบริน และ เพจ และทั้งสองบริษัทก็ไม่มีใครยอมใครโดยเด็ดขาด

ด้วยความเป็นต่อของทั้งบริน และ เพจ ที่ธุรกิจของพวกเขากำลังเตะตาไปทั่วซิลิกอนวัลเลย์ รวมถึงความต้องการเงินลงทุนโดยเร็วที่สุด ทำให้ทั้งสองตัดสินใจบอกทั้ง โมริตซ์ และ โดเออร์ว่า หากทั้งสองไม่ทำงานร่วมกัน google ก็จะใช้ทางเลือกอื่นโดยจะไปหานักลงทุนกลุ่มอื่นๆ  แทน

สุดท้าย ทั้งสองบริษัทก็ต้องยอมให้กับ Google โดยเสนอลงทุนฝ่ายละ 12.5 ล้านเหรียญ และยอมรับข้อเรียกร้องของ บริน และ เพจ ว่าต้องการรับผิดชอบการจัดการเรื่องภายในบริษัทเอง และสามารถควบคุมการออกเสียงได้ และมีการเสนอจากโดเออร์ และ โมริตซ์ ให้มีการว่าจ้างผู้บริหารที่มีประสบการณ์มาช่วยพวกเขาเปลี่ยนโปรแกรมการค้นหาของตนให้เป็นธุรกิจที่เป็นกำไร และมันเป็น Deal ที่สมเหตุสมผล จนไปสู่การตกลงกับ Deal ดังกล่าวในที่สุด

ในที่สุดทั้งบรินและเพจก็สามารถจบ Deal ยักษ์นี้ได้สำเร็จและพร้อมพา google ไปในระดับโลก
ในที่สุดทั้งบรินและเพจก็สามารถจบ Deal ยักษ์นี้ได้สำเร็จและพร้อมพา google ไปในระดับโลก

ทั้งบรินและเพจ พร้อมแล้วทั้งเงินทุน และทีมงานที่ปรึกษาระดับพระกาฬ ที่พร้อมจะช่วยพวกเขาสร้างโปรแกรมค้นหาที่สมบูรณ์แบบ และ เป้าหมายของพวกเขานั้นก้าวข้ามอเมริกาไปเป็นระดับโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

การแถลงการณ์เรื่องการร่วมลงทุนของทั้ง โมริตซ์ และ โดเออร์ เป็นที่ฮือฮาไปทั่วทั้งซิลิกอนวัลเลย์ มีการประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับการให้ทุนและข้อมูลเพิ่มเติม เกี่ยวกับ google ทั้งรายชื่อผู้ลงทุน และการเติบโตในอัตราร้อยละ 50 ต่อเดือน ทำให้ google กำลังถูกจับตามองไปทั่วโลกทันที

มันเป็นช่วงเวลา ที่เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดของ Google เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและน่ายินดีสำหรับผู้ก่อตั้งทั้งสอง แต่อย่างไรก็ตาม การแถลงการที่เต็มไปด้วยตัวเลขที่สวยหรูมากมาย เกี่ยวกับ Deal ในครั้งนี้นั้น มันไม่ได้ตอบคำถามใหญ่ที่สำคัญข้อนึง ก็คือ Google จะมีแผนการทำเงินด้วยวิธีใด? แล้วสถานการณ์ของ Google หลังจากได้เงินทุนก้อนใหญ่ จะเกิดอะไรขึ้นกับ google ต่อจากนี้ แล้ว ผู้บริหารที่มีประสบการณ์ที่จะมาช่วยพยุง google ในช่วงแรกเริ่มตั้งไข่จะเป็นใคร? โปรดอย่าพลาดติดตามตอนต่อไปครับผม

–> อ่านตอนที่ 5 : Hiring a Pilot

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :When Larry Met Sergey *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***

Credit แหล่งข้อมูลบทความ