ประวัติ Elon Musk ตอนที่ 7 : Joining the Mafia

หลังจากขาย Zip2 ให้กับ คอมแพค ได้สำเร็จ มัสก์ ก็กลายเป็นเศรษฐีย่อม ๆ ทันที มันเป็นความสำเร็จในการทำธุรกิจครั้งแรก มันมาด้วยช่วงจังหวะ และโอกาสที่เหมาะสม สำหรับเขาเป็นอย่างมากสำหรับธุรกิจแรกอย่าง Zip2 แต่ตอนนี้เขากำลังมองหาธุรกิจใหม่ ที่เป็นอุตสาหกรรมที่มีเงินมหาศาล ซึ่งธุรกิจนั้นก็คือ ธนาคาร ซึ่งมัสก์มองว่า เหล่าพวกนายธนาคารทังหลายนั้น รวย แต่ โง่ !!!

แล้วแนวคิดเรื่องการตั้งธนาคารบนอินเตอร์เน็ต มันมาจากไหน? ก็ต้องบอกว่า มัสก์นั้นเคยฝึกงานที่ ธนาคารโนวาสโกเทีย ซึ่งในตอนนั้น เขาได้สะดุดถึงโอกาสทางธุรกิจ แต่เขาก็พยายามบอกเรื่องดังกล่าวกับเหล่าผู้บริหารแต่ไม่มีใครสนใจความคิดเขา 

แต่มันเริ่มตกผลึกจริง ๆ จัง ๆ ก็ตอนที่มัสก์ นั้นไปฝึกงานที่สถานบันวิจัย Pinnacle Research ในปี 1995 ที่ซึ่งมีนักวิทยาศาสตร์ ระดับ อัจฉริยะอยู่เต็มไปหมด มัสก์ พยายามที่จะนำเสนอ ไอเดียการชำระเงินในระบบออนไลน์ผ่าน internet 

Pinnacle Research ที่เต็มไปด้วยนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ
Pinnacle Research ที่เต็มไปด้วยนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ

แต่ตอนนั้น แทบจะไม่มีใครมาสนับสนุนแนวความคิดนี้ ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ใครจะบ้ามาจ่ายเงินผ่าน internet เงินดิจิตอล มันเป็นความเพ้อฝัน ซึ่งในตอนนั้น amazon.com ก็เริ่มที่จะให้ชำระเงินได้ผ่านออนไลน์ แต่ การแจ้งบัตรเครดิตนั้นก็ยังผ่านระบบโทรศัพท์อยู่ดี ยังไม่มีใครกล้าที่จะให้ข้อมูลบัตรเครดิตไปยังโลกออนไลน์

แต่ความคิดของมัสก์ นั้นไปไกลมาก เขาถึงขั้นที่จะสร้างสถาบันการเงินแบบออนไลน์เลยด้วยซ้ำ มีบริการทุกอย่างครอบคลุมเหมือนกับธนาคารสาขาปรกตินั่นเอง แต่ปัญหาใหญ่ของแนวคิดมัสก์ คือ กฏระเบียบต่าง ๆ ที่คอยควบคุมวงการการเงินและธนาคารของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่โบราณคร่ำครึ

แต่มันไม่ได้ทำให้มัสก์ ย่อท้อแต่อย่างใด ในช่วงเดียวกับที่ขาย Zip2 นั้นเขาก็ได้เตรียมเปิดบริษัททางด้านการเงินใหม่ไว้เรียบร้อยแล้ว และชักชวนเพื่อนร่วมงานที่ Zip2 รวมถึงเพื่อนสมัยฝึกงานในธนาคารโนวาสโกเทีย มาร่วมกันสร้างบริษัท X.com 

แถมยังได้บุคคลที่มีประสบการณ์ด้านการเงินอย่าง แฮร์ริส ฟริคเคอร์ และ คริสโตเฟอร์ เพย์น ที่นำความรู้เรื่องกลไกในโลกธนาคารมาให้กับ X.com ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่มองเห็นอย่างเดียวกันคือ การต้องปฏิวัติอุตสาหกรรมธนาคาร ที่มีมากว่าหลายร้อยปี โดยใช้ อินเตอร์เน็ตให้เป็นประโยชน์ให้จงได้

X.com บริการที่จะมาปฏิวัติวงการการเงิน
X.com บริการที่จะมาปฏิวัติวงการการเงิน

แต่การเริ่มต้นก็ไม่ได้หอมหวนอย่างที่คิด เพราะเพียงแค่ 5 เดือนแรก มัสก์ กับ ฟริคเคอร์ ก็เริ่มมีปัญหากัน ฟริคเคอร์ต้องการยึดอำนาจใน X.com และต้องการเป็น CEO และคนอย่างมัสก์ ก็ไม่เคยยอมใครอยู่แล้ว ทำให้ทั้งสองแตกหักกันอย่างรวดเร็ว ฟริคเคอร์ คนที่สำคัญมีความรู้ด้านโลกการเงินต้องเดินจากไป

ปัญหาใหญ่ของ X.com มันอยู่ที่ข้อกฏหมาย ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางไม่ให้ X.com ได้เกิด แต่มัสก์ ก็ได้ว่าจ้างทีมงานมืออาชีพ เพิ่มขึ้น รวมถึงเร่งเหล่าทีมวิศวกรให้พัฒนาซอฟท์แวร์ให้เส็ดเร็วที่สุด

และในไม่กี่สัปดาห์ X.com เวอร์ชั่นแรก ก็พร้อมปล่อยออกไปให้โลกได้ยลโฉมเสียที รวมถึงข้อกฏหมายต่าง  ๆ มัสก์ก็ได้ว่าจ้างเหล่านักกฏหมายมืออาชีพ มาจัดการได้อย่างเรียบร้อย และมันก็พร้อมออนไลน์ครั้งแรกในช่วงเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้าในปี 1999

และเพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้งานมากที่สุด มัสก์ นั้นได้จัดโปรโมชั่น เต็มที่เพื่อ โปรโมต X.com ให้ติดตลาดเร็วที่สุด เขาแจกเงิน 20 เหรียญ เพียงแค่คนสมัครมาใช้บริการ รวมถึงแจกอีก 10 เหรียญเพียงแค่แนะนำต่อให้คนรู้จักได้ใช้

เรียกได้ว่า บริการ X.com มันเป็นการปฏิวัติวงการการเงินของอเมริกาเลยก็ว่าได้ เขากำจัดค่าธรรมเนียม ที่เดิมต้องจ่ายให้การทำธุรกรรมต่าง ๆ ออกไปทั้งสิ้น เพื่อดึงดูดใจคนให้มาใช้งานให้มากที่สุด 

นวัตกรรมที่เด่นที่สุดของ X.com คือ การจ่ายเงินแบบบุคคลต่อบุคคล ซึ่งทำได้เพียงง่ายได้เพีงแค่ใส่ email ของผู้ที่ต้องการส่งเงินไปในเว๊บไซต์ และสามารถทำได้โดยการคลิกเมาส์เพียงไม่กี่ครั้ง เงินก็ไปถึงคนที่คุณรักได้แล้ว

แต่แค่เพียงไม่นาน ก็เกิดคู่แข่งที่สำคัญ สตาร์ทอัพ หน้าใหม่ที่ชื่อ Confinity ที่นำโดย ปีเตอร์ ธีล ที่ได้เปิดบริการอย่าง paypal เข้ามาแข่งกับ X.com โดยตรง มันเป็นสงครามที่ดุเดือด ใครที่เป็นฝ่ายชนะ จะได้เขียนประวัติศาสตร์การปฏวัติอุตสาหกรรมทางด้านการเงินแต่เพียงผู้เดียว

ปีเตอร์ ธีล ที่สร้าง paypal มาเป็นคู่แข่ง x.com ของมัสก์โดยตรง
ปีเตอร์ ธีล ที่สร้าง paypal มาเป็นคู่แข่ง x.com ของมัสก์โดยตรง

ความได้เปรียบของ paypal ของปีเตอร์ ธีล คือ paypal นั้นได้ติดตั้งในเว๊บไวต์ประมูลชื่อดังอย่าง ebay ได้แล้วในขณะนั้น แต่มัสก์ที่ชอบการแข่งขันอยู่แล้วก็ ดำเนินกลยุทธ์ทุกวิธีเพื่อไม่ยอมแพ้ เขาแทบจะทำงาน 24 ชม.ต่อวันในช่วงเวลาดังกล่าว

แต่พวกเขาก็แข่งกันได้เพียงไม่นาน เพราะขืนแข่งต่อไปดูเหมือน จะตายกันไปข้างหนึ่งก่อน ในปี 2000 พวกเขาหันมารวมพลังกัน ตอนนั้น paypal ของปีเตอร์ ธีล ดูเหมือนเงินใกล้จะหมดแล้วด้วยซ้ำ ส่วนมัสก์นั้นยังมีเงินให้ผลาญอีกมากมาย 

ดังนั้น มัสก์ จึงเป็นฝ่าย ถือไพ่เหนือกว่าในดีล นี้ เขากลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ และ ขอคง x.com ไว้ตามเดิม และยังได้รับการสนับสนุนเงินลงทุนเพิ่มอีกกว่า 100 ล้านเหรียญ จากกลุ่มลงทุนด้านการเงิน

รวมกันเป็นหนึ่งเหลือเพียง x.com ในช่วงแรกของการควบรวม
รวมกันเป็นหนึ่งเหลือเพียง x.com ในช่วงแรกของการควบรวม

แต่ปัญหาใหญ่ในการรวมบริษัท ก็คือ วัฒนธรรมที่แตกต่าง แม้กระทั่ง เทคโนโลยีที่แทบจะต่างกันคนละขั้ว confinity นั้นใช้ open source อย่างลินุกซ์ ส่วน x.com ของมัสก์ ขับเคลื่อนโดย Windows Server ซึ่งความแตกหักนี้ทำให้ ปีเตอร์ ธีล ขอลาออก และ ทิ้งให้มัสก์ บริหารบริษัท ในซากปรักหักพังนี้ต่อ

ปัญหาใหญ๋อีกอย่างก็คือ เมื่อผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือน X.com จะไม่สามารถรองรับการเติบโตดังกล่าวได้ ทำให้ไซต์ ล่มอยู่บ่อย ๆ ซึ่งไม่ถือเป็นเรื่องดีเลยสำหรับบริการทางด้านการเงินที่ลูกค้าตั้งความหวังไว้สูง

และมันได้เกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจครั้งประวัติศาสตร์ของซิลิกอน วัลเลย์ ขึ้น เมื่อเหล่าพนักงาน X.com กลุ่มหนึ่งได้รวมกลุ่มกันเพื่อคิดหาวิธีที่จะให้มัสก์ออกไป และตัดสินใจลงมือลับหลัง ในตอนที่มัสก์ กำลังเดินทางไปฮันนีมูน ซึ่งเมื่อมัสก์ รู้ก็ได้รีบขึ้นเครื่องกลับมาทันที

แม้จะพยายามตอบโต้กลับในช่วงแรก ๆ ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าเหล่ากรรมการได้ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว และดูเหมือนมัสก์ก็จะยอมรับกับสิ่งที่เกิดแต่โดยดี และพร้อมที่จะยอมถอยเพื่อให้บริษัทก้าวไปข้างหน้า ได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง

และมันทำให้อิทธิพลของมัสก์ต่อ X.com นั้นลดลงไปอย่างรวดเร็ว ในเดือน มิถุนายน ปี 2001 X.com ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็น paypal.com แทน และ ปีเตอร์ ธีล กลับมาเป็น CEO ของบริษัทอีกครั้ง

สุดท้าย ปีเตอร์ ธีล กลับมาเป็น CEO อีกครั้งและดัน Paypal กลับมา
สุดท้าย ปีเตอร์ ธีล กลับมาเป็น CEO อีกครั้งและดัน Paypal กลับมา

แต่มัสก์ นั้นโตขึ้นอีกขั้นแล้ว เขาอดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ดี เขายอมรับบทบามที่จะเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทและลงทุนต่อในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของ paypal และที่สำคัญเขาสนับสนุน ปีเตอร์ ธีล เต็มที่ในการขึ้นเป็น CEO ของบริษัท

และในที่สุด ผลตอบแทนของความพยายามครั้งที่ 2 ในการปฏิวัติวงการการเงินสหรัฐอเมริกาก็สัมฤทธิ์ผล ใน เดือนกรกฏาคม ปี 2002 ebay ได้เสนอซื้อ paypal ที่ 1,500 ล้านเหรียญ มัสก์ และคณะกรรมการจึงตกลงรับข้อเสนอ

สุดท้ายยักษ์ใหญ่อย่าง ebay ยื่นข้อเสนอซื้อ paypal ในที่สุด
สุดท้ายยักษ์ใหญ่อย่าง ebay ยื่นข้อเสนอซื้อ paypal ในที่สุด

ซึ่งดีลนี้ทำให้มัสก์กลายเป็นมหาเศรษฐีเต็มตัวเสียที เขาได้ส่วนแบ่งไปกว่า 250 ล้านเหรีญ และเงินจำนวนนี้ มันถึงเวลาที่เขาต้องล่าฝันต่อไป ฝันที่เค้าจะเปลี่ยนโลกอีกครั้ง แต่คราวนี้มันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด เท่าที่เขาเคยทำมา ฝันต่อไปของมัสก์ คืออะไร โปรดอย่าพลาดติดตามตอนต่อไปครับผม

–> อ่านตอนที่ 8 : I don’t Need These Russians

<– ย้อนกลับไปตอนที่ 1 :Sand Hill Road *** อย่าลืมกดแชร์ให้เพื่อน ๆ คุณได้อ่านนะครับผม***

Credit แหล่งข้อมูลบทความ