เมื่อคนไม่มีใจ จะรั้งไว้ทำไม

ผ่าน transfer deadline มาได้แบบไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดี คือ อาเซน่อล ไม่ได้ขาย alexis ออกไป เก็บไว้ใช้งานต่ออีก 1 ปี ซึ่งปีหน้าก็จะหมดสํญญากับทีมอย่างเป็นทางการ

ไม่รู้ว่าทำไมช่วงหลังนโยบาลของทีมเริ่มแปลก ๆ กับการต่อสัญญานักเตะ ที่ไม่ยอมต่อสัญญาตั้งแต่เนิ่น ๆ รอกันจนใกล้หมดสัญญาแทบจะทุกคน ซึ่งถือว่าไม่เป็นผลดีกับทีมเลย เพราะไม่สามารถกำหนดทิศทางในอนาคตของทีมได้เลย ไล่ดูตํวอย่างตั้งแต่ การเสีย oxlade chamberlain ออกไป ก็เนืองจากการปล่อยให้เป็นสัญญาปีสุดท้าย ซึ่ง ปีหน้าก็จะกลายเป็นฟรี ก็ต้องยอมขายออกไปให้ liverpool ซึ่งถือว่าได้เงินมาพอสมควร แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้มันเลยเถิดมาถึงขนาดนี้

กับซุปเปอร์สตาร์ทั้งสองของทีม อย่าง โอซิล และ ซานเชส นั้น   สำหรับโอซิล ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะต่อสัญญาออกไปแต่อย่างใด ส่วน ซานเชส นั้นไม่ต้องพูดถึง แทบจะหมดใจให้กับทีมไปแล้ว ดูจากการแสดงออกทางสีหน้าและแววตาในเกมส์ล่าสุดที่เจอกับ ลิเวอร์พูลนั้น แทบจะไม่มีใจอยู่กับทีมไปแล้ว

เนื่องจากปีนี้ทีมเราไม่ได้เข้าไปเล่นแชมเปี้ยนลีค ซึ่งดูจะเป็นเป้าหมายที่สำคัญของซานเชส เลยก็ว่าได้เนื่องจากเค้ายังไม่เคยได้แชมป์ถ้วยใบนี้เลย ถึงแม้จะอยู่ในทีมของเป๊ป ในชุดบาร์เซโลน่า แต่ก็ไม่ได้สัมผัสกับถ้วยแชมป์นี้แม้แต่ครั้งเดียว

ก็ไม่รู็ว่าปีนี้ฟอร์มของ ซานเชส นั้นจะเป็นอย่างไร หลังจากผิดหวังที่ไม่ได้ย้ายทีม ซึ่งคิดว่าเจ้าตัวคงผิดหวังเป็นอย่างมากอย่างแน่นอน ที่ไม่ได้ย้ายไปร่วมทีม แมน ซิตี้ ในตลาดซื้อขายรอบนี้ ซึ่งดูเจ้าตัวจะหวังไว้มากกับการย้ายทีมครั้งนี้ แต่ก็เจอคาถา ปฏิเสธลูกเดียวของเวนเกอร์เข้าไป จึงคิดว่า ซานเชส จึงไม่พอใจ เวนเกอร์อยู่พอสมควรกับการรั้งเค้าไว้แบบนี้ แต่ยังไงก็คงต้องเก็บไว้ และคงไม่มีการต่อสัญญากับทีมอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะให้ค่าเหนื่อยมากมายขนาดไหน สภาพทีมตอนนี้จึงแย่พอสมควร ทำให้สภาพจิตใจ ของเพื่อนร่วมทีมนั้น พลอยแย่ไปด้วย เพราะไม่มีความชัดเจนจากสโมสรแต่อย่างใด

สำหรับส่วนตัวนั้น คิดว่าควรขายมากกว่า เพราะนักเตะที่เหลือสัญญาปีเดียวแบบนี้ และสภาพทีมขณะนี้ คงไมมีทางโน้มน้าวให้ต่อสัญญาได้อยู่แล้ว ก็ไม่รู้ว่าเวนเกอร์กำลังคิดอะไรอยู่เหมือนกัน กับสถานการณ์ของทีมในตอนนี้ ที่ดูจะย่ำแย่ลงไปเรื่อย ๆ ทั้งผลงานในสนาม และ เรื่องการบริหารจัดการนอกสนาม

สำหรับ โอซิลนั้น หากยังไม่ต่อในเร็ว ๆ นี้ คิดว่าปีหน้าคงไปแน่นอน เพราะมีหลายทีมอยากได้ตัวไปร่วมทีม และสามารถไปลุ้นแชมป์ได้ดีกว่ามาอยู่ดักดานกับทีมอย่าง อาเซน่อลในสภาพปัจจุบันที่ดูเป็นทีมที่ไร้อนาคตสิ้นดี

Image Ref : www.joe.co.uk

Movie Review : What Hapened To Monday


Review

ต้องบอกตรง ๆ เลยว่าหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่เป็นหนังฟอร์มยักษ์ หรือ เป็นหนังจากค่ายยักษ์ใหญ่อะไรทั้งสิ้น แต่จากการ promote พล็อตของหนังจาก Mongkol Major นี่ต้องบอกได้ว่าทำให้กระแสของหนังเรื่องนี้มาแรงไม่ใช่ย่อยเลยก็ว่าได้ เนื่องจากบทของหนังที่ค่อนข้างแปลกใหม่ที่ค่อนข้างหาดูได้ยากในหนังปัจจุบัน

หนังเรื่องนี้เป็นผลงานของผู้กำกับ Tommy Wirkola ซึ่งต้องยอมรับตรง ๆ ว่าผมก็ไม่เคยได้ติดตามงานของผู้กำกับคนนี้ แต่ผ่านผลงานของนักแสดงนำอย่าง Noomi Rapace มาบ้างจากหนังอย่าง Prometheus ซึ่งส่วนใหญ่นั้นเธอจะรับบทบาทจากหนัง action เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งในเรื่องนี้ถือว่าเธอได้พลิกบทบาทการแสดงไปพอสมควรเลยทีเดียว

สำหรับเนื้อเรื่องนั้นว่ากันด้วยเหตุการณ์ในอนาคต ที่ประชากรเริ่มล้นโลก รัฐบาลจึงต้องมีมาตรการจัดการมนุษย์ล้นโลก เพราะอาหารเริ่มไม่เพียงพอต่อประชากรโลกซึ่งมาตรการขั้นเด็ดขาดนั้นคือ การกำหนดให้แต่ละครอบครัวมีลูกได้เพียง 1 คนเท่านั้น ซึ่งประเด็ดปัญหาก็คือตัวเอกอย่าง Noomi Rapace นั้นที่รับบทหนักคือเป็นแฝดทั้ง 7 ของตระกูล settman ซึ่งต้องอยู่อย่างแอบ ๆ โดยอาศัยตัวตนเพียง 1 คนคือ Karen Settman โดยทุกคนจะได้เป็นตัวตนของ Karen Settman แค่เพียงวันเดียวต่อสัปดาห์เท่านั้น

ต้องยอมรับการแสดงในเรื่องนี้ของ Noomi ที่สามารถรับบทแฝด 7 ที่มีคาแรคเตอร์ที่ค่อนข้างแตกต่างกันอย่างชัดเจน ซึ่งต้องถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย ที่จะ acting เป็นทั้ง 7 character พร้อม ๆ กัน ซึ่งผลงานโดยรวมนั้น ก็ถือว่าเธอแสดงได้แนบเนียนมาก สวมบทบาทของแต่ละคนได้อย่างลงตัว ซึ่งเธอก็แทบแบกหนังทั้งเรื่องไว้คนเดียวแม้จะผ่านตัวละครทั้ง 7 ตัว

ในส่วนของเนื้อเรื่องนั้น ถือว่า ฉีกแปลกแหวกแนวจากหนังตลาดโดยทั่วไป อย่างชัดเจน โดยเฉพาะ เรื่องการมีตัวตนบนโลกจริงแค่ 1 คน จากพี่น้องทั้ง 7 คนนั้นก็ถือได้ว่า ไม่เคยมีหนังเรื่องไหนทำแนวนี้มาก่อน ทำให้เป็นหนังที่น่าสนใจ เรื่องนี้ถือว่ามีส่วนประกอบแทบจะครบรส ทั้ง drama romantic รวมไปถึงการนำเอาความเป็น action มาผสมผสานได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว ทำให้เราเพลิดเพลินกับหนังเรื่องนี้ไปจนจบเรื่อง โดยเฉพาะตอนท้ายที่มีหักมุมตามแบบฉบับหนัง hollywood ก็ถือได้ว่าไม่ทำให้คอหนังต้องผิดหวังแต่อย่างใด

ถ้าถามว่าเรื่องนี้น่าจะไปดูมั๊ย คำตอบคือ แนะนำให้ไปดูอย่างยิ่ง โดยเฉพาะที่ช่วงนี้ ยังไม่มีหนังฟอร์มยักษ์เรื่องไหนเข้านั้น what happened to monday ก็ถือเป็นตัวเลือกนึง ที่น่าสนใจ ที่ไม่ควรพลาดชมเป็นอย่างยิ่ง แต่ถ้าถามว่าเหมาะกับผู้ชมกลุ่มไหน นั้น ก็ต้องบอกว่าหนังดูได้แทบจะทุกกลุ่ม เพราะมีส่วนผสมของความ action , drama รวมถึง romantic ไว้ได้อย่างลงตัว

เก็บตกจากหนัง

  • เป็นการพลิกบทบาทของ Noomi Rapace ที่คิดว่าหลาย ๆ คนคงไม่เคยได้สัมผัสผลงานแนวนี้ของเธอ
  • Location ของหนังที่ถ่ายทำนั้นถือว่าน้อยไปหน่อย มีอยู่ไม่กี่ฉาก
  • มีส่วนผสมของ action , romantic , comady ได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว

คะแนน

8/10

สรุป
“เป็นหนังที่ไม่ควรพลาดในช่วงที่ไม่มีหนังฟอร์มยักษ์เข้าในช่วงนี้”