JT 8704 ตอนที่ 10 : ประสบการณ์ MRI ครั้งแรก

เนื่องด้วยปัญหาสุขภาพส่วนตัวที่มีปัญหากับอาการวูบ หน้ามืด คล้ายจะเป็นลมมาตลอดในระยะเวลา 6 เดือน และได้ทำการรักษาทั้งในโรงพยาบาลรัฐและเอกชนมาหลายที่ก็ไม่เจอสาเหตุของอาการ สุดท้ายได้รับคำแนะนำให้มาที่สถาบันประสาทวิทยา ตรงบริเวณ รพ.รามาธิบดี ที่มีหมอเชี่ยวชาญด้านสมองอยู่มาก และ ส่วนใหญ่เป็นอาจารย์หมอที่มีความเชี่ยวชาญด้านสมองโดยตรง จึงขอคุณหมอให้ request MRI สมองเลยเนื่องจากมีอาการมาค่อนข้างนานแล้วและหาสาเหตุไม่เจอซักที

ตอนแรกก็ไม่ได้ศึกษาข้อมูลการทำ MRI มาเลย โดยมาในวันนัดโดยไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาทั้งสิ้น เพราะเหมือนเราได้ดูจากละครหรือหนังมา ก็ไม่น่าจะมีอะไรมาก แต่ดันลืมบอกอาการกลัวที่แคบที่เป็นโรคส่วนตัวที่มาพร้อมกับอาการหน้ามืด และอาการวูบในระยะ 6 เดือนหลัง เจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจก็ไม่ได้ซักประวัติอะไรมาก คงเห็นว่าเรายังหนุ่มแน่น และอาการเบื้องต้นก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก ต่างจากคนไข้คนอื่น ๆ ที่อาการค่อนข้างหนักพอสมควรที่จะมาทำ MRI เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด

หลังจากเปลี่ยนเสือผ้าเรียบร้อยก็รอคิวเพื่อเข้าห้องสแกน รอคนก่อนหน้า ซึ่งใช้เวลาค่อนข้างนานมาก ๆ ประมาณ 40 นาที เห็นเค้าเดินออกมาก็ไม่ได้มีอาการอะไร หรือ วิตกกังวลใด  ๆ ก็คงไม่มีอะไร หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาบอกรายละเอียดว่า จะมีเสียงดังจากเครื่องมือ แต่ไม่ได้น่ากลัวอะไร เราก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เข้าห้องแล้วเจ้าหน้าที่ให้สำลีมาอุดหู 1 อัน แต่ตอนนอนลงที่เครื่อง เหมือนมันจะหลุดออกไป หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ให้สัญญาณ เครื่องเริ่มทำงาน

วินาทีที่เข้าไปในอุโมงค์ ตอนแรก ฉิบหายแล้ว อากาศเหมือนจะไม่ค่อยมี เหมือนจะหายใจไม่ค่อยออก ( หลังจากป่วยก็มีปัญหากับที่แคบ หรือ ใน ลิฟท์ หรือในรถยนต์แคบ ๆ จะมีปัญหาชอบหายใจไม่ออก)  แต่พอเริ่มตั้งสติได้ ก็พอเริ่มหายใจได้บ้าง รู้สึกค่อนข้างโอเค แต่แล้ว เมื่อเครื่องเริ่มทำงาน เสียงนรกก็เริ่มทำงานทันที มันเป็นเสียงที่โดยส่วนตัวถือว่าหลอนมาก ไม่แน่ใจว่าเนื่องจากเป็นเพราะอาการกลัวที่แคบหรือป่าว หลังจากเสียงแรกมาจนเราเริ่มโอเคปรับตัวได้ นั่นไงมันเปลี่ยนเสียง หลอนใหม่อีกรอบ และทำอย่างงี้ไปเรื่อย ๆ ในช่วงทำตลอด 30-40 นาทีโดยที่ขยับตัวไม่ได้

ใจนึงก็อยากจะตะโกนหาเจ้าหน้าที่บอกว่าผมไม่ไหวแล้วหลายครั้ง พอเริ่มไม่ไหวเสียงก็หยุดพักพอดี แล้วเปลี่ยนเป็นเสียงใหม่ สลับอยู่อย่างงี้ไปเรื่อย ๆ ซึ่งถือว่าทรมานมาก ๆ ในช่วงเวลา 30-40 นาทีดังกล่าว ซึ่งผมคิดว่า เป็นเฉพาะกับคนที่กลัวที่แคบเท่านั้น คนที่ปรกติ ก็คงไม่มีปัญหาอะไรกับเสียงดังกล่าวและเนื่องจากเราห้ามขยับตัวใด ๆ โดยเฉพาะส่วนหัวด้วยทำให้ยิ่งวิตกกังวลไปเรื่อย ๆ ในระหว่างทำนั้นก็พยายามทำหลาย ๆ อย่างเพื่อให้ out focus จากเสียงดังกล่าว ทั้งสวดมนต์ พยายามคิดถึงเรื่องงาน ( ที่ไม่น่าคิดเท่าไหร่ในตอนนั้น) แต่ก็พยายามทำทุกอย่างให้ out focus จากเสียงนี้ให้ได้ จนตอนหลังไม่ไหวมาก ๆ ก็ใช้เล็บกดตามนิ้วต่าง ๆ เพื่อให้เจ็บ จะได้ out focus จากเสียง

เสียงสวรรค์จากเจ้าหน้าที่ก็เข้ามา พร้อมเปิดห้องเข้ามาและบอกว่าเรียบร้อยแล้วครับน้อง OMG กว่าจะผ่านนรกนี้ไปได้เราก็เกือบจะจิตหลุดไปหลายรอบเหมือนกัน เกือบที่จะตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่ให้หยุดแล้ว คิดว่าถ้านานกว่านี้อีกซัก 10-15 นาทีเราคงไม่สามารถทำให้เสร็จสิ้นได้อย่างแน่นอน ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่กับเจ้าเครื่อง MRI ตัวนี้

Blog Series : JT8704 Flight เปลี่ยนชีวิต

Img Ref :  radio.md.chula.ac.th