Movie Review : Kingsman The Secret Service

 

Review

เพิ่งได้มีโอกาสได้ดูหนังดังอย่าง Kingsman : The Secret Service หลังจากออกจากโรงไปพักใหญ่แล้ว หนังเรื่องนี้เป็นหนังสายลับ style เจมส์ บอนด์  แต่ให้แง่มุมในการเล่าเรื่องที่แตกต่างออกไปจากหนังสายลับเรื่องอื่นๆ  ซึ่งหากเราจะสังเกตหนังแนวนี้มักจะเป็นสายลับจากประเทศอังกฤษ ที่มีความพิเศษที่แตกต่างจากสายลับจากทางฝั่งอเมริกาที่เน้นการลุยภารกิจมากกว่า แต่ ฝั่งอังกฤษนั้นจะมีหลายแง่มุมให้เล่าเรื่อง ซึ่งก็เช่นกันใน Kingsman : The Secret Service ผลงานการกำกับของ Matthew Vaughn  ที่ฝากผลงานไว้มากมายอย่าง X’men First Class โดยมีนักแสดงแม่เหล็กอย่าง  Colin Firth , Samuel L. Jackson ร่วมแสดงนำ

หนังว่าด้วยเรื่องของสายลับที่ชื่อกลุ่ม Kingsman ที่เป็นหน่วยที่นอกการควบคุมของรัฐบาลเป็นกลุ่มสายลับ รับจ้างโดยที่มีประวัติมาอย่างยาวนาน และ มาพบกับศัตรูตัวฉกาจตัวใหม่คือ Valentine ซึ่งแสดงโดย Samuel L.Jackson โดยการปูพื้นเรื่องว่าเขารวยมาจากธุรกิจ internet ซึ่งถือว่าเป็นตัวร้ายที่แปลกกว่าตัวร้ายในเรื่องอื่น ๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าอิทธิพลของยุค internet บูมในปัจจุบันนั้น ก็จะเห็นบทของนักแสดงที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น เช่น พวก hacker หรือ เศรษฐีดอทคอม  โผล่มาในหนังเป็นจำนวนมากในช่วงหลัง ๆ

เป้าหมายของ Valentine นั้นไม่ใช่อื่นใด คือต้องการลดประชากรของโลกลงเค้าจึงได้นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในวิธีการที่จะลดประชากรโลกลง ซึ่งเขานั้นคิดว่าคงไม่มีทางอื่นที่จะทำให้ประชากรโลกลดลงนอกจากการให้คนนั้นฆ่ากันเอง  กลุ่มของ kingsman ก็ต้องทำทุกวิธีที่จะหยุดยั้งการกระทำของ Valentine เพื่อไม่ให้เขาสามารถบรรลุเป้าหมายได้

สำหรับหนังเรื่องนี้ก็เป็นหนังที่ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด สามารถดูสนุก ๆ ได้ เนื่อเรื่องก็ค่อนข้างไม่มีอะไรให้เดาได้ยากนัก ก็ถือเป็นหนังสายลับเรื่องนึงที่ดูได้โดยไม่ต้องคิดอะไรกันมาก จึงแนะนำให้ฝากหามาดูกันนะครับ

 

เก็บตกจากหนัง

  • หนังสามารถนำเทคโนโลยีมาผูกกับตัวร้ายได้อย่างลงตัว
  • เป็นหนังสายลับที่พอเดาเรื่องราวได้ไม่ยาก

คะแนน

8/10


สรุป
“แฟนหนังสายลับก็ไม่ควรพลาด”

Arsenal กับการเริ่มต้นที่ไม่เป็นอย่างที่หวัง

ออก Start Season ใหม่กันแล้วสำหรับ Premier league ในปีนี้  เนื่องจากผลงานต่อเนื่องจากช่วงปลายฤดูกาลที่แล้วทำให้แฟน ๆ อาเซน่อลหลาย ๆ คนก็คงหวังที่จะมาลุ้นแชมป์เต็มตัวได้ในปีนี้หากดูฟอร์มจากช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว

แต่เป็นเหมือนคำสาปในช่วงหลาย ๆ ปีหลัง อาเซน่อลจะประสบปัญหาการเล่นที่ไม่สม่ำเสมอตลอดฤดูกาลตลอดมา หากปีไหน Start ได้ยอดเยี่ยมนั้นก็จะมาแผ่วปลายในช่วงท้าย Season ตลอด และหากปีไหน ออก Start ได้แย่นั้น ก็จะมาเร่งตอนปลายฤดูกาลทำให้ผลงานก็วนอยู่ในอันดับ 3-4 ในตลอดช่วงทศวรรษหลัง จากที่ได้แชมป์ลีคครั้งสุดท้ายในปี 2003-2004

ถ้ามองในเรื่องตัวผู้เล่นนั้นจากช่วงปลาย season ที่แล้วนั้น แฟน ๆ ก็คงคิดว่าเราได้ทีมที่ลงตัวแล้วหลังมีปัญหาในเรื่อง midfield ตัวรับมานาน จนได้ ค็อกโกแลงมาอุดรอยรั่วตรงได้อย่างดีทำให้ทีมรับมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในช่วงปลายฤดูกาลที่แล้ว สำหรับปีนี้นั้นในช่วงตลาดยังเปิดนั้นอาเซน่อลก็ได้มีข่าวกับนักเตะระดับ world class เป็นจำนวนมาก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้มาซักราย ได้มาเพียง ปีเตอร์ เช็ก นายประตูจากเชลซีเท่านั้น ซึ่งใน Season ที่แล้ว Ospina ก็เล่นได้ดีอยู่แล้วเสริมตัวนายประตูเข้ามาก็ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพให้ทีมซักเท่าไหร่ ตอนนี้ปัญหาใหญ่ของทีมอยู่ที่กองหน้ามากกว่า

จะเห็นได้ว่า อาเซน่อลนั้นเป็นทีมที่สร้างสรรค์โอกาสการทำประตูได้อย่างมากมายตลอด จำนวน shot ต่อเกมส์นั้นสูงมาก แต่ไม่สามารถแปลให้กลายเป็นประตูได้เนื่องจากขาดกองหน้าระดับ world class ที่จะช่วยทีมให้เข้าใกล้สู้แชมป์มากยิ่งขึ้น จากเกมส์เมื่อคืนจะเห็นได้อย่างชัดเจน หากมีกองหน้าระดับ world class ร่วมทีม น่าจะได้ประตูไม่ต่ำกว่า 6 ลูกอย่างแน่นอน จากจำนวนโอกาสการทำประตูทั้งสิ้น 29 ครั้งซึ่งถือว่าสูงมาก ๆ ในเกมส์ premier league

สำหรับการเริ่มต้นใน Season 2015-2016 นั้น 5 เกมส์แรกที่ผ่านมาคงจะพอบอกอะไร wenger ได้หลายอย่างว่าหากจะคิดมาลุ้นแชมป์กับทีมอย่าง เชลซี หรือ แมนซิตี้นั้น ทีมเราต้องการนักเตะกองหน้าระดับ world class เข้ามาสู่ทีมโดยด่วน  ซึ่งคิดว่าส่วนอื่นๆ  ของทีมนั้นสามารถสู้กับทีมระดับท๊อปของยุโรปได้แล้วขาดเพียงกองหน้าที่จะมาเติมเต็มในจุดนี้  ซึ่งถ้าสภาพทีมยังมีแค่นี้ ก็คงเป็นอีกปีที่เราได้ไป Eufa Champion League ในฐานะทีมอันดับ 3-4 อีกครั้งเหมือน 10 ปีที่ผ่านมา

เมื่อ Apple ไม่ใช่ผู้นำด้าน Innovation อีกต่อไป

จบไปแล้วสำหรับงาน Apple Event ที่มีการถ่ายทอดสดผ่าน Streaming เมื่อคืนนี้ ให้สาวกชาว apple ได้นอนดึกกันอีกครั้ง ซึ่งสำหรับปีนี้นั้น ยังไม่มี Main Product ที่ทำให้ร้อง wow เหมือนตอนที่ Steve Jobs ยังอยู่อีกเช่นเคย ซึ่งเป็นสิ่งที่เคยเป็นสเน่ห์ของ apple ในอดีต รวมถึงข่าว leak ต่างที่หลุดออกมาจนไม่มีอะไรเซอร์ไพรซ์กันเหมือนในอดีตซึ่งช่วงหลังมานี้ไม่สามารถควบคุมข่าวความลับของบริษัทได้เหมือนในอดีตซึ่งทำให้ส่วนนี้ขาดเสน่ห์ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไปเป็นอย่างมากหลังจากสิ้นสุดยุค Steve Job สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวใหม่ที่น่าสนใจจากเมื่อคืน

  • IPAD PRO

ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงตัวใหม่ที่ apple เปิดตัวมาหลังจากมีข่าวหลุดมาก่อนหน้านี้ซักช่วงหนึ่งแล้ว สำหรับตัว ipad pro นั้นถูกพัฒนามาเพื่อให้ใช้งานสำหรับกลุ่ม enterprise หรือ มืออาชีพ มากกว่า user แบบ consumer ทั่วไป ซึ่งจะเห็นได้ว่าเปิดตัวมาราคาค่อนข้างแรงมาก start ที่ 799$ ซึ่งเป็นราคาที่ user ทั่วไปคงต้องคิดหนักที่จะซื้อมาใช้งานจริง ๆ จัง ๆ  ด้วยขนาดหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ถึง 12.9 นิ้ว นั้น ถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องง่ายเลยที่จะใช้ในการพกพาทั่วๆ ไปแบบ ipad รุ่นเดิม คิดว่าทำมาเจาะกลุ่มตลาดองค์กร หรือ enterprise user มากกว่า

  • Apple Pencil

ชัดเจนได้เลยว่ามันเป็นการขัดกับแนวทางที่ apple เคยพร่ำบอกมาตลอดว่าใครจะมาใช้ปากกา เมื่อตอน galaxy note ออกใหม่ๆ  จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าช่วงหลัง apple เป็นผู้ตามมากกว่าผู้นำ ต้องคอยนำแนวทางของคนที่ประสบความสำเร็จแล้วทำตามเสียมากกว่า ทั้ง apple pencil , หรือ keyboard รูปแบบใหม่นั้นจะเห็นได้ว่ามันควรจะมีมาตั้งนานแล้ว ดังตัวอย่างทั้งใน galaxy note และ microsoft surface  แต่ถือเป็นสิ่งที่ดีกับผู้บริโภค ที่ apple เริ่มทำในสิ่งที่ควรทำซะที

  • The new Apple TV

ถือเป็นการเดินหมายที่ถูกต้องอย่างยิ่งสำหรับ apple ที่ได้ทำการซื้อ siri เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ product main หลักเนื่องจากในอนาคต คิดว่า siri จะมีบทบาทสำคัญกับ product ของ apple แทบทุกตัว เมื่อการใช้งานด้วยเสียงนั้นเข้ามามีส่วนสำคัญกับชีวิตประจำวันเรามากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับ apple tv ตัวใหม่ที่เปิดตัวมา ซึ่งถือว่าเป็น product ที่ apple ออกลูกกั๊ก มานาน ไม่ค่อยพัฒนาต่อซักเท่าไหร่ แต่รอบนี้ถือว่าทำการบ้านมาได้ดีระดับหนึ่งกับการเปิดตัว home entertainment center ตัวใหม่ที่มาพร้อม siri รวมถึง remote รูปแบบใหม่ที่ทำให้ user สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการเข้าถึง casual game ต่างๆ  ที่สามารถเล่นร่วมกับ remote ได้อย่างดี ส่วนนี้คิดว่าคงเลียนแบบมากจากความประสบความสำเร็จของ Wii ยุคแรก แต่คงไม่ได้คิดจะไปต่อกรกับศึก console รุ่นใหญ่อย่าง xbox one หรือ ps4 คงเน้นเกมส์ที่เล่นเป็นครอบครัวมากกว่า ซึ่งตรงนี้ผมมองว่าเป็น highlight ของงานเมื่อคืนเลยก็ว่าได้ แต่อย่างไรก็ดีหากมองในแง่ของ innovation นั้นก็แทบไม่ได้มีอะไรใหม่เหมือนเคย ถ้าคนที่ใช้ android box tv อยู่แล้วนั้นคงจะไม่มีอะไรน่า เซอร์ไพรซ์เลย เพราะทุกอย่างที่ apple tv มีนั้น แทบจะมีอยู่ทั้งหมดอยู่แล้วใน android tv box แต่หากจะหาส่วนที่เป็น key จริง ๆ ที่ทำให้แตกต่างนั้นก็คงเป็นความสามารถของ Siri ที่นำมาใช้ร่วมกับ apple tv ได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าทางฝั่ง android

  • iphone 6s

สำหรับ product สุดท้ายอย่าง iphone 6s , 6s plus นั้น จากการที่นำมาเปิดตัวหลังสุดในงานก็พอจะบอกอะไรได้หลายอย่างว่า iphone 6s นั้นก็ไม่ได้มีอะไรปรับปรุงใหม่ที่เห็นอย่างได้ชัดเจน ซึ่งก็ถือว่าเป็นรอบการพัฒนาของ apple อยู่แล้วในช่วงหลัง ๆ มาจะออก main product ปีเว้นปี  ปีที่แล้วหลังจากเปิดตัว iphone 6 อย่างยิ่งใหญ่ปีนี้ก็เป็นเพียงการ minor change บางส่วน เช่น ประสิทธิภาพของกล้อง , วัสดุใหม่ , รวมถึงเพิ่มสีใหม่เข้ามาใน line product และส่วนที่น่าสนใจคือ force touch ซึ่งสามารถรองรับน้ำหนักการ touch ที่หน้าจอที่แตกต่างกันได้ ส่วนนี้ก็คิดว่าทาง application ทั้งหลายก็ต้องมีการ update เพื่อให้ใช้งาน function force touch ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยรวมนั้น ก็ถือว่า ไม่ได้มีอะไรใหม่มากมายในปีนี้สำหรับ iphone 6

สุดท้ายหากเรามองในแง่ของรายได้ของ apple นั้น ตั้งแต่ สิ้นสุดยุค Steve Job นั้นในแง่รายได้ก็ยังเติบโตอยู่เรื่อย ๆ และในปีนี้ก็เช่นกัน คงไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ในการปฏิบัติงานในตำแหน่ง CEO ของ Tim Cook เลย ซึ่งคิดว่าผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ของ apple ก็คงพอใจการทำงานของ Tim Cook อยู่ หากแต่ว่าการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นนวัตกรรมจริง ๆ นั้นเริ่มลดน้อยถอยลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าจะให้เปรียบเทียบก็จะคล้าย ๆ ยุคของ Steve Ballmer  ของ microsoft นั้นเองซึ่งในยุคแรก ๆ หลังเปลี่ยนผ่านมาจาก bill gates นั้นก็คงไม่มีใครสงสัยในความสามารถของ Ballmer แต่อย่างใด สามารถทำรายได้ได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดมา แต่ปัญหาจริง ๆ แล้วบริษัท it ส่วนใหญ่นั้นต้องมี innovation ใหม่ ๆ สม่ำเสมอ เพราะ Technology ในยุคนี้เป็นสิ่งที่พัฒนาได้อย่างรวดเร็วเป็นอย่างมากและการเข้ามาของคู่แข่งใหม่ ๆ นั้นก็ไม่ยากเย็นแต่อย่างใดเหมือนในอดีต ด้วยการเข้าถึง Infrastructure ที่ถูกลง

หากเรามองสถานการณ์ตอนนี้จะเห็นได้ว่า  apple นั้นก็คงยังไม่มีปัญหาอะไรมาก แต่มันเป็นเป็นปัญหาระยะยาวต่างหากที่ apple มีโอกาสที่จะประสบชะตากรรมเดียวกับ microsoft ในอดีตก็เป็นไปได้  ซึ่งโดยส่วนตัวนั้นคิดว่าตอนนี้ apple เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคใหม่ ที่ต้องให้คนที่มีประสบการณ์ในการบริหารงานสูงอย่าง Tim Cook ดูแลไปก่อนเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อยู่ แต่คนที่มีบทบาทในอนาคตจริง ๆ และแทบจะออกหน้าตลอดเวลานั้นคือ Jony Ive ต่างหากจะเห็นได้ใน Video Presentation นั้นจะมี Ive เป็นหลักเสมอมา เหมือนเป็นตัวตายตัวแทน Job ซึ่งคิดว่า CEO คนต่อไปของ apple คงจะหนีไม่พ้น Jony Ive อย่างแน่นอน หลังจาก Tim Cook สร้างความแข็งแกร่งในด้านการบริหาร และ การจัดการต่าง ๆ ที่ค่อนข้างซับซ้อนของ apple เสร็จสิ้น ผมมองว่าเขาคงจะมอบต่อตำแหน่ง CEO ให้กับ  Jony Ive อย่างแน่นอน และเมื่อนั้น apple อาจจะเปลี่ยนเป็นบริษัทที่เป็นผู้นำด้าน Innovation เหมือนยุค Steve Job ก็เป็นได้

Movie Review : Pixels


Review

สำหรับหนังเรื่อง Pixels นั้นเนื่องจากตัวเองเป็นนักเล่นเกมส์ตัวยงคนหนึ่งอยู่แล้ว และทันในเกมส์รุ่น dongy kong , pacman , galaga ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาหนังอยู่พอสมควร ทำให้ผมค่อนข้างอินกับหนังเรื่องนี้ประมาณหนึ่งซึ่งเด็กในยุคนี้อาจจะยังไม่ค่อยเข้าใจว่าเด็กในสมัยก่อนเค้าเล่นอะไรแบบนี้กันก่อนที่จะเข้าสู่ยุคของ console ที่เริ่มเข้ามาทำให้แทบจะมีอยู่ทุกบ้านในยุคหลัง

สำหรับเนื้อหาของหนังก็ว่าด้วยการบุกโลกของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งเรื่องนี้นำเนื้อหาที่แปลกแหวกแนวกว่าเรื่องอื่นๆ  โดยนำเรื่องของเกมส์มาเป็นตัวยืน โดยที่พระเอก ไม่ใช่นักบู๊ล้างผลาญ หรือ ทหารจอมโหด หรือ Heroes ในรูปแบบที่เคยมีมาในหนังแนวเอเลี่ยนบุกโลกก่อนหน้านี้ โดยเรื่องนี้นำแสดง นักแสดงตลกชื่อดังอย่าง Adam Sandler  ที่รับบทนักเล่นเกมส์มือโปรในยุคอดีตและต้องมาปกป้องโลกด้วยความสามารถด้านเกมส์ของเขานั่นเอง  ซึ่งคอยช่วยเหลือเพื่อนซี้อย่าง  Kevin James ที่รับบทประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ความนิยมเริ่มตกต่ำ ซึ่งเค้าก็ได้ร่วมมือกับเพื่อนเพื่อพลิกวิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสให้คะแนนนิยมของเขากลับมาดีเหมือนเดิม

โดยรวมเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังที่ไม่ได้แย่อะไรมากมาย สามารถดูสนุก ๆ ได้โดยเฉพาะคนที่เล่นเกมส์นั้นก็ถือได้ว่าเป็นการได้รำลึกความหลังในอดีตได้เป็นอย่างดีสำหรับคนเล่นเกมส์ในยุคแรก ๆ จะดูสนุกกว่าเด็กรุ่น ใหม่ ๆ ถึงเรื่องนี้จะรายได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ขอให้แนะนำให้หามาดูกันโดยเฉพาะผู้ชายวัย 30+  นั้นจะอินกว่าเด็กรุ่นใหม่ ๆ

เก็บตกจากหนัง

  • แฟน dongy kong , mario , galaga , pacman เกมส์ตู้อาเขตเก่า ๆ ไม่ควรพลาด
  • เรื่องนี้ถือเป็นแนวเอเลี่ยนบุกโลกที่แหวกแนวเรื่องหนึ่งที่เคยดูมาเลยทีเดียว

คะแนน

8/10


สรุป
“แฟนเกมส์อาเขตยุคเก่าไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง”