การออกสตาร์ทที่ล้มเหลวของอาเซน่อล

ผ่านไปแล้วโค้งแรงสำหรับศึก พรีเมียร์ลีก และ อาเซน่อล  ซึ่งสำหรับปีนี้นั้น ฟอร์ม ของทีมอาเซน่อลนับได้ว่าออกสตาร์ท ได้ย่ำแย่ ที่สุด ปีหนึ่งเลยทีเดียว ณ ขณะนี้ ตามหลังทีมจ่าฝูงอย่างเชลซี ถึง 11 แต้ม ซึ่งถือว่ามากพอสมควรสำหรับทีมจะลุ้นแชมป์  อย่าง อาเซน่อล ถ้าเทียบกับปีก่อนที่ออกสตาร์ทได้อย่างร้อนแรงนำจ่าฝูงอยู่นาน

การได้ตัวผู้เล่นใหม่ที่เป็นระดับโลกอย่าง Alexis Sanches นั้นถือว่าเป็นการยกระบบอาเซน่อลพอสมควรในปีนี้ แทบจะเล่นเด่นอยู่คนเดียวเลยด้วยซ้ำในหลาย ๆ นัดหลัง  ซึ่งการพบกับปัญหาบาดเจ็บเป็นหางว่าว ตั้งแต่เริ่มฤดูกาลของอาเซน่อล ถือว่า เป็นปัญหาที่ซ้ำซากมาหลายปีที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข  ซึ่งก็งงเหมือนกันว่า ทำไม นักเตะของทีมถึงได้กระดูกเปราะขนาดนี้ ผ่านมา 8 เกมส์ เจ็บไปเกิน 10 คนแล้ว ทำให้ฟอร์มก็แผ่วลงเช่นกัน  ซึ่งคิดว่า ถ้ามีนักเตะสมบูรณ์ชุดใหญ่จริง ๆ แบบทีมอื่น น่าจะออกสตาร์ทได้ร้อนแรงมากกว่า นี้  ใจก็อยากเห็น Theo Wallcot มาเล่นกับ Alexis Sanches ซักทีน่าจะพอไปไหวในการสู้กับยอดทีมอย่าง เชลซี แมนซิตี้ ลิเวอร์พูล หรือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

สำหรับตัวกุนซือ อย่าง อาเซน เวนเกอร์นั้น ดูแล้ว แท็กทิค นั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น เล่นแบบเดิมตลอดเวลา แทบจะไม่เห็นการแก้ไขเกมส์เจ๋ง ๆ จาก อาเซน เวนเกอร์เลยมานานแล้ว เหมือนเจ๊แกยึดมั่นในแนวทางนี้มาตลอด ซึ่งก็แปลกใจมาก ที่ไม่สามารเอาชนะ มูรินโย่ ได้ซักครั้งเลยในการคุมทีมของ อาเซน เวนเกอร์  แสดงว่า แกอาจจะเป็นรองทางฝั่งมูรินโย่จิง ๆ ซึ่งทาง มูรินโย่ จะมีสีสันในการจัดการทีมมากกว่า อาเซน่อล ของ อาเซน เวนเกอร์เยอะ  ซึ่งจากที่ผ่านมาก 8 เกมส์ในลีค  รวมถึง ผลงานในแชมเปี้ยนลึก นั้น แทบจะใช้ style การเล่นแบบ pattern เดิมตลอดเวลา ทำให้คู่แข่งนั้นสามารถเดาทางได้ไม่ยาก จะเห็นได้ว่าปีนี้นั้น ต้องมาไล่ตามตีเสมอทีมอื่นอยู่ตลอดเวลา แหละ หนักไปทางเสมอ มากไปหน่อย สามารถเก็บ ชัยชนะ ได้เพียงแค่ 2 เกมส์เท่านั้น ซึ่งถือว่า ต่ำกว่ามาตรฐานอย่างยิ่ง

รูปแบบการเล่นของทีมในปีนี้ ถือว่า เล่นเกมส์ได้ช้าลง ไม่ได้เห็น การต่อบอลชิ่งสวย ๆ เหมือนปีที่แล้วเลย ถ้ามอง จริง ๆ เกมส์ในปีนี้ ถือว่าแย่ลงกว่าปีที่แล้วเสียอีก ทั้งที่เสริมทัพไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งไม่ต่างจากทีมใหญ่ ๆ ทีมอื่น ถ้าไม่นับ แมนยู ถือว่า รูปแบบการเล่นแบบนี้ น่าจะมีการปรับได้แล้ว ให้เกมส์มันมีความเร็วขึ้น เพราะถ้าได้ดูเกมส์ของอาเซน่อล จะรู้สึกอึดอัด ครองบอลได้เยอะก็จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ในหลาย ๆ เกมส์

ช่วงโค้งที่สองก่อนปลายปีในฤดูกาลนี้ ก็หวังอย่างยิ่งว่า จะมีผลงานที่ดีขึ้น ไม่ต้องเจอเกมส์โหด ๆ มากมายในช่วงนี้ ก็ควรที่จะเก็บแต้มให้มากที่สุด และ กลับไปยืนตรงหัวตารางให้ได้ เพื่อไปลุ้นกันในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล ซึ่ง ก็ขอภาวนา ให้ฟอร์มแรงในช่วงท้ายฤดูกาล  ยังจะดีซะกว่า ไปแรงตกตอนปลายฤดูกาล แบบ ฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งถือว่าน่าผิดหวังพอสมควร

ฺBook Review : ดาวหางเหนือทางรถไฟ

หนังสือเล่มนี้เป็นของ คุณ ทรงกลด บางยี่ขัน บก.ใหญ่แห่ง A day  เล่มนี้เป็นหนังสือเล่มแรกที่มีโอกาสได้อ่านจากคุณ ทรงกลด ซึ่ง แนวหนังสือ ของ A day นั้น จะออกมา Style คล้าย ๆ นิตยสาร A day ซึ่งส่วนใหญ่ ก็จะเป็น columnist ในหนังสือ A day แล้วมาออกหนังสือ เป็นจำนวนมาก ซึ่งหนังสือของ เครือ A day นั้นเป็นหนังสือที่อ่านค่อนข้างง่าย ๆ ใช้ภาษาง่าย ๆ แต่สามารถสนุกไปกับมันได้อย่าง ดี ซึ่งผมก็เป็นแฟนพันธ์แท้  ของนิตยสาร A day เช่นกัน ได้รอซื้อในทุก ๆ  เล่มที่ ออกมา

ว่ากันด้วยเรื่องของหนังสือ ดาวหางเหนือทางรถไฟ  ซึ่งเป็นหนังสือแนวบันทึกการเดินทาง โดยเนื้อหาจะเป็นการนั่งรถไฟ สาย ทรานไซบีเรีย จากปักกิ่งไปยัง มอสโคว์ ซึ่งเป็นทริปในฝันของนักเดินทางหลายๆ  คน เชื่อว่าหลายคนคงคิดว่า การนั่งรถไฟเป็นสัปดาห์ จะมีอะไรมากมายนัก ซึ่งโดยส่วนตัวก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ ที่ควรที่จะลองซักครั้งหนึ่งในชีวิต

หนังสือเล่มนี้ บันทึกการเดินทางตั้งแต่การเที่ยวที่เมืองปักกิ่ง  มองโกเลีย  รัสเซีย ซึ่งเป็นทางผ่านของทางรถไฟสายนี้ โดยที่ คุณทรงกลด ได้แวะเยี่ยมเมืองต่าง ๆ ระหว่างทาง เพื่อบันทึกการเดินทางของรถไฟสายนี้  เนื้อหาโดยรวม ถือว่า เป็นสไตล์ ที่อ่านง่าย ๆ จะดูคล้าย ๆ หนังสือ โตเกียวไม่มีขา ของคุณนิ้วกลม ซึ่ง จากการอ่านเล่มนี้ พบว่า สไตล์การเขียนจะคล้าย ๆ กันมาก แต่ ในเล่มนี้นั้นไม่ได้พบเจอประสบการณ์ที่แปลกประหลาดอะไรมากมาย ๆ เป็นการเดินทางที่เรียบง่าย แต่เล่าเรื่องได้สนุกพอสมควร ก็เป็นหนังสือที่อ่าน และสะสม สำหรับนักอ่าน ยามว่างที่ดีอีกเล่มนึงเลยทีเดียว

เก็บตกจากหนังสือ

  • ชาวรัสเซียเป็นคนที่ยิ้มยาก อย่างยิ่ง
  • เราสามารถนั่งรถไฟ จากหัวลำโพงไปยัง ยุโรปได้ จริง ๆ
  • หนังสือ ใช้ภาษาอ่านง่าย ๆ เล่าเรื่องได้สนุก
  • ยังไม่มีส่วนเนื้อหาที่พบเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ระหว่างการเดิน ซึ่งการเดินทางในเล่มนี้ค่อนข้างราบเรียบ

Book Review : Jony Ive The Genius Behind Apple’s Greatest Products

หลังจากได้อ่านอัตถชีวประวัติของ Steve Jobs ของ walter isaacson แล้วหนังสือเล่มถัดไปที่ผมรอคอย ก็คือ หนังสือของ Jony Ive ซึ่งเป็นหนังสือแนวอัตถชีวประวัติ ของ Jony Ive ในฐานะ หัวเรือใหญ่ทางฝั่งของการ Design ของ apple ผู้ซึ่งมีอิทธิพลต่อ apple ในยุคใหม่ แทบจะรองจาก Jobs เพียงคนเดียวเท่านั้น

ในส่วนของเนื้อหาของหนังสือนั่นจะแบ่งเป็นส่วนต่าง ๆ ตั้งแต่ช่วงวัยเด็กในตอนเรียนทั้งมัธยมและ มหาลัย รวมถึงประสบการณ์ทำงานในแต่ละที่ของ Ive ซึ่งถ้ามองจริง ๆ Ive นั้น อัจฉริยะมาตั้งแต่เด็ก  ๆ  แล้วในเรื่องของการ Deisgn ซึ่งเขาได้คว้ารางวัลมากมายจาก สถาบันต่าง ๆ ในช่วงเรียนอยู่ ซึ่งเส้นทางอาชีพของ Ive นั้นจะต่างจาก Jobs มาก แทบจะไม่มีจุดหักเหใด ๆ เส้นทางอาชีพนั้นค่อนข้าง Perfect ทุกอย่าง ได้รับการยอมรับนับถือมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว

เนื้อหาส่วนใหญ่ของหนังสือจะกล่าวถึงเรื่องเกี่ยวกับการทำงานใน apple เป็นหลัก ตั้งแต่โปรเจคแรก ๆ ที่ Ive ทำอย่าง การ design เครื่อง newton และร่ายยาวมาในผลิตภัณฑ์ยุคใหม่ของ apple ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการ Design ผลิตภัณฑ์ ที่เป็นนวัตกรรม ที่พลิกฟื้น apple จากที่ใกล้จะล่มสลายทำให้เป็นบริษัทที่มีมูลค่า สูงที่สุดของโลกบริษัทหนึ่ง โดยใช้ Product เพียงไม่กี่ตัว ซึ่งถือว่า การ Design ของ Ive นั้นมีอิทธิพลต่อนวัตกรรมของ apple เป็นอย่างมาก ซึ่งหากไม่มี Ive นั้น apple ก็คงจะไม่ได้เติบโตมาจนถึงวันนี้ และไม่มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมอย่าง Ipod , Iphone หรือ Ipad ให้เราได้ใช้งานจนเป็นเรื่องปรกติเหมือนในทุกวันนี้

เก็บตกจากหนังสือ

  • Ive แทบจะมีอิทธิพลต่อ apple สูงมากรองจาก Jobs เท่านั้น
  • ใครที่มีปัญหากับ Ive นั้นมักจะลงเอยด้วยการเดินออกจาก apple สถานเดียว
  • Ive นั้นมีผลิตภัณฑ์ที่ Failed อยู่ในระดับนึง
  • Ive เป็นคนให้เครดิตการทำงานกับเพื่อนร่วมทีมเสมอ ซึ่งต่างจาก Jobs ในบางอย่างนั้น ไม่เคยให้เครดิตกับเพื่อนร่วมงาน

Movie Review : Diana


Review

ข่าวของเจ้าหญิงไดอาน่านั้น เป็นข่าวดังตั้งแต่ผมยังเด็ก ๆ อยู่จำได้ว่าช่วงนั้น ท่านดังมาก ๆ ในทุก ๆ สื่อตั้งแต่การ อภิเสก สมรสกับเจ้าฟ้าชายชาร์ล  รวมถึงการให้กำหนดบุตร อย่างเจ้าชาย วิลเลี่ยม  ซึ่งก็เป็นข่าวอยู่ตลอดในช่วงเวลานั้น

สำหรับหนังเรื่องนี้ ผมผ่านตามานานมากแล้ว และออกจากโรงไปนานแล้วเช่นเคย แต่เพิ่งได้มามีโอกาสดูใน ช่อง Fox Movies Premium ของ True vision ซึ่งก่อนดูก็ได้ตามอ่าน review ใน imdb บ้าง website pantip บ้าง ก็วิจาร์ณออกมาในเชิงไม่ค่อยดีเท่าไหร่สำหรับหนังเรื่องนี้  แต่เมื่อผมได้ลองมาดูจริง สำหรับผมหนังเรื่องนี้ ถือว่าเป็นหนังที่ดีที่สุดเรื่องนึงในส่วนของหนังที่เกี่ยวกับความรัก หนังว่าด้วยเรื่องของ เจ้าหญิงไดอานี่ ซึ่งรับบท โดย นาโอมิ วัตต์  เป็นเรื่องภายหลังจากมีการแยกกันอยู่กับเจ้าฟ้าชายชาร์ล เป็นต้นมาจน ท่านได้เสียชีวิต ด้วยอุบัติเหตุในฝรั่งเศษ หนังดำเนินเรื่องซึ่งเกี่ยวกับความรักของเจ้าหญิงไดอาน่า ที่มาพบรัก กับศัลยแพทย์ชาวปากีสถาน คือ Hanut  Khan ซึ่งในเรื่องนั้น ได้เล่าเรื่องราว ความรักระหว่างทั้งสองคน ที่ต้องผ่านอุปสรรคต่าง ๆ นา ๆ นัปการ จนไม่สามารถคบหากันได้แบบจริงจัง และเจ้าหญิงไดอาน่าได้มาเสียชีวิตในที่สุด เรื่องนี้ ผมมองว่า นาโอมิ วัตต์ เล่นบทนี้ได้ดีมาก ถึงบางครั้ง จะดูไม่เหมาะกับบทเจ้าหญิงซักเท่าไหร่ ซึ่ง เจ้าหญิงไดอาน่า นั้นเป็นคนที่สวยมาก ๆ ในยุคนั้น จึงทำให้มีการเปรียบเทียบอย่างชัดเจน แต่อย่างไรก็ดี ถ้ามองเพียงแค่บทบาทของเธอในการเล่นนั้น ถือว่า เล่นได้ดีมาก ๆ เรื่องนึงเลยทีเดียว เรื่องนี้สมัยเด็ก ๆ  ก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียดเท่าไหร่ แต่พอมาดูหนัง แล้วทำให้รู้จัก เจ้าหญิงไดาอาน่ามากขึ้น จริง ๆ ซึ่งเรื่องสำหรับคนที่ชอบหนังเกี่ยวกับความรัก ก็ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งอีกเรื่องนึง

เก็บตกจากหนัง

  • นาโอมิ วัตต์นั้น ถ้ามองความสวยนั้นถือว่า ยังไม่เหมาะกับบทเจ้าหญิงไดอาน่าเท่าที่ควร
  • หนังเป็นส่วนที่นำมาจากเรื่องจริงจากคำบอกเล่าของผู้ที่อยู่รอบตัวเจ้าหญิงไดอาน่า ซึ่งน่าจะถือว่าใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด
  • หนังจะสื่อถืงความรักที่มากมาย ระหว่างเจ้าหญิง ไดอาน่ากับ hanut khan เท่านั้น สำหรับตัวอื่นๆ  ในเรื่องแทบจะไม่มีบทบาทมากเท่าที่ควรจะเป็น
  • หนังเรื่องนี้ทำให้ความเข้าใจเกี่ยวกับโดดี้ อัลฟาเยด  นั้นเปลี่ยนไปอีกแบบจากที่ฟังจากข่าว ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นเรื่องจริง 100% หรือไม่

ระดับความมันส์

8/10


สรุป
“ดูหนังเรื่องนี้ก็จะเข้าใจชีวิตของเจ้าหญิงไดอาน่ามากยิ่งขึ้น”

Movie Review : Edge of Tomorrow


Review

สำหรับเรื่องนี้ เพิ่งได้มีโอกาสได้มาดูหลังจากลงโรงไปซักพักแล้ว  เรื่องนี้ ทอม ครูซ สวมบทผู้พันผู้ที่ไม่เคยออกรบแต่โดนส่งออกมารบกับ มนุษย์ต่างดาว ที่ได้ทำการยึดโลกไว้ ซึ่งมนุษย์จะทำการยกพลครั้งใหญ่ที่ฝั่งชายหาดของฝรั่งเศษ  ซึ่งเรื่องนี้ ดูใน trailer ผมก็นึกว่าจะเป็นหนังแนวสงคราวปะทะเอเลี่ยน โดยไม่ได้ดู review ของหนังเรื่องนี้มาก่อน เพียงแค่เข้าไปดูใน rating ของ imdb ซึ่งถือว่า สูงมากอยู่ที่ 8.0 จึงทำให้สนใจ

เนื้อหาของหนังนี่ ต้องดูตั้งแต่แรกเริ่ม ถึงจะเข้าใจรายละเอียดของหนังหากพลาดช่วงแรก ๆ อาจจะทำให้งงได้ เนื่องจากมีเรื่องของการย้อนเวลาเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้หนังวนอยู่ในจุดเดิม ๆ กว่าครึ่งเรื่องเข้าไปแล้ว กว่าจะหลุดไปส่วนอื่นก็ใกล้ๆ  จะจบหนังแล้ว  ซึ่งโดยส่วนรวมถือว่า หนังทำออกมาได้ค่อนข้างดีนะครับ  เป็นแนวคิดที่แปลกแหวกแนวอีกเรื่องหนึ่ง  ทำให้คนดูต้องคิดตามด้วย  ไม่ใช่หนัง action สงครามธรรมดาที่เดาตอนจบได้ง่าย ๆ เรื่องนี้มีจุดที่ทำให้คนดูต้องคิดตามเป็นจำนวนมาก ซึ่งช่วงแรก ๆ ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ ต้องดูไปซักพักถึงจะเข้าใจรายละเอียดของหนังครับ เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องนึงที่แนะนำให้ดูไม่ควรพลาดนะครับ สำหรับคนที่ชอบหนังแนวนี้ โดยรวมถือว่า สนุกมากครับ

เก็บตกจากหนัง

  • มีเรื่องของการย้อนเวลากลับทำให้หนัง วนอยู่จุดเดิม ๆ กว่าครึ่งเรื่อง
  • บางส่วนของหนัง ก็ยังไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ เช่นเรื่องของ ตัว boss alien
  • หนังนั้น scope มาที่ฉากส่วนใหญ่ที่ชาดหาดฝรั่งเศษ ตอนยกพลขึ้นบก

ระดับความมันส์

8/10


สรุป
“ถือว่าเป็นหนังที่แปลกแหวกแนวที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง”